ฐานะ ๕ ประการ

วันที่ 21 พค. พ.ศ.2567

210567b01.jpg
 

ฐานะ ๕ ประการ
๓ มีนาคม ๒๕๓๕
พระธรรมเทศนาเพื่อการปฏิบัติธรรม วัดพระธรรมกาย
โดย... พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)

 

                ต่อจากนี้ให้ทุกคนตั้งใจให้แน่แน่ว มุ่งตรงต่อหนทางของพระนิพพานกันนะจ๊ะ ให้นั่งขัดสมาธิโดยเอาขาขวาทับขาซ้าย ให้มือขวาทับมือซ้าย นิ้วชี้ของมือข้างขวาจรดนิ้วหัวแม่มือข้างซ้าย วางไว้บนหน้าตักพอสบาย ๆ หลับตาของเราเบา ๆ หลับพอสบายคล้ายกับเรานอนหลับ อย่าไปบีบหัวตา อย่ากดลูกนัยน์ตา หลับพอสบายคล้ายๆ กับเรานอนหลับทุก ๆ คนนะจ๊ะ เมื่อเราหลับตาของเราเบา ๆ พอสบายแล้ว ต่อจากนี้ก็ทําใจของเราให้เบิกบาน ให้แช่มชื่น ให้สะอาด ให้บริสุทธิ์ ให้ผ่องใส จะได้เป็นใจที่เหมาะสมที่จะรองรับพระรัตนตรัย ทำใจของเราให้เบิกบาน ให้แช่มชื่น ให้สะอาด ให้บริสุทธิ์ ให้ผ่องใส จะได้เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะที่เหมาะสม ที่จะรองรับพระรัตนตรัยกันทุก ๆ คนนะจ๊ะ

 


                วันนี้เป็นวันมาฆบูชาซึ่งพวกเราชาวพุทธทั้งหลายได้ทราบกันเป็นอย่างดีว่าเป็นวันสำคัญวันหนึ่งในทางพระพุทธศาสนา และมาพ้องตรงกับวันกำเนิดของวัดพระธรรมกาย ซึ่งเราได้ถือกำเนิดกันในวันมาฆบูชาปี พ.ศ.๒๕๑๓ ยี่สิบหกปีที่ผ่านมา จึงถือเอาวันเป็นมหามงคลนี้เป็นวันเริ่มต้นสร้างวัดพระธรรมกาย นอกจากนั้นในวันนี้ ยังมีพิธีบุญที่บังเกิดขึ้นอีกหลายประการ ตอนนี้ก็จะมีพิธีบูชาข้าวพระ ได้แก่การนำเอาเครื่องไทยธรรมทั้งหลาย อันมีดอกไม้ธูปเทียน อาหารหวานคาว เราเอามาจากบ้านกันคนละเล็กคนละน้อย มาประชุมพร้อมกันที่นี่และก็น้อมนำกลั่นให้บริสุทธิ์จนกระทั่งมีความละเอียดเท่ากับพระธรรมกายภายในตัวของเรา จึงจะได้น้อมนำไป ถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระธรรมกายของพระพุทธเจ้าที่ท่านดับขันธปรินิพพานนานมาแล้ว แต่มีพระธรรมกายปรากฏอยู่ในอายตนนิพพานนับอสงไขยพระองค์ไม่ถ้วน การทำอย่างนี้เรียกว่าการบูชาข้าวพระ

 


                เพราะฉะนั้นวันนี้เป็นที่สำคัญเป็นวันบุญใหญ่ทั้งวัน พวกเราทั้งหลายก็จะต้องทำกาย วาจา ใจของเราให้สะอาด ให้บริสุทธิ์ ให้เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับบุญใหญ่ที่จะบังเกิดขึ้น บุญที่จะบังเกิดขึ้นในวันนี้ไม่ใช่ว่าจะบังเกิดขึ้นได้ง่าย จะต้องมีการบังเกิดขึ้นของธรรมกาย สิ่งนี้จึงจะบังเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย ทำวันนี้หนึ่งวัน มีอานิสงส์มากมายก่ายกองทีเดียว จนไม่อาจจะคำนวณได้ ท่านใช้คำว่าอสงไขยอัปมาณัง คือจะนับจะประมาณมิได้ คำนวณว่าเราจะได้บุญมากแค่ไหนนั้นยากทีเดียว และตอนนี้จะเป็นตอนที่เราจะประกอบพิธีบูชาข้าวพระ 

 


                อย่างที่กล่าวเอาไว้เมื่อตอนต้นว่าการบูชาข้าวพระนี้ เป็นคตินิยมของชาวพุทธสืบทอดกันมายาวนานตั้งแต่ในสมัยที่ พระผู้มีพระภาคเจ้าท่านยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ ในยามเช้าตรู่ผู้มีบุญในสมัยนั้น ก็จะได้เห็นพระองค์ท่านเสด็จนำพระสาวกบิณฑบาต ทรงบิณฑบาตไปในสถานที่ต่าง ๆ จะมีผู้มีบุญทั้งหลายได้นำอาหารหวานคาวกันจากบ้านคนละเล็กคนละน้อยมีกุศลศรัทธา ได้ถวายแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลาย เพื่อต้องการฐานะ ๕ ประการ ฐานะ ๕ ประการนี้เป็นสิ่งที่บังเกิดขึ้นได้ยากและก็ได้ได้ยาก ถ้าใครได้ฐานะ ๕ ประการนี้ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญอย่างยิ่งใน การสร้างบารมีไปจนกว่าจะบรรลุมรรคผลนิพพาน 

 


                ฐานะ ๕ ประการนี้ จะได้มาด้วยวิธีการเดียวเท่านั้นคือการให้ ให้ที่ใจใสสะอาดบริสุทธิ์ เป็นการให้ต่อปฏิคาหกคือทักขิไณยบุคคลผู้มีศีล มีธรรมอันบริสุทธิ์ จึงจะบังเกิดผลในการได้รับฐานะ ๕ ประการนั้น การให้นั้นแม้จะให้ตั้งแต่สัตว์เดรัจฉาน มนุษย์ที่ทุศีลที่ยังมีมือเปื้อนด้วยโลหิต กระทั่งผู้มีศีลมีธรรม กระทั่งเป็นถึงพระอริยเจ้า ฐานะ ๕ ประการนั้นได้แตกต่างกันไปตามลำดับ ได้ไม่เหมือนกัน ฐานะ ๕ ประการนี้เป็นสิ่งสำคัญ เป็นอุปกรณ์ที่จะสร้างบารมีอย่างสะดวกสบาย 

 


                ฐานะ ๕ ประการนั้นคือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฏิภาณ ถ้าใครอยากได้ฐานะ ๕ ประการนี้ คือ มีอายุขัยที่ยืนยาว ไม่ตายก่อนถึงเวลาอันควร มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีรูปสมบัติที่สวยงาม แข็งแรงอายุยืนยาว จงให้แก่ปฏิคาหกเถิด อายุยืนมีประโยชน์ต่อการสร้างบารมีเพราะอายุเป็นที่รองรับของทุกสิ่ง ไม่ว่าเราจะอยู่ในภาวะเพศอันใดก็ตาม ถ้าอายุยืนยาวแล้วเราก็จะรองรับสิ่งนั้นได้ยาวนานที่สุด ถ้าพูดถึงในฐานะของนักสร้างบารมี ถ้าหากว่าอายุยิ่งยาวเท่าไหร่ ยิ่งมีโอกาสสร้างบุญได้ยาวนานมากเท่านั้น

                        วรรณะก็คือความผ่องใสของผิวกาย จะมีผิวพรรณที่ผุดผ่องงามไปทุกวัยตั้งแต่ปฐมวัย มัชฌิมวัย กระทั่งปัจฉิมวัย จะแก่เฒ่าแค่ไหนก็ตามก็เป็นคนแก่ที่ใครอยากจะเข้าใกล้เห็นวรรณะแล้วผ่องใส มีผิวพรรณที่สะอาดเกลี้ยงเกลาละเอียดเนียนทีเดียว

                        ฐานะที่ ๓ ก็ได้แก่ความสุข จะมีความสุขกาย สุขใจ คำว่าสุขกายคือ กายจะไม่ค่อยจะปวดเมื่อยมึนซึม งง นั่งธรรมะก็ได้สะดวก นั่งได้นานก็จะไม่ค่อยจะปวดจะเมื่อย ไม่มึน ไม่ซึม ไม่งง มีความสบายกายและก็มีความสบายใจ

                        ฐานะที่ ๔ ได้แก่กำลัง คือกำลังจะมีกำลังใจที่เข้มแข็ง ย่อท้อไม่เป็น ไม่ว่าจะงานการใหญ่โตแค่ไหนก็แล้วแต่ กำลังใจที่เข้มแข็ง กำลังของความคิด จะมองปัญหาอะไรต่าง ๆ หรือมองงานต่าง ๆ ได้ทะลุปรุโปร่งครบวงจร แก้ปัญหาได้ มีกำลังวาจาที่พูดไปแล้วใคร ๆ ก็เชื่อฟัง น่าเชื่อถือ น่าทำตาม จะมีกำลังกายที่แข็งแรง ทำแล้วไม่เหน็ดไม่เหนื่อย

                        ฐานะที่ ๕ ได้แก่ปฏิภาณคือความไหวพริบเฉลียวฉลาด รู้แจ้งแทงตลอดทั้งทางโลกทางธรรม 

 

                ฐานะทั้ง ๕ นี้เนี่ย เราจะใช้เงินซื้อมาก็ไม่ได้ จะเอาสิ่งของอะไรไปแลกเปลี่ยนก็ไม่ได้ จะได้มาเพียงประการเดียวก็คือการให้ เพราะฉะนั้นในสมัยพุทธกาล พระผู้มีพระภาคเจ้า เสด็จนำพระสาวก ทรงบิณฑบาตจาริกไปตามที่ต่าง ๆ มหาชนผู้แสวง บุญผู้ใจบุญมีความปรารถนาบุญ ปรารถนาอยากจะได้ฐานะทั้ง ๕ นั้น จึงได้ใส่บาตรกัน อย่างเมื่อเช้าที่เราทำกันอยู่นั้นน่ะ เราจะได้ฐานะทั้ง ๕ โดยที่เราไม่รู้เนื้อรู้ตัว อย่างที่เราไม่รู้เรื่องเลย แต่จะรู้เรื่องหรือไม่รู้เรื่องก็แล้วแต่ เราก็จะได้ฐานะทั้ง ๕ อันนั้นแล้ว ติดตัวไปเป็นอุปกรณ์ในการสร้างบารมีไปทุกภพทุกชาติกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม

 


                เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าท่านดับขันธปรินิพพานไปแล้ว พุทธศาสนิกชนที่มีความปรารถนาฐานะทั้ง ๕ อยากเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า แต่พระองค์ท่านดับขันธปรินิพพานนานไปแล้ว จึงได้ถือเอาพุทธปฏิมานั้นเป็นตัวแทน ว่าแม้ท่านจะเสด็จดับขันธปรินิพพานนานไปแล้ว แต่พุทธปฏิมากรนี้คือตัวแทนของพระธรรมกาย ตัวแทนของพระผู้มีพระภาคเจ้า ประหนึ่งว่าท่านยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ ก็ได้จัดอาหารหวานคาว มาอย่างละเล็กละน้อย อย่างที่พวกเราหลาย ๆ ท่านในที่นี้ เคยเห็นเค้าเตรียมถาดกันและก็มีถ้วยเล็ก ๆ ใส่อาหารหวานคาวอย่างละเล็กละน้อย และก็นำไปตั้งไว้ที่หน้าโต๊ะหมู่บูชา กล่าวคำถวายอาหารหวานคาว แด่พุทธปฏิมากรอันนั้นในยุคแรกๆ ก็ยังมีความเข้าใจกันอยู่ ว่าต้องการฐานะ ๕ ประการนี้ 

 


                แต่ในยุคหลังก็ทำสืบต่อกันมา โดยก็ยังไม่ทราบถึงความหมายอย่างแท้จริง หรือความเข้าใจแต่ดั้งเดิมแต่ก็ยังสืบต่อกันมา การทำอย่างนี้เรียกว่าการขอถึงพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นการบูชาข้าวพระแบบขอถึง ต่อมาเมื่อหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญท่านได้บังเกิดขึ้นในโลก ท่านได้สละชีวิตอุทิศตน เพื่อค้นคว้าธรรมะของพระผู้มีพระภาคเจ้า และในที่สุดท่านก็ได้เข้าถึงวิชชาธรรมกาย ท่านรู้จักคำว่าธรรมกายว่า เป็นกายที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า ได้ค้นคว้าตามตำรับตำราในอัคคัญญสูตร ทีฆนิกายได้กล่าวถึงว่าธรรมกายคือชื่อของพระตถาคตเจ้า ส่วนกายเนื้อของพระสิทธัตถะนั้นยังไม่ใช่พระพุทธเจ้า แต่กายธรรมต่างหากคือพระพุทธเจ้า เมื่อหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญท่านได้ค้นพบพระธรรมกายและท่านค้นต่อไปว่ามีเฉพาะในตัวท่านองค์เดียวหรือว่ามีทั่ว ๆ ไป ก็พบว่ามีอยู่ในมนุษย์ทั่ว ๆ ไปทุกคน  

 


                ทุกท่านที่นั่งอยู่ในที่นี้ก็มีพระธรรมกายปรากฏอยู่ ท่านมีอยู่ภายในตัวของเราทุก ๆ คนแต่ว่าเราไม่รู้ว่ามี หรือรู้ว่ามี แต่ก็ไม่รู้วิธีการจะเข้าถึง หรือรู้วิธีการเข้าถึง แต่ยังไม่ปฏิบัติเพื่อเข้าถึง หรือปฏิบัติเพื่อเข้าถึงแต่ยังไม่ถูกวิธีจึงยังไม่ถึง เพราะฉะนั้นต่อมาหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ ท่านก็ได้แนะนำสั่งสอนศิษยานุศิษย์ ก็มีผู้บรรลุธรรมเข้าถึงธรรมกายเป็นจำนวนมากมายก่ายกองทีเดียว ในจำนวนนั้นก็มีคุณยายอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง คุณยายจันทร์ของเรานี้แหละ ท่านได้เข้าถึงไปรู้ไปเห็นในจำนวนหมื่นจำนวนแสนศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ได้ค้นคว้ามากับ สหายทางธรรมของท่านคืออุบาสิกาทองสุก สำแดงปั้น ก็ได้ค้นคว้ากันขึ้นมาได้เข้าถึงวิชชาธรรมกาย ก็ได้ศึกษากันต่อไปว่าจะมีวิธีการใดที่ 

 

 

                เมื่อพระพุทธเจ้าท่านดับขันธปรินิพพานนานไปแล้ว เหลือพระธรรมกายปรากฏอยู่ในอายตนนิพพาน ทำอย่างไรเราจึงจะได้ฐานะ ๕ ประการนั้น เช่นเดียวกับในสมัยก่อนโน้น ในที่สุดก็ค้นพบว่า จะต้องนำเครื่องไทยธรรมอาหารหวานคาว มีดอกไม้ธูปเทียนอาหารหวานคาวเหล่านี้ ต้องนำมากลั่นให้บริสุทธิ์ละเอียดเท่ากับธรรมกายที่มีอยู่ภายใน ด้วยวิชชาธรรมกาย แล้วก็น้อมนำเครื่องไทยธรรมซึ่งเป็นของละเอียดนี้ ไปถวายแด่พระธรรมกายของพระพุทธเจ้า ในอายตนนิพพานนับอสงไขยพระองค์ไม่ถ้วน คือแทนที่จะถวายพระองค์เดียว ก็ถวายทีเดียวหลาย ๆ พระองค์จนกระทั่งนับพระองค์ไม่ถ้วน บุญกุศลก็เกิดขึ้นมามากมายก่ายกองทีเดียว ฐานะ ๕ ประการ แทนที่จะได้อย่างปกติ ก็จะมากกว่าปกติ ติดตัวข้ามภพข้ามชาติกันไปกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม การทำอย่างนี้เรียกว่าการบูชาข้าวพระเพื่อให้ได้ฐานะ ๕ ประการอย่างนี้ 

 


                  ในภายหลังหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญท่านทราบท่านก็อนุโมทนาสาธุการและท่านก็ย้ำว่านี่แหละคือ การบูชาข้าวพระแบบเข้าถึงพระพุทธเจ้า ที่บูชากันอยู่ที่หน้าโต๊ะหมู่บูชาอย่างนั้นเรียกว่าแบบขอถึงพระพุทธเจ้า เข้าถึงย่อมมีอานิสงส์มากกว่าขอถึง เพราะฉะนั้นฐานะ ๕ ประการนี้คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฏิภาณ จะบังเกิดขึ้นแก่พวกเราทั้งหลาย ใครที่มีความแข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ มีอายุขัยยืนยาว มีรูปงามผิวพรรณวรรณะผ่องใส มีความสุขกายสุขใจ มีความสบายกายสบายใจ มีกำลังกายกำลังวาจา กำลังใจ มีความเฉลียวฉลาด ปฏิภาณไหวพริบคล่องรอบตัว นี่คือสิ่งที่ใคร ๆ ก็ปรารถนาเพื่อเป็นอุปกรณ์ในการสร้างบารมี

 


                  ในวันนี้พวกเราทั้งหลายที่เดินทางไกลมาจากที่ต่างประเทศก็ดี ภายในประเทศก็ดี จะมาเพื่อให้ได้ฐานะ๕ ประการนี้ เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะได้บูชาข้าวพระในแบบวิธีที่เข้าถึงตามที่หลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญท่านได้สอนเอาไว้ เราจะต้องทำใจของเราให้สะอาดให้บริสุทธิ์ ให้ผ่องใสให้เหมาะสม ที่จะเป็นภาชนะรองรับบุญใหญ่กัน วิธีการทำที่จะให้เข้าถึงธรรมกาย ซึ่งมีอยู่แล้วภายในตัวของเรา หลวงพ่อขอย้ำอีกทีนะจ๊ะ ธรรมกายนั้นมีอยู่แล้วในตัวของพวกเราทั้งหลาย ไม่ว่าจะมีความเชื่อถือแตกต่างกันยังไงก็ตาม จะเป็นคริสต์ เป็นพุทธ เป็นมุสลิมหรือจะมีความเชื่ออะไรก็แล้วแต่ ว่าเราเกิดมาเจออะไรเราก็เชื่อกันไปอย่างนั้น เกิดมาเป็นพุทธก็เชื่อพุทธเกิดมาเป็นคริสต์ก็เชื่อคริสต์ เกิดมาเป็นมุสลิมก็เชื่อมุสลิม เชื่ออิสลามอะไรสมมติอย่างนั้นนะจ๊ะ คือเกิดมาอยู่ในฟอร์มไหนก็เชื่อกันไปอย่างนั้น ก็ไม่เป็นไร 

 


                แต่ความจริงนั้น ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว คือคุณสมบัติของพระธรรมกายมีอยู่ภายในตัวของมนุษย์ทุก ๆ คน ไม่ว่าจะมีความเชื่อที่แตกต่างกันอย่างไรก็ตาม และสิ่งนี้รอคอยการพิสูจน์ของทุก ๆ คน ถ้าทุกคนกล้าที่จะพิสูจน์ มีความกระหายอยากจะรู้แจ้งเห็นจริง ไม่ปิดหูปิดตาของตัวเอง โดยเอาความเชื่อดั้งเดิมมาปิดหูปิดตา แล้วเริ่มลงมือศึกษาฝึกฝนค้นไปให้เจอเดี๋ยวเราจะเจอสิ่งที่มีอยู่แล้วภายในตัวของเรา พระพุทธเจ้าเมื่อท่านตรัสรู้ธรรมแล้ว ท่านไม่ได้มุ่งสอนเฉพาะชาวพุทธ แต่ท่านมุ่งสอนชาวโลก สอนมนุษย์ทุก ๆ คนที่อยู่ในโลกนี้ว่าของจริงมันมีอยู่แล้วในตัวของเรา อย่าปิดหูปิดตา อย่าเชื่อในสิ่งที่เค้ากล่าวเล่าตาม ๆ กันมา หรือเชื่อโดยกำเนิดที่ใครสอนไว้ให้เชื่อ ให้วางใจเป็นกลาง ๆ คือว่าไม่ใช่ว่าเชื่อหรือว่าไม่เชื่อ แต่ให้วางใจเป็นกลาง ๆ ต่อสิ่งนั้น ให้ทำตัวเป็นคนของโลกเป็นมนุษย์ของโลก แล้วศึกษาสิ่งที่เป็นสัจธรรมโดยไม่ขัดแย้งกับความเชื่อดั้งเดิมเลย เมื่อมีความตั้งใจอย่างนี้ ไม่ช้าเราก็จะเข้าถึงสิ่งที่มีอยู่แล้วในตัว  

 


                พระพุทธเจ้าท่านเอาสิ่งที่ท่านเข้าไปถึงที่มีอยู่แล้วในตัวนั้นน่ะนำมาเปิดเผย มีอยู่ตอนหนึ่งท่านได้กล่าวว่า ไม่ว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าจะบังเกิดขึ้นหรือไม่บังเกิดขึ้นก็ตาม "ธรรมธาตุ" นั้นมีอยู่แล้ว ธรรมกายนั้นมีอยู่แล้ว มีอยู่ในตัวอยู่แล้ว ผิดเป็นแต่เพียงว่าท่านรู้วิธีที่จะเข้าไปถึง แล้วไปถึงก่อนประดุจลูกไก่ตัวพี่ที่เจาะกะเปาะไข่ออกมาเป็นตัว เหมือนท่านได้หยุดนิ่งจนกระทั่งหลุดร่อนออกจากกิเลส อาสวะที่ครอบงำ เข้าไปถึงจุดนั้นก่อนเพราะฉะนั้นธรรมกายนี้มีอยู่แล้วในตัวของพวกเราทุก ๆ คนนะจ๊ะ โดยไม่ขัดแย้งกับความเชื่ออะไร เพราะฉะนั้นต้องทําใจเป็นกลาง ๆ และเดี๋ยวเราจะเข้าถึง

 


                วิธีการเข้าถึงนั้นก็คือการทำใจของเราให้หยุดให้นิ่ง คือใจที่แวบไปแวบมานำมาหยุดนิ่งอยู่ภายในตรงที่พระธรรมกายสิงสถิตอยู่ หยุดที่อื่นก็ไม่ได้นะจ๊ะ ถ้าหยุดที่ต้นไม้ก็ไม่ได้ หยุดที่จอมปลวกก็ไม่ได้ หยุดที่ภูเขาก็ไม่ได้ หยุดที่อารามศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ได้ ไปหยุดอยู่ที่ผู้วิเศษต่าง ๆ ก็ไม่ได้ ไปหยุดที่ของศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ก็ไม่ได้ ต้องหยุดอยู่ภายในตัวของตัวเอง พระธรรมกายท่านสิงสถิตอยู่ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ภายในตัวคือที่สิงสถิตของพระธรรมกาย

 


                เราจะทราบได้อย่างไรว่าฐานที่ ๗ อยู่ที่ตรงไหน หลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญท่านสอนอย่างนี้นะจ๊ะ ว่าฐานที่ ๑ อยู่ที่ปากช่องจมูก ท่านหญิงข้างซ้าย ท่านชายข้างขวา ฐานที่ ๒ ที่เพลาตา ตรงที่หัวตาที่น้ำตาไหล ท่านหญิงก็ยังอยู่ข้างซ้าย ท่านชายข้างขวา ฐานที่ ๓ อยู่ที่กลางกั๊กศีรษะ ในระดับเดียวกับหัวตาของเรา สมมติว่ากระโหลกศีรษะ ปราศจากมันสมอง ตรงจุดกึ่งกลางระดับเดียวกับหัวตานั่นหละเรียกว่ากลางกั๊กศีรษะ เป็นฐานที่ ๓ ฐานที่ ๔ อยู่ที่เพดานปาก ช่องปากที่อาหารสำลัก ฐานที่ ๕ อยู่ที่ปากช่องคอเหนือลูกกระเดือก

 

 

                สมมติปากช่องคอเป็นปากถ้วยแก้ว ตรงปากช่องก่อนที่อาหารจะลงไปในลำคอนะจ๊ะนั่นหละฐานที่ ๕ ฐานที่ ๖ อยู่ในกลางท้องเหมือนเรากลืนเข้าไปในท้องนะ อยู่กลางท้องระดับเดียวกับสะดือของเรา สมมติเราหยิบเส้นด้ายขึ้นมาสองเส้น เรานำมาขึงให้ตึง เส้นด้ายเส้นหนึ่งขึงจากสะดือทะลุไปด้านหลัง อีกเส้นหนึ่งขึงจากด้านขวาทะลุไปด้านซ้าย ให้เส้นด้ายทั้งสองตัดกันเป็นกากบาท จุดตัดเล็กเท่ากับปลายเข็ม ตรงนี้แหละเรียกว่าศูนย์กลางกายฐานที่ ๖ ให้สมมติเอานิ้วชี้กับนิ้วกลางวางซ้อนกัน แล้วนำไปทาบตรงจุดตัดของเส้นด้ายทั้งสอง สูงขึ้นมาสองนิ้วมือ เรียกว่าศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ตรงนี้แหละคือที่สิงสถิตของพระธรรมกาย 

 


                แต่ว่าเราเข้าใจหยาบ ๆ ว่าในท้องเรามีแต่ตับไตไส้พุง ไม่น่าว่าท่านจะไปสิงสถิตอยู่ได้อย่างไร พระธรรมกายที่ท่านเป็นกายละเอียดเป็นของละเอียดนะจ๊ะ เป็นของละเอียด และละเอียดมากทีเดียว เป็นกายที่ท่านซ้อน ๆ กันเข้าไป เป็นรัตนะภายใน พระสิทธัตถะท่านเข้าไปค้น ค้นพบรัตนะภายในซึ่งลี้ลับซับซ้อน ซ้อนกันเป็นชั้น ๆ อยู่ภายในตรงฐานที่เจ็ดตรงนี้ คือท่าน เมื่อใจท่านหยุดดีแล้ว ท่านก็เข้าถึงกายมนุษย์ละเอียด เห็นตัวเองอยู่ในกลางกาย และในกลางกายมนุษย์ละเอียดยังมีอีกกายหนึ่งซ้อนอยู่คือกายทิพย์ ในกลางกายทิพย์ยังมีอีกกายหนึ่งซ้อนอยู่เรียกว่ากายรูปพรหม ในกลางกายรูปพรหมยังมีกายหนึ่งซ้อนอยู่เรียกว่ากายอรูปพรหม ในกลางกายอรูปพรหมยังมีอีกกายหนึ่งซ้อนอยู่เรียกว่า "กายธรรม" 

 


                กายธรรมนั้นแหละที่ซ้อนอยู่ เห็นไหมจ๊ะว่าละเอียดเป็นชั้น ๆ เข้าไปทีเดียว เป็นรัตนะที่ลี้ลับซับซ้อน ซ้อนกันเป็นชั้น ๆ แต่ความรู้เรามาตันที่ตับไตไส้พุงอยู่ในท้อง แต่จริง ๆ แล้วมีซ้อนกันอยู่มีอยู่แล้วไม่ใช่ทำให้มีนะจ๊ะ อยู่ตรงฐานที่เจ็ดตรงนั้นแหละ เมื่อไหร่เราเอาใจของเรามาหยุดนิ่งตรงศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ดหรือว่าจำง่าย ๆ ว่าอยู่ในกลางท้อง และเราประคองใจให้หยุดนิ่งให้ถูกส่วนกันนะจ๊ะ ประคองใจให้หยุดนิ่งไม่ให้ใจวอกแวกไปคิดเรื่องอื่น โดยเรานึกถึงบริกรรมนิมิตคือเครื่องหมายให้ใจหยุด ที่ยึดที่เกาะของใจเรา สมมติว่าเป็นดวงแก้วใส ๆ นะจ๊ะ เพราะของกลม ๆ นี่มันนึกง่าย มันไม่มีหยัก ไม่มีงอ นึกของกลม ๆ ใส ๆ จะเป็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาวในอากาศ หรือเพชรลูกที่เจียระไนแล้ว ไม่มีขีดข่วนคล้ายขนแมวโตเท่ากับแก้วตาของเรา มาเป็นเครื่องหมายที่ยึดที่เกาะของใจเรา ตรงฐานที่ ๗     

 


                แล้วก็ภาวนาเพื่อไม่ให้ใจไปคิดเรื่องอื่น ภาวนาว่า สัมมาอะระหัง ๆ ๆ ภาวนาไปใจก็นึกถึงเครื่องหมายที่เป็นเพชรลูกใส ๆ หรือเป็นดวงแก้วใส ๆ หรือดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว น้ำที่กลิ้งอยู่บนใบบัว น้ำค้างปลายยอดหญ้าอะไรก็ได้ที่ใส ๆ นะจ๊ะ และก็ให้กลม นึกไว้ในกลางท้อง ตรงตำแหน่งที่เรามีความมั่นใจว่าตรงนี้เป็นฐานที่ ๗ เพราะฐานที่ ๗ จะเห็นได้อย่างแท้จริงเพราะใจหยุดแล้ว แต่ถ้าใจไม่หยุดเราได้แต่เพียงทึกทักคาดคะเนว่าอยู่ในกลางท้อง นึกถึงสิ่งใส ๆ อย่างนั้นนะจ๊ะ เครื่องหมายอันนั้นน่ะจะเป็นเพชร เป็นดวงแก้วใส เป็นดวงดาวในอากาศ พระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ หรือพระอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน หรือหยาดน้ำค้างปลายยอดหญ้า หรือก้อนน้ำแข็งใส ๆ น้ำที่กลิ้งอยู่บนใบบัว อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้นะจ๊ะ แต่ต้องให้ใส ใส

 


                แล้วก็ภาวนาไปโดยให้เสียงของคำภาวนาดังออกจากจุดกึ่งกลางของบริกรรมนิมิต ดังออกมาจากในท้องนั่นเอง ภาวนาสัมมาอะระหัง เรื่อยไปเลย อย่างสบาย ๆ ต้องสบาย ๆ นะจ๊ะ ภาวนาไปพอเพลิน ๆ ที่เราสมมติว่ามีดวงใส ๆ เพชร ใส ๆ ภาวนาไปเรื่อย ๆ โดยไม่ต้องคิดเรื่องอะไรเลย ภาวนาไป สัมมาอะระหังไป ประคองใจไป ไม่ช้าใจก็จะหยุดนิ่ง พอใจหยุดนิ่งถูกส่วนเดี๋ยวเราก็จะเข้าถึง จะเข้าถึงดวงธรรม ถึงความบริสุทธิ์ ในเบื้องต้นก่อน และเดี๋ยวเราก็จะเห็นกายภายในที่ซ้อน ๆ กัน เป็นกายแก้ว และก็จะเข้าถึงพระธรรมกายในที่สุด

 


               เราเป็นชาวพุทธถ้าไม่รู้จักพุทธรัตนะ ถ้ายังไม่เข้าถึงรัตนะ ยังไม่ถึงพุทธรัตนะยังไม่ชื่อว่าเป็นชาวพุทธที่แท้จริงนะจ๊ะ เป็นแค่ชาวพุทธในนาม เพราะฉะนั้นเราจะต้องเข้าถึงให้ได้ ที่เค้าเข้าถึงนี่มีมากทีเดียว พอเข้าถึงแล้วมีความสุข มีความปีติ มีความเบิกบาน ใจก็บริสุทธิ์แล้วก็รู้เรื่องราวอะไรต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวเราอีกเยอะแยะทีเดียวถ้าเราท่านี่จะเข้าถึงได้ไหม ก็เข้าถึงได้ สิ่งที่มนุษย์เคยทำได้ มนุษย์เท่านั้นทำได้ สิ่งที่มนุษย์เคยทำได้ มนุษย์เท่านั้นทำได้ เราเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ถ้าตั้งใจจริง ทำให้ถูกวิธี ไม่ช้าเราก็จะเข้าถึงพระธรรมกายได้ ถึงตอนนั้นเราก็จะหายสงสัยว่าพระธรรมกายเป็นของมีจริงเป็นของดีจริง แล้วเราก็จะได้ชื่อว่าเป็นชาวพุทธที่สมบูรณ์ พอถึงตอนนั้นน่ะเราจะประกอบพิธีบูชาข้าวพระอย่างไร เราก็ทําได้ฐานะ ๕ ประการที่เราจะได้นั้นเกิดควรเกินคาดทีเดียว

 


                เมื่อเข้าใจอย่างนี้ ต่อจากนี้ไปให้ทุกคน เอาใจหยุดใจนิ่งไปที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ กันทุก ๆ คนนะจ๊ะ ให้ใจตรึกนึกถึงดวงใส ให้ใสที่สุดเท่าที่จะใสได้ และก็ภาวนา สัมมาอะระหัง ๆ ๆ เรื่อยไปเลย จนกว่าคำภาวนามันหายไปเองนะจ๊ะ เหลือแต่ดวงใส ๆ ก็ให้รักษาดวงนี้ให้ติดตา ติดใจในกลางกายตลอดเวลา ต่างคนต่างทำกันไปเงียบ ๆ นะจ๊ะ เอาใจของเราให้หยุดให้นิ่งไปที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ให้ใจของเราให้หยุดให้นิ่ง อย่างสบาย ๆ อย่าไปตั้งใจเกินไปนะจ๊ะ อย่างที่ได้กล่าวมาแล้วเมื่อสักครู่นี้ว่า ผู้รู้ ผู้ที่ใจหยุดแล้วได้เห็นว่า ยังมีรัตนะที่ลี้ลับซับซ้อนกันอยู่ภายในเป็นชั้น ๆ คือ กายมนุษย์ละเอียด หรือกายฝัน หรือกายไปเกิดมาเกิดซ้อนอยู่ในกลางกายหยาบของเรา กายทิพย์ซ้อนอยู่ในกลางกายมนุษย์ละเอียด กายรูปพรหมซ้อนอยู่ในกลางกายทิพย์ กายอรูปพรหมซ้อนอยู่ในกลางกายรูปพรหม กายธรรมซ้อนอยู่ในกลางกายอรูปพรหม ซ้อนกันเป็นชั้น ๆ น่าอัศจรรย์อย่างนี้ทีเดียวแต่ถ้าหากใจของเราหยุดนิ่งได้ เราเข้าถึงความอัศจรรย์นั้นก็จะหมดไป เราจะเห็นแผนผังชีวิตของเราตั้งแต่ปุถุชนจนกระทั่งถึงการเป็นพระพระอริยเจ้า จะมีซ้อนกันอยู่ภายใน

 


                เพราะฉะนั้นเราจะไปหาอริยบุคคลอย่าไปหานอกตัวเรา ไม่เจอของจริงหรอก เพราะถึงแม้ใครเป็นพระอริยเจ้าท่านก็ไม่บอกเรา เราได้แต่เดาเอาคาดคะเนเอา แต่พระอริยบุคคล พระอริยเจ้าที่เป็นของเราอย่างแท้จริงนั้น ท่านอยู่ภายในตัวของเรา ซ้อนกันอยู่เป็นชั้น ๆ คือ พระธรรมกายนั่นเอง ตั้งแต่พระธรรมกายโคตรภู พระโสดา พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ ซ้อนกันอยู่ภายใน พระธรรมกายของท่านโตใหญ่แตกต่างกันไปทีเดียว ถ้าเมื่อไหร่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับองค์ท่านได้ เมื่อนั้นเราก็จะถ่ายทอดคุณสมบัติของท่านมาเป็นของเรา 

 


                การบูชาข้าวพระก็คือการที่เราจะน้อมนำเครื่องไทยธรรมซึ่งเป็นของหยาบนี้ กลั่นให้เป็นของละเอียดพอถูกส่วนเข้าเครื่องไทยธรรมก็ใสบริสุทธิ์เท่าและก็น้อมนำไปตั้งไว้ในกลางธรรมกาย เมื่อใจเราหยุดนิ่งถูกส่วนกับพระธรรมกาย ใส สว่าง ใส ละเอียด บริสุทธิ์ทีเดียว เราก็เข้าสมาบัติไปอย่างนั้นแหละ เข้าธรรมกายในธรรมกาย เข้าไปจนกระทั่งธรรมกายนั้นละเอียด ไปถึงในระดับหนึ่ง ก็จะถูกดึงดูดเข้าสู่อายตนนิพพาน พอถูกดึงดูดเข้าไปเมื่อความละเอียดเท่ากัน ฝูงนกเข้าฝูงนก ฝูงเนื้อเข้าฝูงเนื้อ คนมั่งมีก็เข้าไปอยู่ในหมู่ของคนมั่งมี คนยากจนก็เข้าไปอยู่ในหมู่คนยากจน สามเณรก็อยู่ในหมู่สามเณร พระก็อยู่ในหมู่ของพระ ธรรมกายก็อยู่ในหมู่ของพระธรรมกาย

 


                เมื่อธรรมกายของเราละเอียดไปถึงระดับหนึ่งแล้วนี้ ธรรมกายในอายตนนิพพานก็ดูดเข้าขึ้นไปเลย จะดึงดูดเหนี่ยวรั้งกันขึ้นไป เครื่องไทยธรรมก็จะไปปรากฏอยู่ในนั้นแหละ จะไปปรากฏสว่างในอายตนนิพพานไม่มีอะไรกำบัง เป็นที่โล่ง ที่ว่าง ไม่มีอะไรกำบัง สว่างด้วยธรรมรังสีของพระธรรมกายพระพุทธเจ้าพระอรหันต์ทั้งหลาย มีนับพระองค์ไม่ถ้วนทีเดียว ที่เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าไม่ได้สั่งสอนผู้ใดท่านก็จะอยู่องค์เดียวโดด ๆ ธรรมกายอยู่องค์เดียว แต่ก็อยู่ในอายตนนิพพาน ส่วนที่เป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้าก็มีพระสาวกล้อมรอบ เป็นพระธรรมกายเต็มไปหมดทีเดียว คุณยายท่านจะทับทวีเครื่องไทยธรรมเหล่านี้ น้อมไปถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระธรรมกายของพระพุทธเจ้า แด่พระพุทธเจ้า คือพระธรรมกายที่นับไม่ถ้วนที่ มากกว่าเมล็ดทรายในท้องพระมหาสมุทรทั้งสี่ นั้นน่ะ ท่านไม่ได้เสวยอาหารแบบพระสงฆ์ขบฉันหรอกนะ เพราะท่านพ้นภาวะอันนั้นไปแล้ว 

 


                แต่นี่เราต้องการถวายเป็นพุทธบูชาเพื่อต้องการฐานะ ๕ ประการนั้น เพราะฉะนั้นคุณยายท่านก็จะทับทวีเข้าไป โดยการทำใจหยุดนิ่งละเอียด กระทั่งธรรมกายนี้ละเอียดเข้าไปเรื่อย ๆ ความละเอียดสังเกตดูว่าธรรมกายโตใหญ่ขึ้น ใสยิ่งกว่าเพชร งามไม่มีที่ติ และสว่างยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ตอนเที่ยงวันหลาย ๆ ดวงเลยทีเดียวแต่เป็นความสว่างที่บริสุทธิ์ที่เย็นตาเย็นใจไม่เจิดจ้าเหมือนแสงอาทิตย์ตอนนี้ สว่างเย็นตาเย็นใจ คุณยายก็ทับทวีเครื่องไทยธรรมของพวกเราทั้งหลายไปถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระธรรมกายของพระพุทธเจ้า ทับทวีถวายกันให้ได้ทั่วถึงไปให้สุดรู้สุดญาณอย่างที่เคยทำมา และกราบทูลท่านขอบุญบารมี รัศมี กำลังฤทธิ์ อำนาจ สิทธิทุกอย่าง ให้ถึงแก่พวกเราทุกคน 

 


                นอกจากพวกเราจะได้ฐานะ ๕ ประการอันนั้นแล้ว คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฏิภาณ ที่ขอให้รู้แจ้งเห็นแจ้งแทงตลอด ให้ได้บรรลุธรรมที่หลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญท่านได้บรรลุ ให้ได้เป็นมหาเศรษฐีผู้ใจบุญ จะประกอบธุรกิจการงานอันใดก็ให้สำเร็จเป็นอัศจรรย์ ใครเจ็บไข้ได้ป่วยก็ให้บุญจากพระนิพพานลงหล่อเลี้ยงรักษา ให้หายเจ็บ หายป่วย หายไข้ ให้ร่างกายแข็งแรง ใครที่ปฏิบัติธรรมก็ขอให้มีดวงตาเห็นธรรม ใครเป็นนักเรียนนักศึกษา ก็ให้เล่าเรียนศึกษาความรู้ครูบาอาจารย์ให้แตกฉาน ใครที่เป็นนักธุรกิจก็ให้ซื้อง่ายขายคล่องกำไรงาม รวมสมบัติให้ได้มาช่วยกันขยายงานพระศาสนา วิชชาธรรมกายให้เป็นที่พึ่งต่อชาวโลกให้เป็นที่รักของมนุษย์ของเทวดาทั้งหลาย สิ่งที่ไม่ดีต่าง ๆ เช่น อัคคีภัย โจรภัย ราชภัย ภัยทุกชนิด อย่าได้มากล้ำกราย ให้พบปะแต่สิ่งที่ดีงาม สิ่งที่เป็นสิริเป็นมงคล สิ่งที่จะนำมาซึ่งความสุขความเจริญรุ่งเรืองให้บังเกิดขึ้นอุปสรรคต่าง ๆ นานา ที่บังเกิดขึ้นก็ให้ละลายหายสูญ 

 


                ด้วยอานุภาพแห่งบุญที่บูชาข้าวพระนี้ ใครที่มีกำลังใจน้อยก็ให้มีกำลังใจมาก ใครเป็นยอดกัลยาณมิตรก็ขอให้มีพลังบุญพิเศษที่จะไปทำหน้าที่ของยอดกัลยาณมิตรให้สมบูรณ์ จะไปชักจูงแนะนำใครให้เค้าตั้งมั่นอยู่ในพระรัตนตรัยให้มีใจเลื่อมใสในมหาทานบารมี จะเดินทางไปทุกที่ก็ให้ปลอดภัย ให้ได้รับการต้อนรับอย่างดีเยี่ยมจากผู้ประเสริฐที่อยู่แดนไกลนั้น ให้บุญหล่อเลี้ยงรักษาทุกคนให้อยู่เย็นเป็นสุข ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข เป็นครอบครัวธรรมกาย ปฏิบัติธรรมะก็ให้เข้าถึงอย่างง่ายอย่างดาย จะมีพวกพ้องบริวารก็ให้ได้คนซื่อสัตย์สุจริต บริสุทธิ์กายวาจาใจ มาช่วยกันทำงานนั้นให้บรรลุเป้าหมาย และด้วยอานุภาพแห่งบุญที่บูชาข้าวพระนี้ ขอให้การสร้างมหาวิหารพระมงคลเทพมุนี สร้างธรรมกายเจดีย์ซึ่งเป็นหลักชัยของโลกให้สำเร็จเป็นอัศจรรย์ ให้ได้ผลบุญนี้ทันตาเห็น ให้บังเกิดขึ้นกับทุก ๆ คน  

 


                คุณยายขอบุญบารมี รัศมี กำลัง ฤทธิ์ อำนาจ สิทธิ์ของพระธรรมกายของพระพุทธเจ้าในอายตนนิพพาน พร้อมกับทับทวีอาหารทิพย์ ถวายเป็นพุทธบูชา ต่อไปกันเรื่อย ๆ ว่าความปรารถนาอันใดที่ทุก ๆ คนตั้งเอาไว้อย่างดี ให้สำเร็จเป็นอัศจรรย์ให้ได้ผลบุญปัจจุบันสำเร็จเป็นอัศจรรย์ และผลบุญนี้ให้ส่งผลติดตามตัวไปทุกภพทุกชาติ กระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม คุณยายกราบทูลพระธรรมกายพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ให้ได้ลงหล่อเลี้ยงรักษาทุก ๆ คนที่ได้เดินทางไกลมาทั่วประเทศ และต่างประเทศ ให้ได้พบความสุขความเจริญรุ่งเรือง ความสำเร็จในชีวิตเป็นอัศจรรย์ ให้รวมกันเป็นจุดเดียว 

 


                พวกเราซึ่งเป็นเจ้าของบุญใหญ่ในวันนี้ก็ให้ตั้งใจกันให้เต็มที่ อย่าลืมตากันนะจ๊ะ อย่าพูดอย่าคุยกัน เพราะตอนนี้เป็นตอนสำคัญที่บุญจากพระนิพพานกำลังหลั่งไหลบังเกิดขึ้นเป็นดวงบุญติดอยู่ที่กลางกายของพวกเราทุกคนไปทุก ๆ กาย ดวงบุญนี้จะเป็นบ่อเกิดแห่งความสุขและความสำเร็จในชีวิตทั้งที่เป็นปุถุชนกระทั่งถึงเป็นพระอริยเจ้า จะทำให้เราสมบูรณ์ไปด้วยสมบัติทั้งสาม รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติคุณสมบัติ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข มรรคผลนิพพาน ให้ทุกคนตั้งความปรารถนาที่กลางใจหยุดใจนิ่งกันไว้ให้ดี ๆ ทุก ๆ คนเลยนะจ๊ะ

 

 

 

 

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0010972658793132 Mins