เทวรถ
เทวรถจะมีลักษณะกึ่งเรือกึ่งรถ ไปได้ด้วยบุญฤทธิ์ของเจ้าของวิมาน เทวรถมีหลายขนาด อาจจะเป็นเทวรถส่วนตัวสำหรับไปเที่ยวเล่นชมสวนตามลำพังก็มี ไปเป็นทีมพร้อมบริวารก็มี เทวรถที่นำมาให้ดูนี้ เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ เอาไว้สำหรับศึกษาเรื่องเทวรถ ซึ่งเป็นผลที่เกิดจากอานุภาพแห่งบุญของผู้มีบุญที่ได้สร้างไว้ในเมืองมนุษย์จะโดยทานวัตถุก็ดี กุศลกรรมบถก็ดี หรือบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ประการก็ดี ฯลฯ
เทวรถมีหลากหลายสไตล์ เป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสนๆ แบบ ไม่ซ้ำกันเลย ขึ้นอยู่กับบุญของผู้เป็นเจ้าของวิมานสร้างไว้ และทุกแบบที่นำมาให้ชมนี้ เป็นเทวรถส่วนตัวสำหรับขับไปเที่ยวเล่นชมสวนในวิมานของตัวเอง ถ้าจะไปเทวสมาคมต้องเป็นเทวรถที่อลังการมากๆ เพราะบนสวรรค์เป็นที่ที่เขาโชว์กัน นี่เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ให้เราได้ศึกษากันเท่านั้น เทวรถทุกแบบนั้น สวยมาก สง่างาม เป็นทองประดับรัตนชาติ ถ้าอยากได้อย่างนี้ต้องหมั่นสั่งสมบุญ เพราะบุญกับบาปนี้ มีผลเป็นอจินไตย ทำบุญเล็กน้อยผลก็มหาศาล เช่นเดียวกัน ทำบาปเล็กน้อยผลก็มหาศาลเหมือนกัน เราจึงต้องเลือกที่จะสร้างบุญกันไว้มากๆ
เทวรถแบบไม่มีล้อ
มีลักษณะคล้ายๆ เรือกึ่งรถ เป็นรถไก่ฟ้าสีน้ำเงินมีตาสีแดง หงอนสีแดง ตอนท้ายเป็นหางคล้ายเรือ
เทวรถ ๒ ล้อ
เป็นรถกินรีถือดอกบัวดอกใหญ่ มีบริวารอยู่ข้างท้าย เจ้าของวิมานอยู่ตรงกลางมีเครื่องยศ เครื่องดนตรี ฯลฯ จะให้บินก็ได้ จะให้แล่นไปบนถนนทองคำในสวนวิมานของตัวเองก็ได้ แล่นไปเที่ยวเล่นชมสวนไป สบายใจ
เทวรถ ๓ ล้อ
เป็นรถที่นำด้วยม้า มีธงปลิวไสว เวลาเคลื่อน ม้าจะอยู่เฉยๆ แบบสง่าผ่าเผย แต่ล้อมันวิ่ง
เทวรถ ๔ ล้อ
นำด้วยไกรสรราชสีห์ ไม่ใช่สิงโต สิงโตผมจะยุ่งๆ แข็งๆ แต่ถ้าไกรสรราชสีห์ผมจะสลวยและขดเป็นทักษิณาวรรต สารถีจะขับด้วยบุญฤทธิ์ เสี้ยวฟ้าวทีเดียว ดูด้านหน้าเป็นไกรสรราชสีห์ใจดี ยิ้มด้วยอารมณ์ดี เห็นยิ้มๆ อย่างนี้สามารถกระโดดตะปบช้างกินได้เลย มีประติมากรรมเทวดาถือธงอยู่บนหลังไกรสรราชสีห์ ผมจะสวยเรียบ สวยมาก สง่างาม
เทวรถ ๖ ล้อ
นำด้วยช้างเผือกน่ารักชูดอกบัว ดูท่าควบสุดยอดเลย มีช้างอยู่ข้างหน้าและอยู่บนเทวรถ บรรทุกรัตนบัลลังก์และมณฑป มีธงหน้าหลัง
เทวรถ ๗ ล้อ
ในโลกนี้ยังไม่เคยเห็นรถเจ็ดล้อเลย ม้ามีทั้งหมด ๕ ตัว มีคู่หนึ่ง และอีกคู่หนึ่งรวม ๔ ล้อ และเดี่ยวอีกหนึ่งเป็น ๕ ล้อ ตรงตัวเทวรถมี ๒ ล้อ เป็น ๗ ล้อ มีรัตนบัลลังก์และมณฑป เจ้าของวิมานนั่งอยู่ใต้มณฑปดอกบัวเป็นชั้นๆ มีพัดแสดงเครื่องยศ มีดนตรี มโหรี ดีด สี ตี เป่า มองดูด้านหน้า เทวรถ ๗ ล้อนี้ สวย สง่างามมาก
เทวรถ ๘ ล้อ
มีรถพ่วงคันน้อยๆ ขนาบซ้ายขวาด้วย เหมือนมอเตอร์ไซค์พ่วงอย่างนั้น ดูด้านหน้าจะเห็นไกรสรราชสีห์ขนสีแดงทับทิมอมยิ้ม เจ้าของวิมานนั่งอยู่บนบัลลังก์ มณฑปดอกบัวเป็นชั้นๆ ซ้อนกันสวยมาก หัวหน้าบริวารนั่งอยู่สองซีก สวยสง่า มีธงมากมายที่เห็นอย่างนี้ สำหรับไปชมสวนนะ สวยงามมาก แต่ถ้าเป็นแถวๆ เทวสภา เขาจะอลังการกว่านี้มาก
เทวรถ ๙ ล้อ
ในเมืองมนุษย์เราคงไม่เคยเห็นรถเก้าล้อเลย มีกวางนำ ดูท็อปวิวจะเห็นธง มณฑปเครื่องยศ เจ้าของบริวารนั่งใต้มณฑป มีหัวหน้าบริวาร และบริวารด้วย ดูด้านหน้าจะเห็นกวางยิ้ม มีหัวหน้ากวาง และกวางบริวาร เราคงเคยเห็นภาพกวางเรนเดียร์ แถวแคนาดา หรือเดนมาร์ค สวีเดน ที่หิมะเยอะๆ กวางที่ลากล้อเลื่อน ไม่สวยเท่านี้เลย นี่สวยสง่ากว่า แล้วก็มีบริวารแต่งตัวแดงขาว ใส่หมวกดูเก๋กว่า ดูท็อปวิว รถพ่วงอย่างนี้เก๋จริงๆ
เทวรถ ๑๐ ล้อ
มีช้างเผือกน่ารัก ๕ ตัว หัวหน้าช้างอยู่นำหน้าตรงหัวรถ ช้าง ๑ ตัวจับดอกบัวบานหงาย บรรทุกบัลลังก์และมณฑปเจ้าของวิมาน มีเวทีให้นางอัปสรเต้นระบำ ฟ้อนรำกันอยู่ตรงนี้ มีดนตรี เครื่องยศ เจ้าของวิมานอยู่ที่บัลลังก์ตรงกลาง ดูด้านหน้าจะอลังการมากๆ แต่อลังการขนาดนี้ ก็ยังไปแถวเทวสภาไม่ได้ ดูท็อปวิว เห็นช้าง ๕ ตัวเป็นโขลงเลย สง่างามมาก
เทวรถ ๒๐ ล้อ
ทั้งสวยงามและอลังการมาก
สวนสวรรค์ ตอนที่ ๑
สวนสวรรค์ จะมีทั้งสวนหย่อม สวนย่อย และสวนใหญ่ สวนหย่อมเล็กๆ หลายสวนหย่อมจะอยู่ในสวนย่อย สวนย่อยหลายสวนย่อยจะอยู่ในสวนใหญ่ สวนที่จะนำมาให้ชมต่อไปนี้เป็นสวนหย่อมเล็กๆ ที่พอจะนำมาให้ดูได้เท่านั้น บนสวรรค์จริงๆ สวยงาม วิจิตรและประณีตกว่านี้มาก
สอนหย่อมทรงเสน่ห์
สวนหย่อมนี้เป็นสวนเล็กๆ กระจิดริด ของสวนย่อยในสวนใหญ่ของวิมานแห่งหนึ่ง ถนนสีเหลืองนี้เป็นทองคำ แต่ที่พิเศษคือ พื้นถนนทองคำที่รอบสระน้ำนี้มีรัตนชาติ
ปากทางเข้ามีเทวรถ ๒๐ ล้อ เป็นมัคคุเทศก์นำไปเที่ยวชม ทางเข้าสวนจะมีหลายทาง
ตลอดสองข้างทาง มีประติมากรรมสลับกับต้นไม้หลากสีทุกด้าน ซึ่งไม่ซ้ำกันเลยบนพื้นหญ้ามีดอกไม้ต่างๆ มากมาย สนามหญ้าสวยเนียนนุ่มชุ่มเย็น ไม่ต้องรดน้ำ ไม่ต้องตัดหญ้า ไม่ต้องใส่ปุ๋ย ไม่มีวัชพืช ไม่มีโรคแมลงใดๆ เลย
สวนหย่อมบนสวรรค์นี้ จะคล้ายทรงเรขาคณิต
ทรงของดอกไม้เขาจะไม่สับสนเหมือนเมืองมนุษย์ ที่มนุษย์มักใช้คำว่า Free Form แต่จริงๆ แล้วเสียฟอร์มที่เรียกว่า Free Form เพื่อให้เก๋เท่านั้น
ปากทางเข้าจะมีดอกบัวซึ่งมีเทพธิดา และน้ำตกเป็นขั้นๆ ไหลจากจุดหนึ่งไปตกอีกจุดหนึ่งสลับสับหว่างกันและมีวงดนตรีอยู่บนดอกบัวบาน วงจินตลีลา ฟ้อนรำ หลากลีลา มีทั้ง ดีด สี ตี เป่า เขย่าลูก นักฟ้อนจะฟ้อนกันเป็นทีมไปเรื่อยๆ เป็นทางเดียวกัน
บนดอกบัวบาน ถ้าเจ้าของวิมานมา เทพอัปสรบริวารที่อยู่ประจำสวนก็จะฟ้อนทันที มีวงดนตรี และ Dancer หลายวง หลากลีลาอยู่บนดอกบัวบานเหมือนกัน อยู่รอบๆ สวนหย่อม
ในสวนนี้ จะมีลมชนิดหนึ่ง ที่พัดดอกไม้ลอยไปในอากาศ แล้วเทพอัปสรก็จะไปเก็บดอกไม้มาร้อยเป็นพวงมาลัยเพื่อมอบให้เจ้าของวิมานที่จะเข้ามาชมสวน เป็นการบอกว่า ยินดีต้อนรับ เขาจะลอยไปอย่างนี้หลากสี ลอยไปเก็บมาร้อยเป็นพวงมาลัย มอบให้เจ้าของวิมานในทำนองเดียวกันทุกๆ สวน
สวนหย่อมนี้ มีประติมากรรมมากมาย เช่น ให้ข้าว ให้น้ำ ซึ่งการให้น้ำจะไม่เป็นอย่างนี้อย่างเดียว มีหลากหลาย
ถวายประทีป ไทยธรรม ดอกบัว บะหมี่ ในชามหยก ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นประติมากรรมรัตนชาติ มีประติมากรรมไก่ฟ้ายกผ้าทองที่คลุมแก้วมีแท่นรองรับเป็นทองฝังเพชรประดับเรียงรายในสวน สวยงามมาก
เข้าไปในสวนจะเห็นประติมากรรมผ้าป่าหลากสี และประติมากรรมหลายแบบ
มีเสาทอง ซึ่งมีประติมากรรมของเทพบุตรเทพธิดาอยู่ในท่าคุกเข่าเทสายน้ำเพชรพลอยออกมาจากคนโทอยู่บนเสา น้ำพุที่มาจากประติมากรรมนี้เป็นน้ำหอมฟุ้งหลายกลิ่นแต่ไม่ฉุน หอมชื่น ไม่ใช่หอมฉุน
น้ำพุนี้อยู่กลางสระทพุ่งออกไปสู่รอบสระ ซึ่งมีดอกบัวบานส่งกลิ่นหอมฟุ้ง
เราจะมีโอกาสได้ดูสิ่งสวยๆ งามๆ เช่นนี้ตลอดเวลา เมื่อเราอยู่บนสวรรค์ เพราะที่ตรงนั้นเป็นที่เสวยผลบุญ ทำบุญไว้ เมื่อเวลาผลแห่งบุญส่งผลแล้ว เราจะปลื้ม
จากหนังสือ มนต์เสน่ห์เเห่งสวรรค์ ทัณฑ์ทรมานเเห่งนรก