ความคิดของผู้มีสัมมาทิฐิและผู้มีมิจฉาทิฐิ
เช้าวันหนึ่งในขณะที่บุตรของเศรษฐีอยู่บนปราสาทกับนางสิริมานั้นเขาเปิดม่านหน้าต่างมองลงไป ได้เห็นนางอุตตราเนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยเขม่าควันในขณะกำลังจัดเตรียมภัตตาหาร
สามีของนางอุตตราคิดในใจว่า “หญิงคนนี้โง่จังเลย ละสมบัติของตนไปแทนที่จะอยู่สุขสบาย กลับยินดีไปทำให้เนื้อตัวเปรอะเปื้อนด้วยเขม่าควัน วุ่นวายอยู่กับเหล่าทาสี ไม่ควรเลย สงสัยนางจะมาจากนรกแน่ๆจึงไม่ชอบความสบาย กลับไปชอบความลำบากให้เนื้อตัวเปรอะเปื้อนมอมแมมอย่างนั้น”
ส่วนนางอุตตราเองก็รู้สึกว่ามีคนมอง จึงเหลือบมองขึ้นไปเห็นสามีนางจึงส่งยิ้มให้ แต่ไม่ได้พูดอะไร คิดในใจว่า “สามีเรานี่เป็นลูกเศรษฐีแต่เป็นคนเขลา คงจะคิดว่าสมบัติของตนจะอยู่อย่างถาวรไม่มีวันหมดสลายไปเป็นแน่ ช่างไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังใช้บุญเก่าอยู่นะ”
ส่วนนางสิริมาได้เห็นรอยยิ้มระหว่างบุตรเศรษฐีกับนางอุตตราที่ส่งยิ้มให้กัน เกิดอารมณ์ชั่ววูบหึงหวง ลืมตัวไปว่า ตนเองเป็นเพียงตัวแทน เป็นคนภายนอก กลับคิดว่าเรานี่แหละเป็นภรรยาของบุตรเศรษฐีจริงๆ และสําคัญตนผิดว่า ตนเองเป็นเจ้าของเรือนหลังนี้ นางจึงรีบเดินลงมาจากชั้นบน เข้าไปในโรงครัว แล้วเอาทัพพีตักน้ำมันเนยใสที่กำลังเดือดพล่านในกระทะทอดขนม ตั้งใจว่าจะราดน้ำมันที่เดือดๆ นี้ลงบนศีรษะของนางอุตตรา ดวงตาของนางสิริมาจึงจับจ้องมาที่นางอุตตรา แล้วเดินเข้าหานางอุตตราในทันที