สุขสามเณร ตอน1

วันที่ 17 สค. พ.ศ.2564

18-08-64-1-b.jpg

เรื่อง สุขสามเณร ตอน1


                ในอดีตกาลมีเศรษฐีประจำ เมืองพาราณสีคนหนึ่ง ชื่อคันธเศรษฐี เป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยมากพร้อมด้วยข้าทาสบริวาร วันๆไม่ต้องทำมาหากิน เสวยสมบัติที่เป็นมรดกตกทอดจากบิดามารดา วันหนึ่งผู้รักษาเรือนคลังของเศรษฐี ได้เปิดประตูห้องสำหรับเก็บทรัพย์ขนเอามาตรวจดู และชี้แจงให้เศรษฐีทราบว่า ในเรือนคลังมีรัตนชาติแก้วแหวนเงินทองเท่าไหร่บ้าง ทรัพย์ส่วนที่เป็นของบิดามารดาที่หามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรง ทรัพย์ส่วนนี้เป็นของบรรพบุรุษปู่ย่าตายายได้รวบรวมเอาไว้ซึ่งที่ผ่านมานั้นหมู่ญาติยังไม่ได้นำออกมาใช้จ่ายเลยทรัพย์สมบัติจึงมีมากมายเต็มเรือนคลัง

                 เศรษฐีตรวจดูกองทรัพย์แล้ว ถามคนดูแลว่า แล้วทำไมบรรพบุรุษของเราจึงไม่นำทรัพย์เหล่านี้ไปด้วยเล่า เมื่อได้รับคำตอบทำให้ชวนคิดว่า ที่ว่าผู้ที่จะเอาทรัพย์ไปด้วยนั้นน่ะไม่มีหรอกอันที่จริงสัตว์ทั้งหลาย เอาแต่เอาแต่กุศลกับอกุศล พี่ตนได้ทำเอาไว้เท่านั้นไปด้วยไปได้ ส่วนนอกนั้นก็ทิ้งไว้บนโลกนี้แหละ


                 เศรษฐีจึงคิดว่าบรรพบุรุษของเราพากันสั่งสมทรัพย์แล้วก็ละทิ้งกันไปเสีย เพราะเป็นผู้ไม่ฉลาดในการนำทรัพย์ไปด้วย ตัวเรานี่แหละจะเป็นผู้ถือออมทรัพย์นี้ติดตามตัวไปด้วยอย่างไรก็ตามวิธีการขนเอาทรัพย์ไปด้วยของคันธเศรษฐีนั้นไม่ใช่ว่าจะทำถูกหลักวิชาอย่างบัณฑิตนักปราชญ์ทั้งหลายท่านทำกัน


                  คือ เเทนที่จะคิดว่า เราจะนำทรัพย์ออกด้วยการให้ทาน หรือจะบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บูชาพระสาวก หรือ บูชาพระสถูปเจดีย์ ด้วยรัตนชาติที่มีอยู่ เขากลับคิดไปอีกอย่างหนึ่งว่าเราจะบริโภคใช้สอยทรัพย์เหล่านี้ให้หมดและจะขนออกมาแบ่งสันปันส่วนเพื่อใช้จ่ายไปตลอดทั้งชาติไม่ให้เหลืออะไรเอาไว้เลย คันธเศรษฐีได้สละทรัพย์แสนกหาปณะทำซุ้มที่อาบน้ำซึ่งทำด้วยแก้วผลึก 


                  ให้ทำบัลลังก์สำหรับนั่ง ให้ทำถาดทองสำหรับใส่โภชนะ ให้ทำมณฑพขนาดย่อมในที่บริโภค ซึ่งมีความวิจิตรตระการตามาก ได้ทำเตียงรองถาดโภชนะ ได้สร้างสีหบัญชรไว้ในคฤหาสน์ ซึ่งสิ่งก่อสร้างแต่ละอย่างนั้นหมดงบประมาณไปหลายแสนกหาปณะ นอกจากนี้เศรษฐียังต้องจ่ายทรัพย์ 1,000 เพื่อเป็นค่าอาหารเช้า ทรัพย์อีก 1,000 เพื่อเป็นค่าอาหารกลางวันและอีก 1,000 เป็นค่าอาหารเย็น  ส่วนในวันเพ็ญได้สั่งจ่ายทรัพย์แสนหนึ่ง 


                 ไม่ใช่เพื่อจัดอาหารถวายพระหรือบริจาคทานเพื่อคนยากไร้  แต่ไปซื้ออาหารที่มีรสเลิศที่สุดในพระนครมารับประทานเอง ในวันที่บริโภคภัตรนั้น ท่านเศรษฐีได้สละทรัพย์แสนนึงตกแต่งบรรณากรให้คนเที่ยวตีกลองประกาศว่า มหาชนเชิญมาดูการบริโภคของคันธเศรษฐี มหาชนได้ยินข่าวก็อยากจะรู้ว่า เศรษฐีจะมีวิธีการบริโภคอาหารนั้นอย่างไรบ้าง จึงชักชวนกันมาดูอย่างเนืองเเน่นทีเดียว


                 ฝ่ายคันธเศรษฐีนั่งบนแผ่นกระดานที่มีมูลค่า 1 แสนกหาปณะในซุ้มอาบน้ำที่จัดตกแต่งอย่างดีอาบน้ำด้วยหม้อน้ำหอม 16 หม้อ เปิดสีหบัญชรมาดูมหาชน ที่กำลังรอดูตัวเองบริโภคภัตแล้วเดินมานั่งบนบัลลังก์อย่างสบายอารมณ์


                 พวกคนใช้วางถาดทองไว้บนเตียงรอง ทุกโภชนะมีค่า 100,000 กหาปณะเพื่อเศรษฐี ท่านเศรษฐีมีหญิงนักฟ้อนเเวดล้อม ค่อยๆ บริโภคโภชนะที่มีรสอร่อยอย่างเบิกบาน สำราญใจ ประดุจเทพบุตรที่กำลังเสวยอาหารทิพย์


                  มหาชนที่มาดู ต่างเห็นกิริยาอาการของเศรษฐี ต่างก็มีความรู้สึกร่วมด้วยเหมือนกับว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งในการบริโภคภัตนั้น เศรษฐีเสวยสุขที่เกิดจากการกินอาหารที่มีค่าวันแล้ววันเล่าเป็นเดือนเป็นปีและหลายๆปี ด้วยความเป็นผู้รู้จักจัดสรรบริหาร ทรัพย์ แม้ว่าทรัพย์จะร่อยหรอลงไปก็ตาม เเต่ก็ลดลงตามที่ตัวเองจัดสรรไว้  


                  มีอยู่มาวันหนึ่งได้มีหนุ่มชายชนบทคนหนึ่งบรรทุกฟืน ใส่เกวียนคันเล็กๆ เพื่อต้องการแลกเปลี่ยน เสบียงเป็นอาหาร ได้ไปถึงพระนครพาราณสี เเละขอพักอยู่ในบ้านของสหาย  เนื่องจากวันนั้นเป็นวันเพ็ญ บริวารของเศรษฐีจึงได้เที่ยวตีกลองประกาศในพระนครตามปกติว่าให้มาดูการบริโภคของท่านคันธเศรษฐี สหายจึงได้ชักชวนชายหนุ่มขาวชนบทว่า เพื่อน ข่าวคราวการบริโภคภัตรของคันธเศรษฐี เพื่อนเคยเห็นหรือป่าว  เราลองไปดูกันเถิด


                 เนื่องจากหนุ่มชาวชนบทเห็นว่าดีกว่าอยู่ว่างๆ จึงติดตามเพื่อนไปชมด้วย  เมื่อไปถึงก็ได้เห็นมหาชนผูกเก้าอี้ซ้อนๆกัน ให้สูงขึ้นเหมือนอัฒจรรย์ เพื่อจะได้มองเห็นท่านเศรษฐีและอาหารที่มีรสเลิศ แม้จะไม่ได้รับประทาน เพียงได้มองเห็นและกลิ่นหอมของอาหารและดอกไม้หอมชนิดต่างๆที่โชยมาก็ชื่นอกชื่นใจกันแล้ว ฝ่ายสหายชนบทพอได้สูดกลิ่นภัต ซึ่งมีกลิ่นหอมหวลยวนใจ  ก็ไม่อาจยับยั้งชั่งใจ เพราะติดใจในกลิ่นอาหารที่หอมกรุ่น สุดแสนจะประณีตแม้รู้ว่าตัวเองยากจน แต่เมื่อถูกความทะยานอยากครอบงำเสียแล้วเขาจึงจะต้องหาทางทานอาหารนั้นให้ได้

โปรดติดตามต่อไป

 

ธรรมะเพื่อประชาชน

คุณครูไม่ใหญ่

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.013555284341176 Mins