ยากตรงหยุดแรก

วันที่ 28 เมย. พ.ศ.2563

ยากตรงหยุดแรก

 

 

หยุด แรกคือหยุดโม้

การคุย

หยุด ถัดมาคือลุย

หยุดไว้

หยุด สามหยุดฉลุย

ในหยุด

หยุด สี่หยุดห้าไซร้

หยุดให้สุดธรรม

 

                                                                          ตะวันธรรม

                     เมื่อเราได้สวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยกันเสร็จเรียบร้อยแล้วต่อจากนี้ไปตั้งใจเจริญสมาธิภาวนากันนะ ถ้าเราฝึกทุกวัน ปรับกันไปเรื่อย ๆ เราก็จะคุ้นเคยกับการวางใจที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ใจก็จะนิ่งได้ง่ายขึ้น แต่เดิมฝึกใหม่ ๆ ก็มีความฟุ้งอยู่ มากบ้าง น้อยบ้าง แต่พอเราฝึกบ่อย ๆความฟุ้งก็จะหมดไปเอง จะเหลือก็แค่ความตั้งใจมากเกินไปซึ่งทำให้เกิดอาการตึงเครียดที่ระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ตอนนี้
เราก็ต้องผ่อนคลาย ปรับให้พอดี ๆ 

 

 ความพอดี = พอใจ

                    พอดี สังเกตอยู่ที่เราพึงพอใจ แม้ยังไม่เห็นอะไรก็ตามมันจะเกิดความพึงพอใจว่า จะต้องวางใจอย่างนี้ หยุดใจอย่างนี้อยู่นิ่ง ๆ อย่างนี้ แล้วก็ไม่ต้องไปกังวลอะไรเลย ปล่อยอย่างนั้นไปเรื่อย ๆ ใจก็จะนิ่งเข้าไป

                    ถ้าถูกวิธี ตัวก็จะโล่ง โปร่ง เบาสบาย สบายในระดับที่เราเกิดความพึงพอใจ ทำให้กระตือรือร้นที่จะนั่งในรอบต่อ ๆ ไป แม้ยังไม่เห็นอะไรก็ตาม นั่นแปลว่า เราทำถูกหลักวิชชาแล้ว

 

                   ทีนี้เราก็รักษาความนิ่งนั้นให้นานขึ้น ให้แน่นขึ้น เข้าไปสู่ความนิ่งนี้บ่อย ๆ ทำบ่อย ๆ ก็จะนิ่งได้ง่ายขึ้น พอใจหยุดถูกส่วนเข้า เราจะรู้สึกว่า ใจมันเกลี้ยง ๆ เหมือนถูกกลั่นให้บริสุทธิ์ และมีความพึงพอใจเพิ่มขึ้น เมื่อเราหยุดได้แล้วมันจะมีความสุข มีปีติ สบายกาย สบายใจ อยากอยู่ตรงนี้ไปนาน ๆ นั่นน่ะ เราทำถูกวิธีแล้ว

                  แต่ถ้านั่งแล้วเรายังตึงกระบอกตา ตึงหน้าผาก นิ้วกระดก ไหล่ยก ท้องเกร็ง แสดงว่า เราตั้งใจมากเกินไปอย่าไปฝืนทำต่อ ต้องค่อย ๆ ผ่อน ลืมตาขึ้นมาสักนิดหนึ่ง แล้วก็ปรับใหม่ ฝึกกันไปอย่างนี้แหละ เดี๋ยวเราก็จะมีผลการปฏิบัติที่ดีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

 

 หลับตาทุกครั้งใจก็ถูกกลั่นให้บริสุทธิ์ขึ้น

                       การหลับตาแต่ละครั้ง แม้ว่าเรายังไม่ได้เข้าถึงแสงสว่าง ดวงธรรมหรือกายในกายภายใน ก็ไม่ได้แปลว่าเราไม่ก้าวหน้า แม้ไม่มีอะไรใหม่ ๆ มาให้เราดู แค่เราหยุดนิ่งเฉย ๆ ใจของเราก็จะถูกกลั่นให้บริสุทธิ์เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ สักวันหนึ่งเมื่อถึงจุดที่ถูกส่วนก็จะพรึบขึ้นมาเอง มันจะสว่าง แล้วเราก็จะมีความรู้สึกพึงพอใจกับความบริสุทธิ์นั้น

 

                   ใจที่บริสุทธิ์นี้มันมีความสุขมากกว่าใจที่ไม่บริสุทธิ์ที่ถูกเคลือบด้วยเบญจกามคุณ ด้วยความยินดียินร้ายในรูป เสียง กลิ่น รสสัมผัส ธรรมารมณ์ ปริมาณความสุขจะแตกต่างกันเลย ยิ่งแสงสว่างภายในเกิดขึ้น ก็จะยิ่งเพิ่มปริมาณแห่งความพึงพอใจมากขึ้นไปเรื่อย ๆ มันชวนให้เราติดตาม อยากศึกษาเรียนรู้เพิ่มขึ้นไปอีก

 

                  ใจยิ่งนิ่งนุ่มเบาสบาย แสงสว่างนั้นก็จะค่อย ๆ ขยายครอบคลุมไป เราก็จะเห็นจุดกึ่งกลางแหล่งกำเนิดของแสงสว่างเป็นจุดเล็ก ๆใส ๆ เหมือนดวงดาวในอากาศบ้าง เหมือนพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ
บ้างเหมือนดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวันบ้าง หรือบางคนโตเท่ากับฟองไข่แดงของไก่บ้างเกิดขึ้นมา

 

                  นั่นแหละคือรัตนะภายใน เป็นสิ่งที่มีคุณค่าอย่างสูง เป็นธรรมดวงแรก รัตนะดวงแรก ที่เทียบกับรัตนะ เพราะมันใสเหมือนแก้วเหมือนเพชรใส ๆ ที่มีทั้งมูลค่าและคุณค่า หลังจากนั้นเราไม่ต้องทำ
อะไรเลย ให้ทำอย่างเดิม คือ หยุดนิ่งเฉยไปเรื่อย ๆ นั่งหน้ายิ้ม ๆหลับตาพริ้ม ๆ

 

                 มันยากอยู่ที่หยุดแรก หยุดแรก ๆ นี่จะยากสักนิดหนึ่ง เพราะเราไม่คุ้นเคยกับการหยุดใจไว้ภายใน
เราคุ้นกับการหยุดใจไว้ภายนอก ไปที่คน สัตว์ สิ่งของธุรกิจการงาน บ้านช่อง อะไรต่าง ๆ เหล่านั้น หยุดใจ
ภายนอกได้แค่ความเพลิน ๆ หมดเวลาไปวัน ๆ แต่ถามว่ามีความสุขไหม มันก็ไม่ได้มีความสุข มันก็แค่เพลิน ๆ

 

                 ไม่สุขไม่ทุกข์ แต่เราคิดว่า มันเป็นความสุข เพราะเราไม่รู้จักว่า ความสุข เป็นอย่างไร                จะรู้จักคำว่า ความสุข หรือสิ่งที่ความสุขมี หรือเข้าถึงความหมายที่แท้จริงของคำว่า ความสุข เข้าถึงจิตวิญญาณของความเป็นสุข เนื้อหนังของความสุขมันต้องใจหยุดนิ่ง คำ ๆ นี้จึงจะปรากฏเกิดขึ้น

 

           เพราะฉะนั้นอย่าท้อในกรณีที่เรายังทำไม่ได้ ยังไม่เป็น ไม่ได้แปลว่า เราจะทำไม่ได้ตลอดชาติ แต่ฝึกบ่อย ๆ นั่งไปทุกวัน แม้ในอิริยาบถอื่น ยืน เดิน นอน ก็ฝึกทำความคุ้นเคยกับการวางใจเบา ๆ นึกเบา ๆ แตะใจเบา ๆ ในกลางท้อง โดยไม่กดลูกนัยน์ตาต้องอาศัยการฝึกนะลูกนะ ต้องฝึก อยู่ ๆ จะให้เป็นมาตั้งแต่เกิดมันคงเป็นไปได้ยาก แล้วก็ยังไม่เห็นมีใครเป็นกัน ต้องอาศัยการฝึกทั้งนั้น

 

                ลูกทุกคนอยู่ในวิสัยที่ฝึกได้ ที่จะเข้าถึงได้ ไม่ยากนัก ค่อย ๆทำไป

 

                 เพราะฉะนั้นวันนี้แม้เรายังไม่มีอะไรใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาให้เราดูในกลางกาย ก็ไม่ได้แปลว่าไม่ก้าวหน้า แต่ว่ามันดีขึ้นไปเรื่อย ๆ เราก็ฝึกไป แล้วก็นั่งนาน ๆ ขึ้น นิ่งนาน ๆ เข้า อย่างที่เขียนไว้ในบทเพลง
นั่นแหละ นั่นถอดประสบการณ์ออกมาเป็นบทเพลง ต้องทำอย่างนี้แค่นี้เท่านั้นถึงจะได้

 

ประสบการณ์เมื่อใจตกศูนย์


               ทีนี้พอถึงจุดที่ใจจะตกศูนย์ มันกลวงข้างในแล้ว เป็นโพรงเหมือนท่อบ้างเหมือนหลุมลึก ๆ เหวลึก ๆ หรือ บางทีเป็นที่โล่งลึก ๆมีความมืด จนกระทั่งเราหวั่นไหว เพราะไม่เคยมีประสบการณ์อย่างนี้มาก่อน มักจะกลัวกัน สะดุ้งหวาดเสียว กลัวว่ามันจะมีอะไรลึก ๆ ในนั้น จะตายหรือเปล่า ชีวิตเราจะสิ้นสุดวันนี้หรือ หรือจะหลุดไปเห็นสิ่งที่ไม่ดีอะไรต่าง ๆ จะเกิดความสะดุ้งหวาดเสียวก็มีบ้างบางคน

 

             สิ่งที่ลูกควรทำก็คืออย่าสูญเสียความสงบของใจ ให้ใจหยุดนิ่งเฉย ๆ อย่างนั้นเรื่อยไป อย่าให้ใจสูญเสียความเป็นกลาง ๆ ไม่ยินดียินร้ายในอารมณ์ต่าง ๆ หรือประสบการณ์ใด ๆ นิ่งต่อไป แล้วมันก็จะผ่านไป

 

             แต่ถ้าหากมันวื้ดลงไปแล้วเราสะดุ้งหวาดเสียว เราก็อนุญาตให้หวาดเสียวได้สักครั้ง สองครั้ง บ่อย ๆ เข้ามันก็จะค่อย ๆ คุ้นไปเพราะมันไม่มีอันตรายอะไร จะมีแต่สิ่งดี ๆ เกิดขึ้น พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ท่านถึงยํ้าว่า หยุดนี่ให้ใช้ได้ตลอดตั้งแต่เบื้องต้นจนกระทั่งเป็นพระอรหันต์ เราก็หยุดนิ่งไปเรื่อย ๆ

           แม้แสงสว่างแสงแรก แสงแก้วแสงแรกบังเกิดขึ้นก็อย่าลิงโลดใจตื่นเต้นจนเกินไป แต่ถ้าห้ามไม่ได้ก็ช่างมัน ถ้ามันหายไปก็เริ่มต้นใหม่อย่างง่าย ๆ นี่ก็เป็นสิ่งที่ลูกทุกคนอย่าฟังผ่านนะ เพราะไปถึงตรงนั้นจริง ๆ แล้ว เรามักจะลืมสิ่งที่ได้แนะนำเอาไว้ ลืมหลักวิชชากันหมดก็ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ธรรมดาเมื่อใจบริสุทธิ์หยุดนิ่งในระดับหนึ่งแสงสว่างภายในมันก็เกิดขึ้น เราก็นิ่งไปเรื่อย ๆ

 

            แล้วก็อย่าเพิ่งไปแสวงหาคำตอบว่า แสงมันมาจากไหน เป็นอย่างไร นี่ถูกหรือผิด แสงอะไร ใครฉาย ใครส่อง ใครเปิดไฟหรือลืมปิดไฟอะไรอย่างนี้ ให้นิ่งต่อไป

 

            เพราะกว่าจะเห็นแสงนี้ได้ เราก็นั่งกันมาหืดขึ้นคอแล้ว มันไม่ใช่ช่วงที่เราจะแสวงหาคำตอบอะไร สิ่งที่จะต้องทำ คือ หยุดนิ่งเฉย ๆอย่างเดิม ลองทำกันดูนะ

 

        อาทิตย์ที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๘

จากหนังสือ ง่ายเเต่ลึก เล่ม 1
                                                                                                              โดยคุณครูไม่ใหญ่

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0090509176254272 Mins