เมตตาธรรมของนางอุตตรา

วันที่ 16 กค. พ.ศ.2568

16_7_68_13b%281%29.jpg
 

เมตตาธรรมของนางอุตตรา

 

                    นางอุตตราเห็นอาการของนางสิริมาที่ถือทัพพีตักเนยใสร้อนๆเดินเข้ามา ก็รู้ทันทีว่านางสิริมาคิดจะทำอะไร นางอุตตราจึงส่งยิ้มแล้วแผ่เมตตาในใจว่า “สิริมาเปรียบเสมือนสหายของเรา เธอทำอุปการะแก่เรามาก จักรวาลนี้ก็แคบเกินไป พรหมโลกก็ต่ำเกินไป ถ้าจะมาเทียบกับคุณของสหายของเราคนนี้ซึ่งมีมากเหลือเกิน เพราะเธอให้โอกาสเราด้วยการมาดูแลปรนนิบัติสามีแทนเรา เราจึงมีโอกาสถวายทานและฟังธรรม สิริมามีบุญคุณกับเรามากจริงๆ ถ้าหากตอนนี้เรามีความโกรธสิริมาแม้แต่เพียงนิดเดียวก็ขอให้เนยใสร้อนๆ ที่เธอกำลังถือมาราดรดเรานั้นจงลวกเราเถิดแต่ถ้าในใจของเราไม่มีความขุ่นเคืองเธอแม้แต่นิดเดียวก็ขอให้เนยใสร้อนๆนั้นอย่าได้ลวกเราเลย”

 

16_7_68_13b%282%29.jpg

 

                    ส่วนนางสิริมาก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง เดินหน้าบึ้งเข้าไปแล้วก็ราดเนยใสที่ร้อนๆ ลงไปบนศีรษะของนางอุตตราในทันทีแต่ปรากฏว่าเนยใสร้อนๆกลับเป็นเสมือนน้ำเย็นฉ่ำราดรดลงมาบนศีรษะของนางอุตตรา ทั้งนี้เพราะในใจของนางอุตตรานั้นมีแต่สํานึกในพระคุณของนางสิริมาที่ให้โอกาสนาง ๑๕ วันได้ไปฟังธรรม ถวายภัตตาหาร และรักษาอุโบสถศีล แม้จะเป็นการว่าจ้างกัน ๑๕,๐๐๐ กหาปณะก็ตาม

 

                    คนขุ่นมัวกลับเป็นเหล่าทาสีของนางอุตตรา เมื่อเห็นนางสิริมาถือทัพพีเดินมาตักเนยใสที่เดือดพล่าน ก็รู้ว่าคิดจะไปทำอะไรจึงวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วทุกทิศทุกทางตรงเข้าไปทำร้ายร่างกายนางสิริมาจนล้มลงกับพื้น

 

                    นางอุตตรารีบเข้าไปห้ามเหล่าทาสีของตนเอาไว้ แล้วเดินเข้าไปถามนางสิริมาว่า “สิริมาเธอเป็นอะไรหรือไม่ การที่เธอตักเนยใสร้อนๆในกระทะมาราดเรานี้เธอต้องการอะไร” แล้วให้โอวาทว่า “เธออย่าทำอย่างนี้เลย มันเป็นบาป บาปนี้จะทำให้เธอไปมหานรก เราไม่มีความขุ่นเคืองในตัวเธอเลยแม้แต่เพียงนิดเดียว เรามีแต่ความรักและสงสารในตัวเธอนึกถึงพระคุณของเธอที่ให้โอกาสแก่เราได้ไปถวายทาน ไปฟังธรรม รักษาศีลเราไม่ได้คิดเลยว่าเราจ้างเธอมา แต่คิดว่าเธอให้โอกาสเรา เพราะฉะนั้นต่อจากนี้ไป เธออย่าทำอีกเลย เลิกเถอะ เราไม่โกรธหรอก”

 

                    จากนั้นก็ให้บริวารนำนางสิริมาไปชำระร่างกาย ให้อาบด้วยน้ำอุ่นแล้วให้นำน้ำมันที่หุงดีแล้วตั้งร้อยครั้งเอามาทาผิวให้นางสิริมาเพื่อไม่ให้ร่างกายเกิดรอยฟกช้ำ

 

                    นางสิริมาก็ได้สติขึ้นมา “จริงสินะ เราเป็นแค่คนภายนอกเป็นเพียงตัวแทน เราไม่น่าทำอย่างนี้เลย เหตุแค่สามีชั่วคราว นางอุตตราก็ไม่ได้โกรธเราเลย พูดดีกับเรา และยังห้ามปรามทาสีไม่ให้ทำร้ายเรากลับสั่งให้คอยรับใช้ดูแลเราอย่างดี ให้อาบน้ำอุ่นและเอาน้ำมันมานวด บัดนี้เราได้ทํากรรมหนักเสียแล้ว แล้วเราควรจะทำอย่างไรดี เพื่อให้นางอุตตรายกโทษให้เรา เราจะได้ไม่มีบาปมีกรรม ถ้าเราไม่ขอให้เธอยกโทษให้ ศีรษะของเราคงต้องแตกถึง ๗ เสี่ยงเป็นแน่” คิดแล้วก็หมอบลงกราบแทบเท้าของนางอุตตราแล้วกล่าวว่า “ขอคุณแม่จงยกโทษให้ดิฉันด้วยเถิด”

 

                    หญิงงามเมืองเกิดความสำนึกได้เพราะความดีของนางอุตตราที่ไม่ถือโทษโกรธนาง และยังให้การดูแลอย่างดี เหมือนแก่นจันทน์หอมตอบแทนคมขวานที่ฟันไปที่แก่นจันทน์ด้วยความหอม

 

16_7_68_13b%283%29.jpg

 

อานิสงส์ของการแผ่เมตตา ๑๑ ประการ

๑. หลับเป็นสุข

๒. ตื่นเป็นสุข

๓. ไม่ฝันร้าย

๔. เป็นที่รักของมนุษย์ทั้งหลาย

๕. เป็นที่รักของอมนุษย์ทั้งหลาย

๖. เทวดาย่อมรักษา

๗. ไฟ ยาพิษ ศัสตรา ไม่ล่วงเกิน

๘. จิตได้สมาธิเร็ว

๙. สีหน้าผ่องใส

๑๐. ไม่หลงตาย

๑๑. เมื่อยังไม่บรรลุธรรม

ย่อมเข้าถึงพรหมโลกชั้นสูง

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.07102233171463 Mins