คาถาป้องกันงู (ขันธปริตตชาดก)
เมื่อสัปดาห์ก่อนได้กล่าวถึงกำเนิด ชาติตระกูล และวิถีชีวิตเล็กๆ น้อยๆ ของเหล่าพญานาคกันไปบ้างแล้ว หลายคนคงเคยได้ยินมาว่า ตระกูลนาคนั้นเป็นสัตว์กึ่งทิพย์ที่ค่อนข้างดุร้ายเจ้าโทสะ ผู้ที่ไปทำร้ายโดยความตั้งใจก็ดี ป้องกันตัวเองก็ดี หรือพลั้งเผลอไปกระทบกระทั่งเข้าก็ดี อาจถูกเผาผลาญด้วยฤทธานุภาพหรือโดนฉกกัดได้
ในชีวิตประจำวันของเราเดี๋ยวนี้จะได้พบเจอพญานาคเหมือนเดินไปซื้อผักที่ตลาดคงไม่ค่อยมี จะเจอก็แต่บรรดางูบริวารทั้งหลายแต่ก็มีพิษร้ายถึงตายได้เหมือนกัน วันนี้จึงนำคาถาป้องกันงูมาฝาก ซึ่งเป็นวิธีป้องกันตัวจากงูอย่างถูกวิธี ชนิดที่ไม่ก่อเวรภัยให้กับตัวเองภายภาคหน้า นั่นคือ การกล่าวคาถาประกอบการเจริญเมตตาจิตซึ่งพระโพธิสัตว์เจ้าในอดีตและพระผู้มีพระภาคเจ้าของเราสั่งสอนในปัจจุบัน ดังเรื่องต่อไปนี้
สมัยพุทธกาล ภิกษุรูปหนึ่งกำลังผ่าฟืนอยู่ที่ประตูเรือนไฟ งูตัวหนึ่งเลื้อยออกจากระหว่างไม้ผุได้กัดเข้าที่นิ้วเท้า ภิกษุนั้นมรณภาพในทันที หลังจากนั้นเหล่าพระภิกษุทั้งหลายประชุมสนทนากันในโรงธรรมถึงพระภิกษุรูปโน้นที่ถูกงูกัดถึงแก่มรณภาพ พระศาสดาเสด็จมาได้ยินจึงตรัสถามว่า
" ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอนั่งสนทนากันด้วยเรื่องอะไร " เมื่อภิกษุทั้งหลายกราบทูลให้ทรงทราบแล้ว จึงตรัสว่า
" ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุรูปนั้นไม่ได้แผ่เมตตาจิตไปสู่ตระกูลพญางูทั้ง 4 เป็นแน่ เพราะถ้าภิกษุรูปนั้นแผ่เมตตาจิตไปสู่ตระกูลพญางูทั้ง 4 ภิกษุรูปนั้นจะไม่พึงถูกงูกัดถึงมรณภาพ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้แผ่เมตตาจิตไปสู่ตระกุลพญางูทั้ง 4 นี้ เพื่อคุ้มครองตน เพื่อรักษาตน เพื่อป้องกันตน แม้ดาบสทั้งหลายซึ่งเป็นบัณฑิตแต่ปางก่อนเมื่อพระพุทธเจ้ายังมิได้อุบัติ ก็ได้เจริญเมตตาในตระกูลพญางูทั้ง 4 จึงปลอดภัย เพราะอาศัยตระกูลพญางูเหล่านั้น " และตรัสเล่าเรื่องราวอดีตว่า
เมื่อครั้งพระองค์เกิดเป็นพระโพธิสัตว์ในตระกูลพราหมณ์ ณ กาสิกรัฐ พอเจริญวัยได้ออกบรรพชาเป็นฤๅษี บำเพ็ญภาวนาจนได้บรรลุอภิญญาและสมาบัติแล้วได้เนรมิตอาศรมอยู่ ณ ริมฝั่งแม่น้ำคงคา แลเป็นอาจารย์สั่งสอนฤๅษีจำนวนมากด้วย
ในที่นั้นมีงูอาศัยอยู่มาก ฤๅษีที่ถูกงูกัดส่วนใหญ่ก็ถึงแก่ความตาย พวกฤๅษีทั้งหลายจึงได้นำเรื่องนั้นไปแจ้งแก่ฤๅษีผู้เป็นอาจารย์ ท่านจึงสั่งให้ฤๅษีเหล่านั้นเจริญเมตตาจิตต่อตระกูลพญางูใหญ่ทั้ง 4 จำพวก และสรรพสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลายตามลำดับ ตั้งแต่สัตว์ไม่มีเท้า จนถึงสัตว์ที่มีเท้ามากกว่า ให้ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ซึ่งช่วยป้องกันให้ห่างจากสัตว์ร้ายเหล่านั้น ทั้งกลางวันและกลางคืน และขอสัตว์ทั้งหลายจงหลีกไปเสีย อย่าได้มาเบียดเบียนกันเลย
ฤๅษีเหล่านั้นก็ไดัพากันเจริญเมตตา และระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัยเป็นอารมณ์ ตั้งแต่นั้นมา งูและสัตว์ร้ายทั้งหลายก็มิได้มารบกวนอีกเลย
บทสวดและคำแปล ขันธะปะริตตะคาถา
วิรูปักเขหิ เม เมตตัง เมตตัง เอราปะเถหิ เม
ฉัพยาปุตเตหิ เม เมตตัง เมตตัง กัณหาโคตะมะเกหิ จะ
อะปาทะเกหิ เม เมตตัง เมตตัง ทิปาทะเกหิ เม
จะตุปปะเทหิ เม เมตตัง เมตตัง พะหุปปะเทหิ เม
มา มัง อะปาทะโก หิงสิ มา มัง หิงสิ ทิปาทะโก
มา มัง จะตุปปะโท หิงสิ มา มัง หิงสิ พะหุปปะโท
สัพเพ สัตตา สัพเพ ปาณา สัพเพ ภูตา จะ เกวะลา
สัพเพ ภัทรานิ ปัสสันตุ มา กิญจิ ปาปะมาคะมา
อัปปะมาโณ พุทโธ อัปปะมาโณ ธัมโม อัปปะมาโณ สังโฆ
ปะมาณะวันตานิ สิริงสะปานิ อะหิ วิจฉิกา สะตะปะที อุณณานาภี สะระพู
มูสิกา กะตา เม รักขา กะตา เม ปะริตตา ปะฏิกกะมันตุ ภูตานิ โสหัง
นะโม ภะคะวะโต นะโม สัตตันนัง สัมมาสัมพุทธานัง ฯ
. . . . . . . . . .
ขอความเมตตาของเรา จงมีกับงูตระกูลวิรูปักขะทั้งหลาย
ขอความเมตตาของเรา จงมีกับงูตระกูลเอราปถะทั้งหลาย
ขอความเมตตาของเรา จงมีกับงูตระกูลฉัพยาปุตตะทั้งหลาย
ขอความเมตตาของเรา จงมีกับงูตระกูลกัณหาโคตมกะทั้งหลาย
ขอความเมตตาของเรา จงมีกับสัตว์ไม่มีเท้าทั้งหลาย
ขอความเมตตาของเรา จงมีกับสัตว์ 2 เท้าทั้งหลาย
ขอความเมตตาของเรา จงมีกับสัตว์ 4 เท้าทั้งหลาย
ขอความเมตตาของเรา จงมีกับสัตว์มีเท้ามากทั้งหลาย
ขอสัตว์ไม่มีเท้าอย่าเบียดเบียนเรา สัตว์ 2 เท้าก็อย่าเบียดเบียนเรา สัตว์ 4 เท้าก็อย่าเบียดเบียนเรา สัตว์มีเท้ามากก็อย่าเบียดเบียนเรา ขอสัตว์ทั้งปวง ผู้มีลมหายใจทั้งสิ้น และผู้เกิดแล้วทั้งหมด จงประสบแต่ความเจริญทุกผู้เถิด อย่าได้รับโทษอันเป็นบาปอย่างใดเลย
พระพุทธเจ้ามีพระคุณหาประมาณไม่ได้ พระธรรมมีพระคุณหาประมาณไม่ได้ พระสงฆ์มีพระคุณหาประมาณไม่ได้ สัตว์เลื้อยคลานทั้งหลายมีคุณเล็กน้อย คือ งู แมงป่อง ตะขาบ แมงมุม ตุ๊กแก หนู
การรักษาเราได้ทำแล้ว การป้องกันเราได้ทำแล้ว ขอสัตว์ทั้งหลาย จงหลีกไป ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอนอบน้อมแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า 7 พระองค์
\(^0^)/ \(^0^)/ \(^0^)/ \(^0^)/ \(^0^)/
หากว่าพระคาถานี้ยาวเกินไปก็เอาไว้สวดเวลาไปต่างบ้านต่างถิ่น เข้าป่าเข้าที่รกก็ช่วยให้อุ่นใจได้ แต่ทุกๆ เช้าก่อนออกจากบ้าน และทุกๆ คืนก่อนนอนเราควรทำใจสงบนิ่งสักเล็กน้อย ระลึกถึงพระรัตนตรัยและคุณความดีที่เราเคยสร้างแล้วแผ่เมตตาไปให้สรรพสัตว์น้อยใหญ่ทั่วสารทิศ
การเจริญเมตตาทุกวัน ไม่ใช่แต่เพียงสัตว์ร้ายอย่างงูเท่านั้น แม้มนุษย์และสรรพสัตว์ต่างๆ ก็ไม่ทำอันตรายเรา เทวดาจะลงรักษา ภูตผีปีศาจไม่รบกวน เพราะอำนาจของความเมตตานั้นใส เย็น เมื่อแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์แล้วก็อย่าลืมแผ่เมตตาให้ตัวเองด้วยล่ะ ขอให้หลับ ตื่น นั่ง นอน ยืน เดิน เป็นสุขในที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อกันทุกคน
#lifEandSoul