คุณโชคดีกว่าไอน์สไตน์จริงๆนะ
ทันตแพทย์สม สุจีรา จบการศึกษาจากคณะทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล นอกจากจะมีอาชีพเป็นทันตแพทย์แล้ว ท่านยังมีความสนใจในศาสตร์อื่นๆ รวมั้งพุทธศาสตร์ และที่สำคัญท่านยังเป็นผู้หนึ่งที่ฝึกสมาธิ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่อินเทรนด์มากๆในขณะนี้อีกด้วย
ท่านมีงานเขียนออกมาหลายเล่ม เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง ได้แก่ ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น, ตอบปัญหาวิชาโลก, ตอบปัญาหาวิชาชีวิต, ฟิสิกส์นิวตัน, เดอะท๊อปซีเคร็ต และอีกหลายต่อหลายเล่ม
ในจำนวนนี้ หนังสือ “ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น” สร้างความฮือฮาในวงการวิทยาศาสตร์และวงการธรระไปพร้อมๆกัน เรียกได้ว่าเป็นหนังสือคุณภาพเล่มหนึ่งที่ผู้อ่านชื่นชอบเป็นอย่างยิ่ง เพราะสามารถนำเสนอการเชื่อมโยงการค้นพบระหว่างวิทยาศาสตร์และพุทธศาสตร์ออกมาได้อย่างน่าสนใจ ชวนให้ติดตามจนวางไม่ลง ทำให้ชื่อของ ทพ.สม สุจีรา เป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว
นี่คือบางส่วนของรสชาติที่น่าดื่มกินของหนังสือเล่มนี้
เรื่องพระพุทธศาสนา
“..สิ่งที่สร้างความแปลกประหลาดใจให้กับชาวตะวันตกมากที่สุด คือ เรื่องกาลามสูตร ที่เน้นว่าอย่าเชื่อเพราะได้ฟังตามกันมา อย่าเชื่อเพราะได้เรียนตามกันมา อย่าสเชื่อเพราะเพียงเข้าได้กับทฤษฎีของตน.. ฯลฯ การที่พระพทุเจ้าตรัสแบบนี้ทำให้ฝรั่งทึ่งมาก เป็นศาสนาที่แปลก ไม่เน้นศรัทธา ไม่เน้นให้เชื่อ แต่ข้ามไปขั้นใช้ปัญญาเลย..”(หน้า ๙๗)
“ไอน์สไตน์ได้มาศึกษาพุทธศาสนา ได้อท่านกาลามสูตรแล้วแปลกใจว่ามีศาสนาแบบสนอไม่ให้เชื่ออะไรง่ายๆ อยู่ด้วย ไอน์สไตน์ประทับใจมาก เขียนเป็นบทความเพื่อให้ชาวโลกรับรู้ว่า
ศาสนาแห่งอนาคตจะเป็นศาสนาแห่งจักรวาล ศาสนาซึ่งตั้งอยู่บนประสบการณ์ ซึ่งปฏิเสธความเชื่อที่ไร้ข้อพิสูจน์ หากมีศาสนาใดศาสนาหนนึ่งที่พอจะรับมือกับความต้องการทางวิทยาศาสตร์ได้ละก็ ศาสานานั้น คือ ศษสนาพุทธ..”
“..สิ่งที่พระพุทธองค์ตรัสในการสนทนาธรรม ครอบคลุมทุกเรื่องของวิทยาศาสตร์กายภาพ ทั้งระดับใหญ่ที่สุดอย่างจักรวาล ระดับเซลล์ จนถึงระดับเล็กสุดขั้นปรมาณู การค้นพบทางฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา เป็นการค้นพบในภายหลังการตรัสรู้นับพันปี..”(หน้า ๔๕)
“..เหตุที่พระพุทธองค์ทรงเก็บการค้นพบของโลกและจักรวาลไว้ ไม่แสดงออกมา ก็เพราะการค้นพบเหล่านั้นไม่ใช่หนทางของการหลุดพ้น..”(หน้า ๔๕)
“..แม้ว่าพระพุทธองค์จะไม่เน้นถึงการค้นพบทางกายภาพเหมือนกับนักวิทยาศาสตร์ เพราะการค้นพบนั้นไม่ใช่หนทางแห่งการหลุดพ้น แต่อย่างไรก็ตาม การค้นพบของนักวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสสาร พลังงาน จักรวาล ปรมาณู การยืดหดของเวลา ฯลฯ ทั้งหลายเหล่านี้ พระพุทธองค์ทรงเคยตรัสมาแล้วทั้งนั้น..”(คำนำ)
“..นักวิทยาศาสตร์คลานต้วมเตี้ยม ค่อยๆศึกษาปริศนาของจักรวาล เหมือนคนตาบอดคลำช้าง ใช้เวลาไปสองพันห้าร้อยปี ยังค้นพบได้ไม่ถึงครึ่งของที่พระพทูองค์ตรัสไว้..”(หน้า ๓๗)
“..ปัจจุบันก็มีนักคิด นักวทิยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งแสดงความเห็นออกมาอย่างขัดเจนว่า พุทธปรัชญาแท้จริงแล้วกลับเป็นวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใญ่ไปกว่าวิทยาศาตร์กายภาพของตะวันตกเสียอีก เพราะการค้นพบใหม่ๆทางผิสิกส์ที่เป็นความจริงแท้ของจักรวาล ซึ่งไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าหรือกล้องกำลังขยายสูง กลับเคยได้รับการพิสูจน์มาก่อนแล้วจากปรัชญาตะวันออก..”(หน้า ๑๐๓)
เรื่องสมาธิ
“พระพุทธองค์ทรงแบ่งปัญญาออกเป็น ๓ ระดับ คือ
๑) สุตมยปัญญา เป็นปัญญาที่ได้จากการเรียน
๒) จินตมยปัญญา เป็นปัญญาที่ได้จากการคิด
๓) ภาวนามยปัญญา เป็นปัญญาของการหยั่งรู้ จะได้มาจากการกำหนดสติและสมาธิเท่นั้น เป็นปัญญาขั้นสูงสุด
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ไอน์สไตน์เหนือกว่านักวิทยาศาสตร์ทั่วไป ก็คือ ปัญญาที่ได้จากสมาธิ..”(หน้า ๑๒๒)
“..นักวิทยาศาสตร์ระดับสุดยอดของโลกมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือ มีสมาธิสูงมาก มีเรื่องเล่าว่า วันหนึ่งขณะที่ไอน์สไตน์กำลังง่วนอยู่กับการคิดสูตรทางฟิสิกส์ เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างรุนแรงด้านนอก เพื่อนนักวทิยาศาสตร์พากันขวัญเสีย ในขณะที่ไอน์สไตน์บอกว่าไม่ได้ยินเสียงระเบิดนั้นเลย..”(หน้า๑๑๗)
“..เราสามารถฝึกปัญญาญาณได้ด้วยการเจริญสติกรรมฐาน ทำให้เกิดภาวนาปัญญาญาณทราบสิ่งต่างๆตามความเป็นจริง แม้ว่าพลังแห่งสมาธิจิตจะไม่สูงพอที่จะบรรลุถึงขั้นทศพลญาณแบบพระพุทธองคื แต่การค้นพบความจริงแท้เพียงบางส่วนก็เป็นความมหัศจรรย์เหลือคณาแล้ว..”(หน้า ๑๒๙)
“..ไม่ใช่แต่ไอน์สไตน์เท่านั้น ไบรอัน โจเซฟสัน นักฟิสิกส์รางวัรลโนเบล ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ ก็เคยกล่าวยอมรับว่า “ผมได้ค้นพบความลับบางอย่าง ซึ่งฟิสิกส์ไม่สามาถให้คำตอบได้ ผ่านการนั่งสมาธิ”(หน้า ๑๒๐)
“..นั่นคือคำตอบว่า ทำไมทฤษฎีสะเทือนโลกทุกทฤษฎีที่ไอน์สไตน์คิดขึ้นมาจึงได้เกิดขึ้นเมื่อตอนเขาอายุเพียง ๒๖ ปี และหลังจากนั้น เขาก็คิดอะไรไม่ออกอีกเลย ก็เพราะว่าหลังจากอายุ ๒๖ ปี เขาต้องสูญเสียพลังงานไปกับตำแหน่งศาสตราจารย์แห่งมหาวิทย่าลัยซูริก ต้องประสบกับปัญหาหย่าร้างกับภรรยา บุตรชายคนเล็กมีอาการทางจิต บุตรสาวคนโตหายสาบสูญ ถูกกล่าวหาว่าเป็นสายลับจนต้องหนีการตามล่าของทั้งฮิตเลอร์และเอฟบีไอ ภรรยาคนที่สองเสียชีวิต ตามมาด้วยการเสียชีวิตของภรรยาคนแรก และความสับสนทางจิตใจกับปัญหาสงคราโลก รวมไปถึงน้องสาวที่รักของเขาเสียชีวิต หลังจากอายุ ๒๖ ปี ไอน์สไตน์เจอปัญหาชีวิตมากเหลือเกิน มากถึงขนาดทำให้พลังสมาธิที่ว่ากันว่า ไอน์สไตน์มีมากที่สุดในโลกคนหนึ่งยังสู้ไม่ไหว..”(หน้า ๑๒๐)
ในช่วงวิกฤตของชีวิต ถ้าไอน์สไตน์มีโอกาสฝึกสมาธิ เขาก็จะไม่สับสนกับปัญหารที่เกิดขึ้นถึงขนาดนี้ และผลงานที่สะท้านโลกจะบังเกิดขึ้นอีกมากมาย
คุณ..โชคดีกว่าไอน์สไตน์อีกนะ
เพราะเขาไม่มีโอกาสอย่างคุณ
ขอขอบคุณหนังสือ จุดเปลี่ยน
สงวนลิขสิทธิ์ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗
ห้ามนำไปใช้ประโยชน์ทางการค้าหรือหากำไร ผู้ฝ่าฝืนมีความผิดและต้องรับโทษตามกฎหมาย