ประเภทของการโกหก

วันที่ 30 มิย. พ.ศ.2558

 

ประเภทของการโกหก

            ประเภทแรก คือการโกหกเพื่อรักษาน้ำใจ หรือ “ White Lies ” หรือ “ โกหกสีขาว ” หมายถึง โกหกด้วยเจตนาถนอมความรู้สึกคนอื่น เกรงว่าถ้าบอกความจริงไป คนฟังโดยเฉพาะคู่รักหรือภรรยาอาจรับไม่ได้ แล้วจะเสียใจหรือพาลโกรธไปเลย คำถามยอดฮิต เช่น

  • ถามว่า “ ฉันอ้วนไหม ” ตอบว่า “ ไม่อ้วนหรอก ” จริงๆ คิดว่าคำว่าท้วมยังห่างไกลด้วยซ้ำไป
  • พอตอนลองเสื้อ “ ชุดนี้สวยมั้ย ” ตอบว่า “ เออ...ดี สวยดี ” จริงๆไม่ชอบเลย
  • ถามว่า “ ชอบของขวัญที่ซื้อไปให้หรือเปล่า ” ตอบว่า “ อ๋อ...ชอบมากเลย ” บางทียังไม่ได้แกะกล่องด้วยซ้ำ แถมบางคนจำไม่ได้อีกว่ากล่องไหน
  • ถามว่า “ กับข้าววันนี้อร่อยมั้ย ” ตอบว่า “ เอ้อ...อร่อยดี ในใจคิดว่าสงสัยน้ำปลาหกใส่ หรือเผลอไปหยิบเกลือแทนน้ำตาล ”

ทุกอย่างที่ตอบแบบอัตโนมัติเหล่านั้น ไม่ได้เป็นคำตอบจากใจ แต่เป็นคำตอบเพื่อรักษามารยาท ไม่ตอบตรงไปตรงมา มนุษย์เราเลยโกหก White lies กันมาก

 

            ประเภทที่ 2 คือ การโกหกเพื่อปกป้องตนเอง เพื่อเอาตัวรอด เช่น กลัวความผิด กลัวถูกทอดทิ้ง กลัวเสียเกียรติ กลัวการเผชิญหน้า กลัวการผิดหวังเป็นต้น

            การโกหกบางครั้ง ถึงขั้นโยนความผิดให้ผู้อื่น แม้กระทั่งการเป็นพยานในศาล บางทีเพื่อปกป้องตนเองเลยไปพูดใส่ความผิดให้คนอื่น เรื่องนี้เป็นลักษณะติดมาตั้งแต่เด็ก ถ้าผู้ใหญ่เข้มงวดมากเกินไป เด็กจะโกหกเพื่อปกป้องตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ

 

            ประเภทที่ 3 คือ โกหกเพื่อหลีกเลี่ยงความลำบาก ความเดือดร้อน หรือคนอื่นมาขอความช่วยเหลือ เช่น

  • ถาม “ พรุ่งนี้ว่างไหม ” ตอบ “ ไม่ว่าง ติดธุระ ” ที่จริงว่างแต่ไม่อยากไปด้วย
  • ถาม “ มีเงินไหม ” ตอบ “ ไม่มี ” ที่จริงมี แต่ไม่อยากให้ยืมเพราะกลัวไม่ได้คืน
  • ถาม “ ช่วยทำงานชิ้นนี้ให้หน่อยได้ไหม ” ตอบ “ ติดประชุม ” หรือ “ ติดนัด ” ที่จริงไม่อยากทำ
  • ถาม “ เจ้านายไปประชุมต่างจังหวัดกับใคร ” ตอบ “ ไม่ทราบ ” หรือ “ ไม่ได้ไปกับใคร ” หรือที่จริงทั้งรู้ทั้งเห็นว่าไปกับใคร

 

            ประเภทที่ 4 คือ โกหกเพื่อหลีกเลี่ยงการสนทนาที่ยาวนาน บางครั้งไม่อยากไปฟังคนมานั่งวิพากษ์วิจารณ์กัน เลยอ้างเหตุปวดท้อง อ้างต้องรีบไปทำงานด่วน อ้างติดนัดใครต่อใครไว้จริงๆ เป็นการหลีกเลี่ยงแต่เป็นเทคนิคที่เขามองว่าเป็นการโกหก

 

            ประเภทที่ 5 โกหกเพื่อเข้าสังคม เพื่อยกระดับฐานะตนเองให้คนในสังคมยอมรับ

            ประเภทที่ 6 คือ โกหกเพื่อหวังผลประโยชน์ เพื่อให้ตนเองได้รับการยอมรับ หรือ ได้รับความไว้วางใจ รักษาผลประโยชน์ตนเองไว้ ให้ได้งาน ได้ธุรกิจทำนองนี้

            ประเภทที่ 7 คือ โกหกเพื่โน้มน้าวใจคน เป็นคำโกหกที่เรียงร้อยมาอย่างดี ทำให้ผู้ฟังเกิดการคล้อยตามเพื่อหวังผลประโยชน์ตนเอง

            ประเภทที่ 8 คือ โกหกเพื่อยืนยันความคิดของตนเอง บางคนปักใจเชื่อว่าความคิดของตนเองถูกต้อง มีความยึดมั่นในความคิดตนเองมากเกินไป เลยสรรหาคำพูดมาสนับสนุนความคิดของตนเอง ไม่ยอมรับความผิดพลาด

            ประเภทที่ 9 คือ โกหกตนเอง ส่วนใหญ่คนจะโกหกตนเองก่อนโกหกคนอื่น หมายถึง หลอกตนเอง เช่น สูญเสียคนรักไป โกหกตนเองว่ายังไม่สูญเสีย สิ่งที่เกิดขึ้นไม่จริง เพื่อหวังคลายความทุกข์ไปชั่วขณะ ก็เลยโกหกตนเอง สุดท้ายก็โทษตนเอง

            เมื่อชีวิตนี้หลีกเลี่ยงการโกหกยาก ถ้าไม่อยากให้เด็กหรือลูกเราเป็นคนโกหก ก็อย่าไปไล่จี้หาความผิดเขา ทำให้เขาต้องปกป้องตนเอง นั่นคือ ความผิดพลาดครั้งใหญ่

 

---------------------------------------------------------------

 

 "อย่ามโน รักแท้มันใหญ่มาก "
ผลงานโดยพระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ 
วางแผงจำหน่ายแล้วที่ ร้านหนังสือชั้นนำดังต่อไปนี้
1.ร้านซีเอ็ดบุ๊ค
http://goo.gl/IG6uUz
2.ร้านนายอินทร์
http://goo.gl/e5JlbF
3.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
http://goo.gl/iX2fZ3
4. ร้านคิโนะคูนิยะ
http://goo.gl/Xh0uua

 

 

 

 

 

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.057711966832479 Mins