กรรมกับการไปเกิดในภพภูมิต่างๆ
เราได้ศึกษาประเภทของกรรมมาแล้ว และรู้ลักษณะประเภทของกรรมต่างๆ เมื่อว่าโดยสังสารวัฏ การที่เรายังมีกิเลสและทำกรรมอยู่ ทำให้ต้องเกิดในภพภูมิต่างๆ (ซึ่งจะได้กล่าวถึงในบทต่อไป) กรรมที่เราได้ทำไว้นี้ สามารถจำแนกเหตุให้ไปบังเกิดในภพภูมิต่างๆ มี 4 อย่าง
1.อกุศลกรรม
2.กามาวจรกุศลกรรม
3.รูปาวจรกุศลกรรม
4.อรูปาวจรกุศลกรรม
1.โดยกรรมทวาร คือ การประกอบกุศลกรรมบถ 10 ทางกาย วาจา ใจ
2.โดยประเภทของกุศล มี 3 อย่าง คือ ทาน ศีล ภาวนา
3.โดยอำนาจแห่งการเกิดขึ้นของกุศลจิต มี 8 อย่าง
กรรมอันเป็นเหตุให้ไปสู่รูปพรหมภูมิ คือ รูปาวจรกุศลกรรม 5 อย่าง ไม่ใช่กระทำทางกาย วาจา แต่เป็นมโนกรรม การกระทำทางใจอย่างเดียว คือ สำเร็จได้ด้วยภาวนามัย และ อัปปนาฌาน ว่าด้วยประเภทแห่งองค์ฌานแล้วมี 5 อย่าง กรรมอันเป็นเหตุให้ไปสู่อรูปพรหมภูมิ คือ อรูปกุศลกรรม 4 อย่าง อรูปาวจรกุศลกรรมก็เป็นมโนกรรมทางเดียว สำเร็จด้วยภาวนามัยเช่นกัน และถึง อัปปนาฌาน เมื่อว่าโดยประเภทแห่งอารมณ์ของฌานแล้ว มี 4 อย่าง
ส่วนกรรมอันเป็นเหตุให้บรรลุมรรคผลนิพพานได้นั้น ต้องเป็นผู้มีปัญญาแก่กล้า สามารถไถ่ถอนเครื่องผูกมัด คือ ตัณหา ออกเสียได้ด้วยการปฏิบัติตนอยู่ในศีล สมาธิอันดีมาเป็นเวลานาน แล้วทำการเจริญวิปัสสนาจนถึงจิตระดับหนึ่งเรียกว่า ปฏิสังขาญาณ เห็นจิต เจตสิกว่าเป็นของไม่เที่ยง บรรลุถึงพระนิพพานโดยมรรคญาณ ผลญาณตามลำดับ ตราบเข้าสู่ พระนิพพาน อันเป็นธรรมที่สงบจากสังขารธรรมทั้งปวง
ประโยชน์สำคัญที่เราควรจะได้รับจากการศึกษาเรื่องกฎแห่งกรรม คือ ความรู้ ความเข้าใจในความเป็นจริงของชีวิต และความเป็นผู้ไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต หากเราเป็น ผู้ปรารถนาจะประสบพบเจอหรือได้รับแต่สิ่งที่ดีงาม นำมาซึ่งความสุขความเจริญรุ่งเรืองแก่ชีวิต ของตนแล้ว เราทุกคนก็พึงประกอบแต่กรรมที่เป็นกุศล และเว้นขาดจากกรรมที่เป็นอกุศลทั้งปวง กระทั่งบรรลุมรรคผลนิพพาน
------------------------------------------------------------------------
MD 408 สมาธิ 8: วิปัสสนากัมมัฏฐาน