เพศพรหมจรรย์

วันที่ 28 กค. พ.ศ.2563

 

เพศพรหมจรรย์

                     อากาศยามเช้านี้ดูสดชื่นดีจัง ต้นไม้ใบหญ้ายังมีร่องรอยของน้ำค้าง ข้าพเจ้าชอบมองต้นไม้ทุกต้นในวัด ต้นไม้ในแดนบุญ ดูช่างมีชีวิตชีวากว่าที่อื่นจริง ๆ เช้าวันนี้คุณยายนั่งรถไฟฟ้าตรวจวัด โดยมีเปิ้ลเป็นคนขับและมีข้าพเจ้านั่งพ่วงท้ายรถไปด้วย


                      ตลอดเส้นทางที่รถผ่าน ข้าพเจ้ารู้สึกชื่นชมต้นไม้นานาชนิด บางทีก็แอบยิ้มให้กับกระรอกที่วิ่งไล่กันอยู่บนต้นไม้ นกเอี้ยงกำลังทะเลาะกันเสียงดังลั่น ขณะที่รถแล่นผ่านอาคารประชาสัมพันธ์ (หินอ่อน) มาทางสระน้ำพุ แต่ทว่า..สายตาของคุณยายทอดไกลไปถึงสนามหญ้าด้านหลังโบสถ์ ท่านให้เปิ้ลจอดรถและ
บอกข้าพเจ้าว่า "ไอ้หลาน ไปบอก ๒ คน นั่นให้ไปคุยกันที่อื่น" ด้วยน้ำเสียงเข้มของคุณยายทำให้ข้าพเจ้ารีบวิ่งลัดสนามหญ้าไปทางด้านหลังโบสถ์ เมื่อเข้าไปใกล้จึงรู้ว่า เป็นหนุ่มสาวชาวบ้านแถวนี้มานั่งจีบกันในวัด


                      ข้าพเจ้าพยายามอธิบายให้ทั้งสองเข้าใจว่า สถานที่นี้เป็นวัด เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ถ้าไม่ได้มาเพื่อรักษาบุญ หรือสร้างบุญแล้ว ขอความกรุณาออกไปคุยกันข้างนอก (คุณยายไม่ชอบให้ผู้หญิงผู้ชายมานั่งจีบกันในวัด)


                       ตกเย็น..เปิ้ลกลับไปทำภารกิจที่บ้านพัก พี่อารีพันธุ์ไปที่ครัวหลัง ระหว่างที่รอน้าเล็ก ข้าพเจ้าอยู่กับคุณยายเพียงลำพัง ในเวลานี้คุณยายจะเล่าเรื่องในอดีตให้ฟัง ท่านเล่าว่า "เมื่อก่อนยายต้องคอยไล่พวกผู้หญิงที่มาเฝ้าพระยาย กว่ายายจะเอาพระแต่ละองค์มาบวชได้ ต้องห้ำหั่นพวกผู้หญิง เหนื่อยแทบแย่"


                       ข้าพเจ้ากราบเรียนถามคุณยายว่า "คุณยายคะ ตอนคุณยายเป็นสาว คุณยายเคยถูกผู้ชายมาจีบไหมคะ"

 

                       คุณยายท่านตอบว่า "เคยเหมือนกัน"

 

                      ข้าพเจ้ากราบเรียนถามอีกว่า "แล้วคุณยายทำอย่างไรคะ"

 

                       ท่านตอบว่า "ถ้าเขามาซ้าย ยายก็ไปขวา ถ้าเขามาขวา ยายก็ไปซ้าย ถ้าเขามาถามมาก ๆ เข้า ยายก็บอกว่า ไม่รู้สิ  พวกนี้อย่าไปด่า ด่าไม่ได้นะ เดี๋ยวเขาแกล้งเอา ต้องเฉยไว้ แล้วเขาก็จะเลิกไปเอง"


                       สักครู่น้าเล็กมาถึง คุณยายเรียกน้าเล็กมานั่งข้าง ๆ แล้วท่านก็พูดว่า "คุณเล็กสบายแล้ว ไม่ต้องไปไกวเปลเลี้ยงลูก" น้าเล็กมองหน้าคุณยายแล้วยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ข้าพเจ้าแอบเห็นรอยยิ้มที่อิ่มสุขของ
น้าเล็กในวันนั้นได้อย่างชัดเจน


                       ชีวิตในเพศพรหมจรรย์ช่างโปร่งเบา สบายจริง ๆ  เหมือนคำพูดของคุณยายที่ว่า "คนไม่แต่งงานจะไปไหนก็ได้ เหมือนนกน้อยบินไปในอากาศ ค่ำไหนก็นอนนั่น"


                        เพศพรหมจรรย์นั้น คือ การสละสิ่งที่สละได้ยาก  แต่สักวันหนึ่ง..จึงจะรู้ว่า มันคุ้มค่ากับการที่ได้สละออกไป  "อิสรภาพในเบื้องต้น คือ การมีชีวิตที่ปราศจากคู่ครอง"
 

จากหนังสือ ดวงจันทร์กลางดวงใจ

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.059424964586894 Mins