อานิสงส์ของการทำทานด้วยความร่าเริงแจ่มใส
ในสมัยพุทธกาล ในวันฉลองมหาวิหาร มหาอุบาสิกาวิสาขา เปล่งอุทานด้วยเสียงไพเราะ ภิกษุทั้งหลายได้ยินคิดว่านางร้องเพลง จึงทูลถามพระบรมศาสดา พระองค์ตรัสว่า “ ธิดาของเราไม่ได้ร้องเพลง แต่เธอดีใจว่าความปรารถนาที่จะถวายมหาทานที่ตั้งใจไว้ถึงที่สุดแล้วจึงเดินเปล่งอุทาน ”๑
พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ หลวงพ่อธัมมชโย เคยให้โอวาทไว้ว่า ในการทำบุญแต่ละครั้งให้เราทำกาย วาจา ใจ ให้ร่าเริงแจ่มใส เพราะการกระทำของเราทุกอย่างจะถูกเก็บบันทึกเป็นภาพไว้ในใจ ซึ่งมีอานิสงส์ต่อเนื่องอย่างน้อย ๔ ประการ คือ
ประการแรก เมื่อเราระลึกถึงภาพแห่งการทำบุญคราวใด ใจก็จะอิ่มเอิบเบิกบานกับภาพที่ร่าเริงแจ่มใส
ประการที่สอง เมื่อถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ภาพการทำบุญที่ร่าเริงแจ่มใสนั้น จะมาปรากฏ ทำให้จิตใจผ่องใส เป็นเหมือนยานพาหนะที่จะนำเราไปสู่สุคติ โลกสวรรค์
ประการที่สาม เมื่อมีเทพบุตร เทพธิดาเกิดขึ้นใหม่ในสวรรค์ เป็นธรรมเนียมที่จะต้องตรวจดูทิพยสมบัติของตนว่าเกิดด้วยบุพกรรมใดที่เคยสั่งสมไว้เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ เมื่อตามระลึกถึงภาพความร่าเริงแจ่มใสในการสั่งสมบุญบารมี ใจก็ยิ่งอิ่มเอิบเบิกบาน รัศมีก็สว่างไสว
ประการที่สี่ เป็นธรรมเนียมของพระอรหันต์ เมื่อบรรลุธรรมสิ้นอาสวกิเลสแล้ว ก็จะระลึกชาติ ตรวจดูบุพกรรมของตนว่า สั่งสมบุญบารมีมาอย่างไร เมื่อเห็นถึงการสั่งสมบุญด้วยความร่าเริงแจ่มใส ก็ยิ่งมีปีติอิ่มเอิบในธรรมทั้งยังเป็นแบบอย่างแก่พุทธบริษัทที่ตามมาในภายหลังให้ถือปฏิบัติตามอีกด้วย
ดังนั้น จึงขอเรียนเชิญทุกท่าน ได้ยังจิตของตนให้ร่าเริงแจ่มใส ในทานกุศลที่ได้ตั้งใจมากระทำในครั้งนี้ และที่ตั้งใจจะกระทำทุกครั้งสืบไป.
-----------------------------------------------------------------
๑ นางวิสาขา มก. ๔๑/๑๑๐
หนังสือ " ร่าเริงบันเทิงใจ ด้วยสัมโมทนียกถา เล่ม๑ "
พระไพบูลย์ ธมฺมวิปุโล และคณะ