ชาดก 500 ชาติ รวมนิทานชาดกพร้อมภาพประกอบ คติธรรม ข้อคิดสอนใจ

ชาดก 500 ชาติ : ชาดก 500ชาติรวมชาดก 500 ชาติพร้อมภาพประกอบ  ข้อคิดสอนใจ

ชาดก คือ เรื่องราวหรือชีวประวัติในอดีตชาติของพระโคตมพุทธเจ้า คือ สมัยที่พระองค์เป็นพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีอยู่ พระองค์ทรงนำมาเล่าให้พระสงฆ์ฟังในโอกาสต่าง ๆ เพื่อแสดงหลักธรรมสุภาษิตที่พระองค์ทรงประสงค์ เรียกเรื่องในอดีตของพระองค์นี้ว่า ชาดก ชาดกเป็นเรื่องเล่าคล้ายนิทาน บางครั้งจึงเรียกว่า นิทานชาดก

ชาดก 500 ชาติ :: อรรถกถานานาฉัน­ทชาดก ว่าด้วยต่างคนต่างใจ

 

อรรถกถา นานาฉัน­ทชาดก

ว่าด้วย ต่างคนต่างใจ


              ในอดีต เมืองพาราณสีมีกษัตริย์ อยู่พระองค์หนึ่งซึ่งได้รับขนานนามว่าเป็นกษัตริย์ เพียบพร้อมไปด้วยความสามารถ พระปรีชา และบารมี เป็นที่กล่าวขานของชาวเมืองพาราณสี    ชีวประวัติของพระองค์นั้น ทรงเป็นพระโอรสที่เกิดจากพระราชาเมืองพาราณสีกับพระมเหสี จากนั้นเมื่อพระองค์เติบโตขึ้นได้เข้าเรียนที่เมืองตักกสิลา จนกระทั่งจบการศึกษา จากนั้นจึงเดินทางกลับยังบ้านเกิดเมืองนอน เพื่อช่วยพระบิดาบริหารบ้านเมือง หลายปีต่อกษัตริย์ได้สิ้นใจลง ก่อนพระราชสำนักได้แต่งตั้ง พระกุมารขึ้นครองราชย์ต่อ หลังจากที่ขึ้นรับตำแหน่งพระราชาอย่างเป็นทางการแล้ว ทรงมีแนวคิดปฏิวัติระบบของสำนักพระราชวังเสียใหม่ จนกระทั่งหลายเดือนผ่านไป 

 

                “ก๊อกๆ ท่านปุโรหิตอยู่ไหม” “ท่านองค์รักษ์วันนี้มาถึงบ้านข้าเลย มีเหตุใดหรือ” “ข้านำคำสั่งของพระราชามาแจ้งกับท่าน" "แจ้งเรื่องอะไร" "เรื่องปลดท่านออกจากตำแหน่งปุโรหิต" "ห๊ะ ข้าถูกไล่ออกงั้นหรือ มันเกิดอะไรขึ้น" ก่อนที่ท่านปุโรหิตที่บัดนี้เป็นอดีตไปแล้ว ทรุดตัวลงกับพื้น "ท่านองค์รักษ์ช่วยแจ้งองค์กษัตริย์พิจารณาใหม่ได้ไหม ข้าทำงานมาตั้งแต่พระราชาองค์ก่อน ไม่เคยมีข้อบกพร่องเลยสักครั้ง ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ " พร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างปิดไปที่ดวงหน้าซึ่งบัดนี้เต็มไปด้วย น้ำมูกน้ำตาที่เกิดจากความผิดหวัง "ท่านพี่เป็นอะไรหรือทำไมถึงเป็นเช่นนี้" ภรรยาผู้ที่พึ่งเดินออกมา ปรี่เข้าไปหาสามีของตนที่ตอนนี้คุกเข่าอยู่ตรงหน้าทหารส่วนพระองค์ "เจ้าทำอะไรสามีของข้า" "ข้าไปก่อนนะ" ก่อนที่จะหันหลังแล้วเดินจากไป

 

          "ท่านพี่ เกิดเหตุอะไรขึ้นทำไมถึงท่านต้องร้องไห้ฟูมฟายเช่นนี้" "น้องหญิง" ชายหนุ่มหันหน้ามาทางภรรยาของตน ก่อนที่จะสวมเข้ากอดภรรยา "เราถูกไล่ออกแล้ว" "ห้ะท่านพี่ว่าอะไรนะคะ" "คือพี่ถูกปลดจากตำแหน่งแล้ว" "เพราะอะไรกัน" ผู้เป็นสามีได้แต่สายหน้า "พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะเหตุใด ต่อจากนี้ไปทั้งลูกและเจ้าคงจะต้องลำบาก พี่ไม่สามารถดูแลทุกคนให้สบายได้" อดีตท่านปุโรหิตตัดพ้อ "ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ" "งั้นเราเก็บข้าวของออกจากที่นี่กันเถิด"

 

 

             จากนั้นเป็นต้นมา อดีตปุโรหิตได้ย้ายเข้าไปอาศัยอยู่กับชายชราผู้หนึ่งซึ่งอยู่ไม้ไกลจากพระราชวังเมืองพาราณสีมากนัก วันหนึ่งขณะที่สองสามีภรรยานั่งอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ “น้องหญิงพี่ขอโทษเจ้าด้วยนะที่ทำให้ต้องมาลำบากเช่นนี้” “ไม่เป็นไรจ๊ะ ก่อนหน้านี้พี่เลี้ยงน้องให้สุขสบายมาต้องนานไม่เป็นไรหรอก” “โถ..." ก่อนที่อดีตอำมาตย์จะใช้มือลูบเข้าไปที่พวงแก้มขาวๆของภรรยาตน "ขอบใจเจ้ามากนะ พี่ดีใจจริงๆที่ได้น้องเป็นภรรยา” “กลับกันเถอะวันนี้พอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยออกมาทำต่อ”

 

               ในคืนเดียวกันฝั่งพระราชาเมืองพาราณสี ได้ปลอมตัวเดินออกตรวจ ยังหมู่บ้านที่อยู่ไม่ไกลจากพระราชวังมากนัก ขณะที่พระราชากำลังเดินตรวจตราความเรียบร้อยของเมืองอยู่ “ปึ๊ก” “โอ้ย!” หนึ่งในกลุ่มนักเลงสุราที่ถูกชนล้มลงไปกองกับพื้น" เอ่อเป็นอะไรมากไหม" "เอ้ย เดินยังไงถึงมาชนเพื่อนของข้า!" หนึ่งในเพื่อนผลักไปที่อกของพระราชา จนเซไปข้างหลัง จนตะกร้าเปิดออก "เฮ้ยพวกเอ็งทำไมทำอย่างนี้ไม่สุภาพเลยนะ" มือหยาบกร้านโอบมาที่คอ ก่อนเอ่ย “เพื่อน..ของในตะกร้าเจ้า ขอได้ไหม” “เอ่อ..ไม่มีอะไรหรอก” ก่อนที่จะพยายามเดินเลี่ยงออกมา "เอ้ย! เดี๋ยวก่อนสิ" มือใหญ่คว้าเข้าไปที่ตะกร้าก่อนออกแรงดึงเล็กน้อย  “โถอะไรกัน แค่นี้หวงหรอ” กลุ่มนักเลงค่อยๆ ล้อมหน้าล้อมหลัง ปิดทางเข้าออกจนหมด "ขอดูของข้างในหน่อยสิ เพื่อนรัก" "เฮ้ย สำรวจซิว่ามีอะไร" “นายครับในตะกร้านั้นคือผ้าห่ม” “อย่างนั้นหรอ" รอยยิ้มอย่างมีเลศนัยก็ปรากฏขึ้น "อยากได้อยู่พอดีเลย เจ้าจะยอมไปกลับพวกเราดีๆ หรือจะไปแบบเจ็บตัวห๊าาา..! ” ก่อนที่จะยกหม้อใส่สุราขึ้นขู่ 

 

%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%871.jpg

 

         “ก็ได้ๆข้าไปก็ได้” “เออ อย่างนั้นแหละดี” จากนั้นมือใหญ่ๆผลักเข้าไปที่ไหล่จนตัวของพระราชานั้นโยกไปตามแรง “เดินไปอย่าตุกติก ข้าจะเอาหม้อทุบหัวให้เยินเลย”

 

               ด้านอดีตท่านปุโรหิตที่ตอนนี้ เดินออกมายังถนนหน้าบ้าน ใบหน้าคมกล้าเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ตรวจดวงดาวยามค่ำคืน “พระราชาตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกศัตรู ไม่จริงน่า” เจ้าตัวพยายามตรวจอีกครั้ง “น้องหญิงๆ มาหาพี่หน่อย” “มีอะไรอะไรกันค่ะท่านพี่เรียกน้องเสียงดังเชียว” “พระราชาของเราตกอยู่ในอำนาจของศัตรู” “แล้วมันธุระอะไรของท่านเล่า เดี๋ยวคนในพระราชวังเค้าก็รู้เอง” “แต่ว่า” อดีตอำมาตย์มีสีหน้าหนักใจเล็กน้อย “ท่านพี่ พระราชานั่นปลดท่านกับมือนะ แถมท่านพี่ก็ไม่ได้มีความผิดแม้แต่น้อย”

 

            แต่อดีตปุโรหิตก็หาฟังไม่ แอบเข้าไปหากษัตริย์ที่ตอนนี้กำลังแนบตัวเข้ากับผนังไม้ ก๊อกๆ ก๊อกๆ “พระองค์อยู่ในนี้ไหม” "นั่นใคร" "อดีตปุโรหิตพระเจ้าค่ะ" "ท่านเองหรือ" "พระองค์เป็นอย่างไรบ้าง" "ข้าไม่เป็นไร" "เจ้าช่วยข้าให้ออกไปได้ไหม" "ได้พะย่ะค่ะ" "แต่ว่าพระองค์จะต้องพูดตามกระหม่อมพะย่ะค่ะ" “อื้ม” "ทรงขอร้องเหล่านักเลงนั้น เดี๋ยวท่านจะปลอดภัยเอง" เวลาผ่านไปไม่นานพระราชาเดินเข้าไปหานักเลงสุรา “นายท่านขอรับกระผมนั้นยากจนไม่มีเงินเลย ท่านเอาผ้าห่มไปแล้วปล่อยผมเถิด” “ไม่อยากปล่อยมีปัญหาไหม” "ได้โปรดนะขอรับ" พระราชาพยายามอ้อนวอนต่างๆนาๆ จน กลุ่มนักเลงเริ่มรำคาญ “เออๆก็ได้ ไปได้แล้ว” “ขอบคุณท่านมากครับ”

 

               เช้าวันต่อมา “องครักษ์เรียกพราหมณ์ มาหาเราหน่อย” “พ่ะย่ะค่ะ”  เวลาผ่านไปไม่นานเหล่าพราหมณ์ก็พากันเข้ามาที่ห้องพระโรง “เมื่อคืนพวกท่านทั้งได้ตรวจดาวนักษัตรบ้างหรือเปล่า?” “ตรวจพระเจ้าข้า” “แล้วผลล่ะเป็นอย่างไร” “งามพระเจ้าข้า” พราหมณ์ทั้งหมดตอบพร้อมกัน “เราจะมีเคราะห์ไหม” “ไม่มีพระเจ้าข้า” “อย่างนั้นหรือองครักษ์ไปเรียกอดีตปุโรหิตมา”

 

%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%873.jpg

             

             ครั้นอดีตปุโรหิตมาถึง “เมื่อคืนนี้ท่านตรวจนักษัตรบ้างหรือเปล่า?” “ตรวจพ่ะย่ะค่ะ” “แล้วผลออกมาเป็นเช่นไรมีเคราะห์ไหม” “ข้าแต่มหาราชเมื่อคืน พระองค์ตกอยู่ในอำนาจของศัตรู แต่ไม่นานพระองค์ก็หลุดพ้นได้” "ผู้รู้ดวงดาวนักขัตฤกษ์ดีต้องเป็นอดีตท่านปุโรหิต" ก่อนหันไปทางกลุ่มพราหมณ์ที่ตนเรียกมากลุ่มแรก “ข้าขอปลดพวกท่านออกจากตำแหน่ง”


             "ท่านปุโรหิต ต้องขอโทษด้วยที่ทำกับท่านอย่างนั้น เรานั่นเลื่อมใสท่านยิ่งนัก ท่านอยากได้อะไร" “เอ่อ..กระหม่อม ขอไปปรึกษาภรรยาและลูกๆก่อนได้ไหม” “ได้สิเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาบอกก็ได้” 

 

               ปุโรหิต เดินทางกลับไปหาครอบครัวของตน ก่อนเรียกรวมตัวทุกคนในครอบครัว "น้องหญิง เจ้าต้องการสิ่งใด" "ดิฉันต้องการโคนม ๑๐๐ ตัว" "แล้วลูกชายกับลูกสะใภ้ต้องการสิ่งใด" "รถเทียมม้าด้วยม้าสินธพ ๔ ตัว" "ดิฉันขอเครื่องประดับหูแก้วมณี แล้วกันท่านพ่อ" "ได้ๆ" ผู้เป็นพ่อพยักหน้าอย่างเข้าใจ

 

                เช้าวันต่อมาท่านปุโรหิตเดินทางมาเข้าเฝ้าพระราชา ก่อนท่านปุโรหิต จะขอสิ่งต่างๆ ตามที่ครอบครัวของตนที่ต้องการ

 

                จากเรื่องข้างต้นนี้ ให้แง่คิดในเรื่อง คนเรานั้นมีความคิดเห็นไม่เหมือนกัน จะกำหนดให้ความคิดเห็นเหมือนกันนั้นเป็นไปไม่ได้

               พระศาสดา ครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว จึงทรงประชุมชาดกว่า
               พราหมณ์ในครั้งนั้น ได้เป็น  ในบัดนี้
               ส่วนพระราชา คือ 
เราตถาคต ฉะนี้แล.

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

* * ชาดก 500 ชาติ แนะนำ * *

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล