สรรพสัตว์แตกต่างกันเพราะกรรม

วันที่ 02 กย. พ.ศ.2558

 

สรรพสัตว์แตกต่างกันเพราะกรรม

            จากเนื้อหาในบทเรียนที่ได้ศึกษาผ่านมาแล้ว จะเห็นว่าชีวิตของมนุษย์ไม่ได้สิ้นสุดอยู่ที่เชิงตะกอน แต่มนุษย์จำต้องละทิ้งร่างกายเอาไว้เบื้องหลังแล้วต้องเดินทางไปตามแต่กรรมที่ตัวเองกระทำเอาไว้ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ เพราะฉะนั้นชีวิตของมนุษย์จึงไม่สูญสิ้นไป ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้ว่า

“    ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย สัตว์บางพวกในโลกนี้ เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต และนรก เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เพราะเหตุประพฤติไม่เรียบร้อย คือไม่ประพฤติธรรม อย่างนี้แล ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายบางพวกในโลกนี้ เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เพราะเหตุประพฤติเรียบร้อย คือประพฤติธรรมอย่างนี้แล“1)

 

            จากพุทธพจน์บทนี้ ทำให้เราทราบได้ชัดว่า มนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลายล้วนเคยเกิดตายมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ในแต่ละครั้งก็มีความเป็นไปของแต่ละบุคคลที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับกรรมดีและกรรมชั่วที่ตนได้กระทำไว้ ซึ่งอาจแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ

1. พวกที่หมดกิเลสแล้ว บุคคลพวกนี้จะไม่ไปทั้งนรก ไม่ไปทั้งสวรรค์ แต่ว่าจะไปนิพพานและ ไม่ย้อนกลับมาเกิดอีกแล้ว ดังเช่นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลาย

2. พวกทำความชั่วเอาไว้มาก บุคคลพวกนี้ตายแล้วไปนรก และถูกทัณฑ์ทรมานเป็นเวลายาวนาน พอหมดกรรมก็กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก แต่เป็นมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์ เพราะยังมีเศษกรรมติดมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา นอกจากบิดามารดาจะลำบากแล้ว ตัวเองก็ลำบาก

3. พวกทำความดีเอาไว้มาก บุคคลพวกนี้ตายแล้วไปสวรรค์ พอหมดกำลังบุญส่วนนั้น บุญ ส่วนที่ยังเหลืออยู่ก็ส่งให้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก เพราะยังไม่หมดกิเลส และเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา เป็นที่รักของบิดามารดา มีฐานะดี มีสมบัติมากมาย สติปัญญาก็เฉียบแหลมมาตั้งแต่เด็ก เลี้ยงก็ง่าย ไม่งอแง ไม่เป็นโรค ไม่มีใครคิดอยากจะไปทำร้าย

 

            สิ่งเหล่านี้จึงเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ผู้คนที่ถือกำเนิดมาในโลกนี้เป็นจำนวนมาก มีสภาพที่แตกต่างกัน ทั้งด้านรูปร่างหน้าตา ฐานะทางเศรษฐกิจ ตลอดจนสติปัญญาและอุปนิสัย ซึ่งเป็นเครื่องบ่งบอกว่า การเกิดมาในโลกนี้ล้วนเป็นผลแห่งกรรมที่แต่ละคนได้สร้างเอาไว้ในอดีตทั้งสิ้น ดังที่กล่าวแล้วในบทที่ 2

            ดังนั้น จึงเป็นเรื่องของความไม่แน่นอน ซึ่งล้วนเกิดจากกรรมของเราเอง อาจเป็นได้ทั้งกรรมในอดีตชาติของเราเพียงลำพัง หรือกรรมที่เราทำขึ้นใหม่ในชาตินี้ร่วมด้วยก็ได้ เราทุกคนจึงต้องรีบทำแต่กรรมดีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพราะชีวิตในโลกนี้ของเรามีเวลาจำกัด คือมีความตายเป็นตัวกำหนด เวลาแห่งการมีชีวิตอยู่ของคนเราขึ้นอยู่กับกรรมดี หรือกรรมชั่วที่เราทำเอง ทั้งในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ ดังเช่นกรณีศึกษาชีวิตหลังความตายของบุคคลต่างๆ ที่มีการนำเสนอในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ซึ่งจะนำเสนอโดยจัดตามหลักกรรมบถ 10 คือ กุศลกรรมบถและอกุศลกรรมบถ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้เห็นโทษและเห็นคุณค่าของกรรมบถทั้ง 10 ข้อ แล้วนำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตสืบไป

-------------------------------------------------------------------

1) สาเลยยกสูตร, มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ มจร, เล่ม 12 ข้อ 475 หน้า 478.

GL 203 กฎแห่งกรรม
กลุ่มวิชาเป้าหมายชีวิต

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0010865966478984 Mins