ข้อคิดจากคำว่าแม่
ถ้าพูดถึงเดือนสิงหาคม เชื่อว่าทุกคนจะต้องนึกถึงวันสำคัญวันหนึ่ง ซึ่งก็คือวันแม่นั่นเอง และแน่นอนว่าหลายๆคนคงจะเตรียมพาแม่เที่ยว ไปรับประทานอาหาร หรือบางคนอาจจะเตรียมมาลัยดอกไม้ เพื่อจะไปกราบเท้าแม่ในวันนี้ด้วย
เชื่อว่าลูกๆทุกคนต้องมีความประทับใจเกี่ยวกับแม่อย่างแน่นอน เช่น แม่บางท่านเป็นคนมีระเบียบวินัยและรักความสะอาดมาก ตอนเด็กๆ ลูกอาจจะเบื่อที่ต้องทำตาม แต่พอโตขึ้นเราได้รู้ว่า สิ่งเหล่านี้เป็นประโยชน์กับเรามาก เพราะทำให้เราเป็นคนมีระเบียบวินัยแม่บางท่านดูแลเอาใจใส่ลูก โดยเฉพาะเวลาที่ลูกป่วยหนักก็มีแม่นี่แหละที่คอยดูแลเอาใจใส่ และอยู่ข้างๆเราตลอดเวลาจนกระทั่งเราหายป่วย เรื่องราวเหล่านี้เป็นความประทับใจที่ลูกๆมีต่อแม่ที่บรรยายทั้งวันก็คงไม่หมด
ตัวอย่างเรื่องราวความประทับใจของคู่แม่ลูก
แม่ : เด็กไทยสมัยนี้เข้าโรงเรียนอินเตอร์กันมาก พอไปเรียนความเป็นไทยของเด็กก็หายไปด้วย และยังมีแนวโน้มกลายเป็นเด็กก้าวร้าว คุณแม่พยายามสอนลูกในช่วงวัยรุ่น ดึงเขาเข้าวัดทำบุญจนยอมเชื่อฟังและเริ่มปฏิบัติธรรม เริ่มทำอะไรแบบคนที่มีความคิดมากขึ้น เรียกว่ามีสติสัมปะชัญญะมากขึ้นนั่นเอง
ลูกนิ่งขึ้นและรู้จักมองว่าสิ่งใดควรสิ่งใดไม่ควร บางทีเขาสามารถมองไปถึงคนรอบข้างด้วยว่า เราควรจะคบใครได้แค่ไหน มองคนอื่นออกไปคือ มีความคิดที่ละเอียดอ่อนเกิดขึ้น ซึ่งเขาได้มาจากการไปบวชชีพราหมณ์ ได้นั่งสมาธิสวดมนต์ ถ้าเราชักจูงลูกเข้ามาในทางพระพุทธศาสนา ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนพุทธอยู่แล้ว แต่เราได้ชักจูงเขาได้รู้จักสวดมนต์เข้าวัด ได้เห็นสิ่งต่างๆ ได้เห็นสภาพบรรยากาศของวัด แล้วให้เขาค่อยๆซึมซับเข้าไปคุณแม่คิดว่าสิ่งเหล่านี้จะสร้างจิตสำนึกให้ลูกได้มากขึ้น แล้วลูกจะเติบโตขึ้นมาโดยรู้จักดีชั่ว รู้บุญคุณพ่อแม่ เมื่อเขาโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างน้อยเขาก็จะมีสติ แล้วปฏิบัติตนไปในทางที่ดีและอยู่ในสังคมได้ดี
ลูก : ส่วนใหญ่เราจะได้แรงบันดาลใจหรือกำลังใจมาจากคุณแม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำงาน แม้แต่เรื่องของความรักเราก็จะพูดคุยกับคุณแม่เราเหมือนเป็นพี่สาวน้องสาว เป็นเพื่อน เป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นทุกสิ่งทุกอย่างคือ มีอะไรเราก็จะคุยกันได้ทุกเรื่อง
บางครอบครัวลูกไม่กล้าคุยกับพ่อแม่ เพราะกลัวว่าถ้าพูดอะไรออกไปแล้วท่านจะดุ แต่เรากลับมีความรู้สึกว่า ท่านอาบน้ำร้อนมาก่อนเรา การที่เราได้พูดคุยหรือได้เล่าเรื่องราวที่เราไปเจอมา ท่านจะสามารถให้คำแนะนำสั่งสอนกลับมาได้ แล้วทำให้เราได้คิดตามว่า เรื่องใดที่เราควรทำและเรื่องใดที่เราไม่ควรทำ จริงๆแล้วท่านไม่ได้ดุอะไรเลย
คุณแม่เป็นคนชอบทำบุญมากท่านจะชอบชวนลูกไปทำบุญด้วยกัน ไปวัดนั้นบ้างวัดนี้บ้าง ไปทำบุญวันเกิดบ้าง แต่หลังๆเราจะไปทำบุญกันมากขึ้น จึงมีโอกาสได้บวชชีพราหมณ์ ถือศีล 8 และเดินธุดงค์ แล้วจึงเกิดความรู้สึกว่า เรามาอยู่ในวัดอย่างนี้แล้วเรารู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูก เหมือนได้ตัดขาดจากโลกภายนอก
บางคนอาจจะมีปัญหาก่อนค่อยเข้าวัดมาพึ่งพาพระพุทธศาสนาซึงก็ไม่ผิดเพราะศาสนาเหมือนเป็นที่พึ่งทางใจ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนเรา แต่จริงๆแล้วไม่ใช่พอมีปัญหาถึงจะเข้าวัดอย่างเดียว เราต้องรู้จักหมั่นทำบุญทำทานเรื่อยๆ สั่งสมบุญบารมีอยู่เสมอด้วย วันแม่ปีนี้คิดว่าจะชวนคุณแม่ไปร่วมอยู่ธุดงค์ เพราะพอได้มาทำบุญอย่างนี้แล้ว เราไม่ได้แค่ความอิ่มอกอิ่มใจ แต่เราอิ่มบุญด้วย ทั้งมีความสุขทั้งได้บุญ และแน่นอนว่าเราได้อยู่กับครอบครัว ได้อยู่กับคนที่เรารักด้วย
พระอาจารย์ : ให้เรารู้ว่าแม่มีพระคุณมาก ดังนั้นถ้าเราอยากจะตอบแทนพระคุณท่านให้ได้อย่างเต็มที่ มีวิธีคือถ้าท่านยังไม่ได้ให้ทาน เราก็ชักนำให้ท่านให้ทานให้ได้ ถ้าท่านยังไม่ได้รักษาศีล เราต้องทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตร ชักนำทุกวิถีทางให้ท่านได้มีศีลให้ได้ด้วยและสุดท้ายชักชวนให้ท่านได้ปฏิบัติธรรม ได้ค้นพบความสุขสงบที่แท้จริงในชีวิต
----------------------------------------------------------------------------------
หนังสือของสำนักพิมพ์ ทันโลกทันธรรม โดยพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ
http://www.tltpress.com/
วางแผงจำหน่ายแล้วที่ร้านหนังสือ
ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ , นายอินทร์ , ศูนย์หนังสือจุฬา , คิโนะคุนิยะ , บุ๊คสไมล์ ฯลฯ
