เรื่องที่ ๗๙ ป่วยก็หาย ของก็ขายได้
คุณวิมลทิพย์ เชี่ยวชาญวิศวะกิจ มีอาชีพขายมะพร้าวขูด เล่าว่า ลูกชายเจ็บขาโดยไม่ทราบสาเหตุมาหลายเดือนแล้ว ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๑ จึงให้ลูกชายสร้างพระธรรมกายประจำตัวประดิษฐานที่มหาธรรมกายเจดีย์บูชาธรรมคุณยายอาจารย์อุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ๑ องค์ และให้ลูกชายอธิษฐานขอพรให้พระมหาสิริราชธาตุช่วยรักษาให้ขาหายเจ็บด้วย
ในคืนนั้น ลูกชายคุณวิมลทิพย์ได้ฝันเห็นคุณยายอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง มาหา แล้วพูดว่า "เดินจงกรม" ลูกชายก็รับปากว่า "ครับ" แล้วเดินตามคุณยายอาจารย์ไป
![](http://www.kalyanamitra.org/th/images/anuphap/9/images/79.jpg)
ตื่นเช้าขึ้นมา อาการเจ็บขาก็หายเป็นอัศจรรย์ ลูกชายของเธอดีใจมาก นอกจากนี้ได้เล่าเหตุการณ์ที่ร้านว่า ยังมีมะพร้าวขูดเหลือยังขายไม่ได้อยู่ถึง ๕๐ กิโลกรัม ซึ่งถ้าขายไม่หมดก็ต้องทิ้ง ลูกชายของเธอจึงอธิษฐานกับพระมหาสิริราชธาตุว่า ขอให้มีคนมาซื้อ
พอจบคำอธิษฐานเท่านั้น มีลูกค้ามาขอซื้อมะพร้าวขูด ๔๐ กิโลกรัมเป็นอัศจรรย์ สร้างความประหลาดใจแก่เธอมาก ส่วนมะพร้าวขูดที่เหลืออีก ๑๐ กิโลกรัม เธอได้นำไปทำขนมหวานขายได้อีก
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
ในวันอาทิตย์ต้นเดือน ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๑ เธอและลูกชายได้มาสร้างพระธรรมกายประจำตัวภายนอกมหาธรรมกายเจดีย์คนละ ๕ องค์ รวมเป็น ๑๐ องค์ มีสิทธิ์รับ "พระคะแนน สุด สุด" อีกด้วย
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
เมื่อสร้างองค์พระบูชาธรรมคุณยายอาจารย์อุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ซึ่งเป็นพระธรรมกายประจำตัวประดิษฐานที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์ ก็เท่ากับสร้างสิ่งที่พยุงเจดีย์ไม่ให้พัง อานิสงส์จึงทำให้ขาซึ่งเป็นอวัยวะที่ใช้พยุงร่างกายหายเป็นปกติได้ และใจที่เปี่ยมล้นไปด้วยความศรัทธาในคุณยายอาจารย์อุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง เทพยดาจึงมาเนรมิตให้เห็นเหมือนคุณยายอาจารย์มาช่วยรักษา ประกอบกับอกุศลกรรมที่ได้ส่งผลอยู่นั้นหมดลง หรืออ่อนกำลังใกล้หมด เมื่อได้สร้างบุญใหญ่ อำนาจบุญก็ผลักอำนาจบาปเก่าให้หมดกำลังส่งผลไปทันที เรียกกรรมประเภทนี้ว่า กรรมตัดรอน เป็นกรรมดีตัดรอนกรรมชั่ว ไม่ให้ส่งผล
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
ในทำนองเดียวกัน คนที่อยู่ดีมีสุข ไม่ทำกุศลกรรมเพิ่มเติม เกิดความประมาท อาจทำบาปกรรมหนักขึ้นมา เช่นจ้างมือปืนฆ่าคน ถ้าคนตายเป็นคนดีมีคุณธรรม กรรมชั่วนั้นย่อมหนักกว่าธรรมดาและอาจจะส่งผลในทันที อย่างนี้เรียกว่ากรรมชั่วตัดรอนกรรมดี แต่ไม่ได้หมายถึง กรรมดีจะสามารถหักล้างกรรมชั่วได้ ทำกรรมอะไรไว้ก็ต้องรับผลของกรรมนั้นๆ เพียงแต่สามารถจะลดกำลังของกรรมฝ่ายตรงข้ามให้ทุเลาจากหนักเป็นเบา จากที่เบาอยู่แล้วเป็นตามส่งผลไม่ทัน ยกเว้นพระอรหันต์ชนิดปรินิพพาน จึงจะเป็นอโหสิกรรม กรรมเลิกตามให้ผล ด้วยเหตุนี้เราทุกคนไม่ควรนิ่งนอนใจ ให้หมั่นประกอบบุญกุศลให้มากเข้าไว้เป็นอาจิณณกรรม กรรมชั่วทั้งหลายที่เคยพลาดพลั้งทำไปจะได้ผ่อนจากหนักเป็นเบา หรือกรรมชั่วนั้นตามมาส่งผลไม่ทัน