สร้างบุญอย่างไร..ให้ได้ลักษณะมหาบุรุษ ประการที่ ๓๒

วันที่ 08 มีค. พ.ศ.2554

590112_y05.jpg

สร้างบุญอย่างไร..ให้ได้ลักษณะมหาบุรุษ ประการที่ ๓๒

            ลักษณะมหาบุรุษประการที่ ๓๒ มีศีรษะรับกับกรอบหน้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า.."เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อนๆ ได้เป็นหัวหน้าของชนเป็นอันมากได้เป็นประธานของชนเป็นอันมาก ในกายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต ในการจำแนกทานการสมาทานศีล การรักษาอุโบสถ การประพฤติเกื้อกูลในบิดามารดา สมณพราหมณ์มีความนอบน้อมต่อผู้เจริญในตระกูล ในอธิกุศลธรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะกรรมนั้นๆ ครั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์อย่างนี้ จึงได้มหาปุริสลักษณะข้อนี้คือ มีศีรษะรับกับกรอบหน้า ย่อมเป็นผู้ที่มหาชนประพฤติตาม คือ ภิกษุ ภิกษุณีอุบาสก อุบาสิกา เทวดา มนุษย์ อสูร นาค คนธรรพ์ ประพฤติตาม"ที่ตรัสว่า ได้เป็นหัวหน้าของชนอันมาก ในกุศลธรรมทั้งหลายนั้น หมายความว่า ทรงเป็นผู้นำในการทำความดี เช่น เป็นผู้นำในการสวดมนต์ การรักษาศีล การทอดผ้าผ่า ทอดกฐิน เป็นต้น การเป็นประธานของชนเป็นอันมาก ในกาย วจี มโน สุจริต หมายถึง การเป็นประธานในการไม่ฆ่า ไม่ลัก ไม่เจ้าชู้ ไม่พูดปด ไม่พูดหยาบคาย ไม่โลภ ไม่โกรธ มีจิตเป็นสัมมาทิฏฐิ คือ มีความเห็นถูกต้องตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนา

 

              นอกจากนี้ ยังทรงให้ความสำคัญในการตอบแทนบุญคุณบิดามารดา การอ่อนน้อมถ่อมตน ตลอดจนการมีสัมมาคารวะต่อผู้ใหญ่เป็นอย่างมาก อาตมาอยากจะฝากเรื่องประวัติของพระอินทร์ให้ได้ทราบกันไว้ด้วย กล่าวคือ เดิมทีพระอินทร์ก็เป็นปุถุชนธรรมดา แต่โดยเหตุที่เป็นนักสร้างบุญบารมีอย่างมหาศาล ตั้งใจเลี้ยงพ่อแม่อย่างดี ดังนั้น เมื่อละโลกไปแล้ว ท่านจึงได้ไปเป็นพระอินทร์ ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าของเทวดาทั้งหลาย ถ้าจะมีผู้สงสัยว่า มีเทวดาองค์อื่นที่มีบุญมากกว่าพระอินทร์หรือไม่ก็ขอตอบว่ามี แต่โดยเหตุที่เทวดาองค์อื่น ซึ่งแม้จะได้ให้ทาน ทำสาธารณประโยชน์มากกว่าก็ตาม แต่ปรนนิบัติดูแลพ่อแม่น้อยกว่า จึงไม่ได้รับการยกย่องเท่าพระอินทร์การเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ อย่านึกว่าเป็นเรื่องง่าย ใช่ว่ารวยแล้วจะเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ได้ บางคนมีเงินมีทองแต่พ่อแม่ก็ไม่อยากอยู่ด้วย เพราะพูดไม่น่าฟังบ้าง เพราะไม่รู้อัธยาศัยของพ่อแม่บ้าง พวกเราที่นั่งอยู่ในสภาธรรมกายนี้ บางคนก็ไม่ทราบว่าแม่ชอบขนมอะไร ชอบกับข้าวอะไร ชอบเสื้อผ้าสีอะไร รู้แต่เรื่องของตัวเองเท่านั้น เช่นนี้แล้ว จะดูแลพ่อแม่ได้อย่างไร

 

             คนที่จะเลี้ยงพ่อแม่ได้ ต้องเป็นคนละเอียด ใจเย็น เพราะพ่อแม่บางท่านก็หลงๆ ลืม ๆ บางท่านก็เจ้าอารมณ์ ถ้าเราใจเย็นไม่พอ ไม่รู้ใจท่าน ก็ไม่สามารถดูแลท่านได้  เพราะฉะนั้น ถ้าใครดูแลพ่อแม่ได้ก็เป็นบุญใหญ่ ใครไม่เคยดูแลพ่อแม่ก็จงรีบไปดูเสีย ประเดี๋ยวจะเป็นเรื่องกงเกวียนกำเกวียน ถึงเวลาตัวเองแก่ชรา ลูกก็จะไม่ดูแล ถ้าเราแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่เป็นอย่างดี ลูกของเราย่อมปฏิบัติเช่นนั้นต่อเราด้วยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นผู้นำบุญ ดูแลพ่อแม่อย่างดี ให้ความเคารพผู้ใหญ่ในตระกูลและผู้ใหญ่ทั่วไปตามสมควร เหตุนี้เอง จึงทรงได้ลักษณะมหาบุรุษ ประการที่ ๓๒ คือ มีศีรษะรับกับกรอบหน้านอกจากได้ลักษณะมหาบุรุษอย่างนั้นแล้ว ยังมีอานิสงส์ต่อไปอีก คือ เป็นผู้ที่มหาชนอันได้แก่ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เทวดา มนุษย์ อสูร นาค คนธรรพ์ ประพฤติตาม จัดว่าเป็นผู้นำชั้นเยี่ยม คือ ไม่ใช่ดีแต่พูด ท่านยังทำได้ดีกว่าพูดเสียอีกด้วย ประเด็นสำคัญอยู่ตรงที่ใครดีแต่พูดนั้น ใช้ไม่ได้ ต้องพูดดี และเมื่อถึงคราวทำ ก็สามารถทำได้ดีกว่าพูดเสียอีก ดังนั้น หน้ากับศีรษะจึงได้รับกัน สำหรับคนที่หัวล้าน หัวหลิม หรือหัวเบี้ยก็ตาม แสดงว่าพวกนี้เคารพกราบไหว้ผู้ใหญ่ไม่เป็น มิหนำซ้ำยังละลาบละล้วง ไม่มีสัมมาคารวะตามสมควรอีกด้วย

 

* * * * * ติดตามอานิสงส์ที่ทำให้ได้ลักษณะมหาบุรุษ ได้ในตอนต่อไป * * * * *

 

 

ขอขอบคุณ หนังสือ “ลักษณะมหาบุรุษ”
ปาฐกถาธรรมของพระเดชพระคุณพระภาวนาวิริยคุณ หลวงพ่อทตฺตชีโว
สงวนลิขสิทธิ์ตาม พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗
ห้ามนำไปใช้ประโยชน์ทางการค้าหรือหากำไร ผู้ฝ่าฝืนมีความผิดและต้องรับโทษตามกฎหมาย

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0014801661173503 Mins