สูบบุหรี่ ผิดศีลข้อ ๕ หรือไม่

วันที่ 26 กค. พ.ศ.2567

2567%2007%2026%20B.png

 

สูบบุหรี่ ผิดศีลข้อ ๕ หรือไม่

 

          บุหรี่เป็นสิ่งที่ทั่วโลกให้ความสนใจมากเรื่องหนึ่ง     ต่างมีความเห็นที่แตกต่างกันในข้อที่ว่าควรหรือไม่ควร ฝ่ายที่เห็นว่าสูบได้ไม่ควรห้าม ก็มีไม่น้อย ฝ่ายที่เห็นว่าไม่ควรสูบ ก็มีจำนวนมาก จึงต่างก็หาเหตุผลมาอ้างให้เข้าข้างตนเป็นหลักใหญ่และก็ทำอะไรไปตามที่ตนเห็น เช่น ฝ่ายที่เห็นว่าสามารถสูบได้ ก็ผลิตบุหรี่ออกมาเป็นสินค้าอำนวยประโยชน์ มีการโฆษณาเชิญชวนถึงรสชาติ ยี่ห้อตลอดถึงค่านิยมในหมู่คนติดบุหรี่ สร้างกำไรให้ตนเป็นล่ำเป็นสัน ถึงระดับส่งไปขายข้ามชาติ และมีอำนาจถึงระดับการปกครองประเทศนั้นๆ ก็ยังมี

 

         ฝ่ายที่เห็นว่าไม่ควรก็ออกมาต่อต้าน   ออกมาให้ความรู้ถึงโทษของการสูบบุหรี่    บางประเทศไม่อาจตัดสินได้ว่าควรหรือไม่ควร แต่ก็ออกกฎหมายห้ามสูบในที่สาธารณะ ห้ามสูบในร้านอาหาร ในโรงพยาบาล เป็นต้น ซึ่งแสดงว่าเห็นด้วยว่าไม่ควร แต่ก็ไม่ทำให้ฝ่ายที่เห็นว่าควรกระทบกระเทือนมากนัก วางตนเหมือนว่าเป็นกลาง บางประเทศมีกฎหมายให้ประกาศถึงพิษภัยของบุหรี่ไว้ที่ซองบุหรี่ เพื่อให้คนหวาดกลัวจะได้ไม่สูบบุหรี่

           แต่ถึงอย่างไร   บุหรี่ก็ยังมีจำหน่ายและขายดีที่สุด  สร้างกำไรมหาศาลคนที่ติดบุหรี่ก็ยังซื้อหามาสูบกันอยู่ โดยไม่เกรงกลัวพิษภัยใดๆทั้งสิ้น


          อันที่จริง  คนส่วนใหญ่ก็รู้อยู่ว่าบุหรี่มีพิษมีโทษร้ายแรง  แม้จะไม่ยอมรับว่าบุหรี่เป็น  ยาเสพติด แต่ก็ยอมรับว่าบุหรี่เป็น สิ่งเสพติด เพราะเห็นว่าไม่เป็นยาเสพติด จึงไม่มีกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ หรือบทลงโทษในการสูบบุหรี่และเพราะเห็นว่าบุหรี่เป็นสิ่งเสพติด เท่ากับยอมรับว่าบุหรี่มีพิษภัยจริง จึงมีกฎหมายห้ามมิให้สูบในที่สาธารณะ เป็นต้น บางแห่งห้ามไม่ให้สูบแม้ใกล้บ้านที่มีคนอาศัยอยู่ เพราะจะทำให้ควันบุหรี่ถูกลมพัดเข้าไปในบ้านคน ทำให้คนในบ้านได้รับผลกระทบไปด้วย


             แล้วการสูบบุหรี่เป็นการผิดศีลข้อ ๕ หรือไม่


          อันที่จริงยังไม่มีการเอ่ยถึงเรื่องการสูบบุหรี่ว่าผิดศีลข้อ   ๕   หรือไม่อย่างไรเพราะบุหรี่ไม่ใช่สุราและเมรัย และยังไม่มีการรับรองว่าเป็นมัชชะ คือสิ่งที่ทำให้มึนเมา ดังนั้น หากจะจัดเข้าในศีลข้อนี้ก็จัดได้โดยการอนุโลมเข้าเท่านั้น


            แต่จะผิดศีลหรือไม่ผิดศีลข้อนี้อย่างไรคงไม่ใช่ประเด็นใหญ่  ประเด็นใหญ่ของเรื่องบุหรี่ก็อยู่ที่โทษที่เกิดขึ้นจากการสูบบุหรี่เป็นหลัก โทษของบุหรี่นั้นมีแน่อาจรุนแรงกว่าสุราและเมรัยเสียด้วยซ้ำไป ทั้งเสียทรัพย์ซื้อหามาสูบ ทำให้เสียบุคลิกภาพ ไม่น่าคบหา ไม่น่าเข้าใกล้ ทำให้เสียสุขภาพคือทำให้เกิดโรคร้ายได้

 

2567%2007%2026.b.jpg

2567%2007%2026b.jpg

          โรคร้ายที่เกิดจากการสูบบุหรี่มาเป็นเวลานานนั้น    คือโรคมะเร็งปอดโรคถุงลมโป่งพอง โรคนี้ทางแพทย์ก็ประกาศเตือนไว้ตลอดมา แต่ผู้คนก็ยังติดบุหรี่และเป็นโรคนี้กันมากขึ้น เสียเงินเสียชีวิตกันไปมากมาย


           เพราะบุหรี่เป็นสิ่งเสพติด  เมื่อเสพเข้าไปแล้วก็ติด  ต้องหามาเสพต่อไปเรื่อยๆ  เลิกก็ยากทั้งที่อยากจะเลิกเพราะมันติดเสียแล้ว ก็จำต้องทนสูบต่อไปแม้จะทำให้คนอื่นรำคาญ ทำให้คนอื่นเหม็น หรือทำให้คนอื่นทนไม่ได้ก็จำต้องสูบตามปกติ นึกจะสูบที่ไหนก็สูบ เวลาไหนต้องการก็หามาสูบเพราะหาซื้อได้ง่ายจึงกลายเป็นความเคยชินทั้งคนที่สูบ คนที่อยู่ใกล้ชิด และคนที่เดินผ่านกันไปมา


             แต่ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีการตัดสินว่าสูบบุหรี่ผิดศีลหรือไม่     เป็นเวรเป็นภัยให้โทษต่อไปถึงภพหน้าชาติหน้าเหมือนสุราเมรัยหรือไม่ การสูบบุหรี่ก็ยังมีโทษอยู่ดี อันเป็นโทษที่เห็นได้ชัดในปัจจุบันดังที่ทราบกันอยู่

 

           แม้จะเข้าข้างตัวเองว่าสูบแล้วไม่เห็นเป็นอะไร   ยังทำงานทำการได้เป็นปกติ  โรคภัยอะไรก็ไม่มี เงินทองก็มีซื้อหาได้ไม่เดือดร้อนอะไร และสูบแล้วก็ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน จะเดือดร้อนก็เดือดร้อนเฉพาะตัวเอง คนอื่นไม่ต้องมาเดือดร้อนด้วย อะไรทำนองนี้


            ก็จำต้องปล่อยเขาไปตามเรื่อง    เพราะคนที่ติดบุหรี่จะมีความคิดทํานองนี้ด้วยกันทั้งนั้น


           แต่ก็เป็นเวรเป็นภัย  และเป็นภาระกับคนรอบข้างของเขา  เช่น  บุตรธิดาเขา ภรรยาเขา บิดามารดาเขา หรือคนร่วมงานของเขา ซึ่งต้องอยู่ร่วมกับเขาต้องทนสูบควันบุหรี่ ทนเหม็นควันบุหรี่ที่เขาพ่นออกมา เหม็นทั้งร่างกายและเสื้อผ้าของเขา โดยที่เขาไม่รู้ตัวว่าเหม็นอย่างไร หรือใครเขาเดือดร้อนอันเกิดจากการสูบบุหรี่ของตัวเองอย่างไร


            นับเป็นบุญประเสริฐแท้สำหรับคนที่ไม่ได้สูบบุหรี่และคนที่เลิกสูบได้แล้ว    เพราะไม่ต้องมีเวรภัยกับบุหรี่ ไม่ต้องเป็นโรคจากบุหรี่ ไม่ต้องเป็นบุคคลที่น่ารังเกียจของสังคมส่วนหนึ่ง แต่ก็อย่าได้ประมาท เพราะแม้ไม่สูบบุหรี่ แต่ไปสูดควันบุหรี่จากคนอื่นประจำก็สามารถติดโรคได้ หรือเลิกบุหรี่มานานแล้วแต่ก็ยังเป็นโรคเกี่ยวกับปอดเกี่ยวกับการหายใจคือโรคมะเร็งปอด โรคถุงลมโป่งพองได้ เพราะเชื้อร้ายที่ฟักตัวอยู่ในปอดยังมีอยู่ เมื่อปอดมีภูมิต้านทานน้อยลง เชื้อร้ายก็จะมีกำลังกำเริบขึ้น ทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้


           อย่างไรก็ตาม  การไม่สูบบุหรี่ ไม่แตะต้อง ไม่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ ไม่ว่าจะด้วยอาการอย่างใด ย่อมเป็นการดีที่สุด เป็นการปลอดภัยไว้ก่อน

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.01693909962972 Mins