มหาเศรษฐีจีนอุทิศตัวตระเวนเก็บขยะในบ้านเกิดทุกวัน
จงชงหรง มหาเศรษฐีชาวจีน เจ้าของกิจการชิ้นส่วนรถยนต์และโรงงานวัสดุสำหรับผลิตบรรจุภัณฑ์ที่มีมูลค่ารวมกันกว่า 100 ล้านหยวน ตระเวนเก็บขยะในเมืองฉงชิ่งบ้านเกิดทั้งเช้าและเย็นทำมาแล้ว 4 ปีและจะทำต่อไป แม้จะมีสายตาเยาะเย้ยก็ตาม
ทุกๆ วันหลังทานอาหารเช้าและอาคารค่ำ จงในวัย 54 ปีจะขับรถเมอร์เซเดสเบนซ์คู่ใจ พร้อมกับอุปกรณ์เก็บขยะอย่างที่คีบสเตนเลส และเครื่องขยายเสียงเล็กๆ ที่บันทึกเสียงไว้ว่า “โปรดอย่าทิ้งขยะเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมของพวกเรา และเพื่อให้เด็กๆ เติบโตขึ้นอย่างมีสุขภาพดี” ตระเวนไปตามท้องถนนในเมืองฉงชิ่ง โดยเฉพาะในย่านที่มีร้านอาหาร แล้วใช้เวลาราว 1-2 ชั่วโมงเดินเก็บขยะที่ชาวจีนทิ้งไม่เป็นที่เป็นทาง
มหาเศรษฐีรายนี้เผยว่า “นี่คือภารกิจในการเปลี่ยนนิสัยแย่ๆ ของผู้คน และเพื่อกระตุ้นให้คนพวกนี้ตระหนักในการรักษาสิ่งแวดล้อม และแม้จะถูกหัวเราะเยาะหรือเดินหนีบ้างก็ไม่ท้อ ยืนยันว่าจะเดินหน้าทำต่อไป”
ภารกิจเก็บขยะในบ้านเกิดของจงเริ่มขึ้นเมื่อปี 2015 หลังจากที่เขาได้พบกับอาจารย์เกษียณอายุของมหาวิทยาลัยชิงหัว ที่อุทิศตัวเก็บขยะในเมืองซานยาบนเกาะไหหลำของจีนพร้อมกับสามีทุกวัน สองสามีภรรยาได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้จงลุกขึ้นมาเก็บขยะบ้าง
เริ่มแรกลูกๆ และภรรยาของจงรู้สึกอับอายกับพฤติกรรมของสามีและพ่อที่ถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดจนไม่กล้าเดินกับจงในที่สาธารณะ และที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือภรรยาถึงขั้นขู่ว่าจะขอหย่าถ้าไม่เลิกเก็บขยะ เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของสามี เพราะจงเคยถูกกลุ่มวัยรุ่นที่เข้าไปเตือนให้ทิ้งขยะลงถังทำร้ายร่างกายจนเรื่องถึงสถานีตำรวจมาแล้ว
แต่ความคิดของลูกและภรรยาก็เปลี่ยนไปหลังจากได้เห็นภาพชุมชนที่สะอาดขึ้น และยังมีเสียงชื่นชมจากเพื่อนบ้าน นอกจากนี้เมื่อปีที่แล้วทางการเมืองฉงชิ่งยังประกาศในจงเป็น 1 ใน 10 บุคคลสาธารณะดีเด่น ส่วนคนในครอบครัวก็ได้รับรางวัลครอบครัวดีเด่นจากสมาคมสตรีจีนด้วย
ข่าวจาก https://www.posttoday.com/world/606557
งานเก็บขยะไม่ใช่งานต่ำ
เป็นการเก็บเพชรเก็บพลอย
ทำให้ใจของคนที่ทำสูงขึ้น
ส่วนคนที่ดูถูกว่าต่ำต้อย
ใจเขาก็จะต่ำลงเอง
ไม่มีงานใดต่ำหรือสูง
มีแต่ใจคนที่มองหรือทำว่าจะต่ำหรือสูงแค่นั้น
#lifEandSoul