โอวาทพระภาวนาวิริยคุณ
(หลวงพ่อทัตตชีโว)
หลวงพ่อได้ทราบกิตติศัพท์เกี่ยวกับคุณยายมาบ้าง ก่อนที่จะได้ไปพบกับคุณยาย ได้ยินมาจากพระอาจารย์ของหลวงพ่อ ที่ท่านเคยไปฝึกสมาธิกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำอยู่นานพอสมควร ท่านเล่าให้ฟังว่า
ที่วัดปากน้ำนั้น มีอุบาสิกา ที่สามารถฝึกสมาธิได้ดีมากๆ แล้วพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำ ก็ได้อาศัยชุดของอุบาสิกาในการค้นคว้าธรรมะที่ละเอียดๆ ส่วนพระภิกษุนั้น ส่วนมากพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำ ได้อาศัยในการออกเทศน์ ออกเผยเเผ่ แล้วก็ได้ยินชื่อคุณยายอาจารย์อุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง จากหนังสือพิมพ์อยู่หลายครั้ง ทำให้เมื่อทราบชื่อของคุณยายจากหลวงพ่อธัมมชโย ซึ่งตอนนั้นก็ยังเป็นนิสิต ก็เลยเกิดความเคารพเลื่อมใสตั้งแต่ยังไม่ได้เจอคุณยาย นี้เป็นประการที่หนึ่ง
ประการที่ ๒ หลวงพ่อได้นำความรู้ที่ตัวเองศึกษาค้นคว้าพระไตรปิฎกมาพอสมควร เอามาซักถามหลวงพ่อธัมมชโย ข้อความตรงไหนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับการฝึกสมาธิ การเจริญภาวนา และที่หลวงพ่อไม่เข้าใจ เช่น ปัญหาเรื่องนรกสวรรค์บ้าง เรื่องการเวียนว่ายตายเกิดบ้าง ปัญหาเรื่องโลกนี้โลกหน้า และพระนิพพานบ้าง เคยถามปัญหาเหล่านี้กับพระอาจารย์หลายๆ ท่าน ทั้งที่เป็นพระภิกษุ แล้วก็เป็นฆราวาส ปรากฏว่า ท่านเหล่านั้นไม่สามารถจะตอบปัญหาหลวงพ่อให้ชัดเจนได้
แต่เมื่อนำมาซักถามหลวงพ่อธัมมชโย ทั้งๆ ที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่ ท่านตอบหลวงพ่อได้ชัดเจน ไม่ติดขัด เปิดพระไตรปิฎกตอบกันแทบจะเป็นหน้าต่อหน้า แต่ละวันก็ซักถามกันตั้งแต่เช้า จนกระทั่งเที่ยงคืน ตี ๑ อยู่ประมาณ ๗ วันจนหมดปัญหาที่จะถาม
แล้วก็ได้เกิดความซาบซึ้งตั้งแต่ก่อนจะเจอคุณยายว่าขนาดลูกศิษย์ ยังตอบปัญหาเราได้ชัดเจนขนาดนี้ ถ้าไปเจอคุณยายอาจารย์ ท่านจะขนาดไหน ความเคารพเลื่อมใสศรัทธา ได้เกิดขึ้นมาตรงนี้อีกมากทีเดียว
ตรงนี้ก็ขอขยายความนิดหนึ่ง พวกเราที่นั่งกันอยู่ในที่นี้ ต่อไปในภายภาคหน้า ถ้าจะบำเพ็ญตนเป็นกัลยาณมิตรให้ได้อย่างจริงจังแล้ว จำเป็นจะต้องประพฤติปฏิบัติตัวให้มั่นอยู่ในธรรม แตกฉานธรรมะได้ลึกซึ้ง พอที่จะตอบปัญหาธรรมะให้ตัวเอง และให้คนอื่นด้วยแล้ว เป็นต้นแบบในการประพฤติปฏิบัติตนอย่างดีงามให้กับมหาชนได้ นั้นจึงจะประสบความสำเร็จในการบำเพ็ญตนเป็นกัลยาณมิตร
คราวนี้หลวงพ่อธัมมชโยก็ไม่ได้นำตัวหลวงพ่อไปพบกับคุณยายทันที ท่านให้หลวงพ่อนั่งสมาธิกับท่านอยู่ระยะหนึ่ง แล้วก็ปรับปรุงกิริยามารยาทหลวงพ่ออยู่อีกระยะหนึ่งประมาณ ๒-๓ เดือน ขัดเกลาหลวงพ่อขั้นต้นก่อน แล้วจึงค่อยนำตัวไปพบคุณยาย ตรงนี้อีกเช่นกัน อยากจะฝากพวกเราเอาไว้ การจะนำหมู่คณะใหม่เข้ามาวัดพระธรรมกาย หากมีโอกาสได้ปูพื้นฐานให้เขาให้ทราบขนบธรรมเนียมประเพณีในวัดของเราว่า มีการประพฤตปฏิบัติธรรมเป็นอย่างไร ครูบาอาจารย์ของพวกเรา หมู่คณะพวกเรามีข้อวัตรปฏิบัติอย่างไร ให้คำแนะนำในเบื้องต้นก็จะเป็นการดี
คราวนี้ เมื่อหลวงพ่อไปพบคุณยายแล้ว นอกจากจะมีความประทับใจ ด้านภายนอกคือเห็นความสะอาด ความเป็นระเบียบเรึยบร้อยของคุณยายด้วยตาตัวเองแล้วก็ตาม แต่สิ่งที่นำความประทับใจขั้นต้นมาให้ก็คือ เมื่อถามคุณยายว่า คุณยาย นรกสวรรค์มีหรือไม่ คุณยายตอบชัดเจนว่า "มีสิคุณ ยายเองเคยอาราธนาพระธรรมกายในตัวไปช่วยพ่อที่ตกนรกขึ้นมาได้" หลวงพ่อก็ถามอีกว่า "ยาย แล้วอย่างผมจะมีปัญญาได้รู้ได้เห็นบ้างไหม" ท่านก็ตอบว่า "ได้สิคุณ ยายไม่รู้หนังสือหนังหาอะไรเลย ยังสามารถทำได้ ส่วนคุณปริญญาก็ได้กันมาแล้ว ทั้งยังเป็นผู้ชายด้วย โอกาสจะบวชก็มี ขอเพียงเอาจริงอย่างเดียว ทำไมจะไม่ได้" จากนั้นก็ตั้งใจฝึกสมาธิกับยายมาโดยตลอด จนกระทั่งได้บวช
เมื่อหลวงพ่อบวชได้ไม่กี่วัน คุณยายได้ขอหลวงพ่อเอาไว้ว่า "ท่านทัตตะ ยายขอนะ ถ้าท่านยังไม่ครบ ๑๐ พรรษา ท่านอย่าออกไปเทศน์นอกวัด" หลวงพ่อก็ไม่ทราบเหตุผลอะไร แต่เมื่อยายขอ อาศัยความเคารพที่มีต่อครูบาอาจารย์ ก็เลยให้สัญญากับยายไป ยายก็บอกว่า ดีแล้ว เพราะยายเป็นห่วงท่าน การออกไปเทศน์นอกวัด โดยที่เราภูมิยังไม่แน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภูมิในภาคปฏิบัติยังไม่แน่น จะเป็นอันตราย นี้เป็นประการที่ ๑
ประการที่ ๒ การวางตัวของเราต่อญาติโยมยังดีไม่พอ ญาติโยมที่สนใจการประพฤติปฏิบัติธรรมกว่าครึ่งมักจะเป็นญาติโยมผู้หญิง เราจะวางตัวให้พอเหมาะพอสมได้ยาก เพราะฉะนั้นต้องระวัง ต้องฝึกตัวเองให้เรียบร้อย เพราะมีทั้งผู้หวังดีและไม่หวังดี แม้ผู้ที่หวังดี บางทีเขาก็ยังไม่ได้ฝึกตัวเองมาดีพอ การประพฤติปฏิบัติของเขา ยังไม่ค่อยเหมาะสมนัก แล้วเราเองก็ไม่อยู่ในฐานะที่จะแก้ไขเขาได้ หากเกิดความผิดพลาดอะไรขึ้นมาจะมัวหมอง
คุณยายท่านก็บอกต่อว่า ท่านไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีคนมาฟังเทศน์ เพราะกลิ่นของศีล กลิ่นของธรรมะ หอมหวนทวนลม หลวงพ่อ หลวงปู่ หลวงตาทั้งหลาย ท่านไปอยู่ในป่า เดินธุดงค์ไปอยู่ในป่าลึกๆ ถึงกระนั้น คนใหญ่คนโตในบ้านในเมือง ยังต้องนั่งเรือบิน นั่งรถเก๋ง บุกป่าฝ่าดงเข้าไปหา หลวงปู่ หลวงตาเหล่านั้น ให้ท่านเทศน์ให้ฟัง
เพราะฉะนั้น ท่านฝึกตัวให้ดี แล้วจะมีผู้ที่ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรม มาฟังเทศน์ท่านเอง คนเรานั้นคบกันโดยธาตุ สมาคมกันโดยธาตุ คำๆ นี้ หลวงพ่อเกิดมาไม่เคยได้ยินมาก่อน เพิ่งจะมาเจอคำนี้ หลังจากบวชแล้วหลายพรรษา มีปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎก
คุณยายบอก คนเราคบกันโดยธาตุ คบกันโดยธรรม ถ้าธาตุธรรมในตัวของเราบริสุทธิ์ คนที่รักความบริสุทธิ์เช่นเดียวกับเรา เขาจะต้องมา ทำนองเดียวกับนกก็ไปกับนก เนื้อก็ไปกับเนื้อ ปลาก็ไปกับปลา โจรก็ไปกับโจร บัณฑิตก็ไปกับบัณฑิตอย่างนั้น
หลวงพ่อก็ถามว่า ทำไมยายถึงขอเช่นนี้ ยายบอกว่า เนื่องจากยายเห็นมาตั้งแต่สมัยพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากนํ้าแล้วว่า การเผยแผ่ธรรมะที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากนํ้า ทำให้ดู มี ๒ ระดับ
ระดับหนึ่ง เทศน์หยาบก่อน ก็คือการเทศน์เบื้องต้น จะให้พระภิกษุ ให้สามเณรออกไปเทศน์ ออกไปสอนนอกวัด แม้ในวันธรรมดาก็จะให้พระลูกวัดจัดการเรื่องนี้
ตัวของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำเอง จะเทศน์เรื่องเดียว คือเรื่องธรรมกาย แล้วก็เทศน์ในวัด หากไม่จนใจจริงๆ จะไม่ออกไปนอกวัด
เพราะว่า การเทศน์ละเอียดเกี่ยวกับการปฏิบัตินี้้ อย่างน้อยผู้ทึ่ฟัง จะต้องมีพึ้นในการฝึกสมาธิเสียก่อน และถ้าจะให้ดีกว่านั้น ขณะเทศน์ ผู้เทศน์ ก็หลับตาทำสมาธิเทศน์ไป เป็นการเทศน์จากใจถึงใจ อย่างนี้จึงจะเข้าไปอยู่ในใจได้ลึกๆ ละเอียดๆ ตามที่ต้องการ นี่คือคำสอน คำขอของยายตั้งแต่หลวงพ่ออยู่ในพรรษาแรก
ท่านยังได้้ยํ้าไปอีกว่า ต่อไปข้างหน้า คนจิตใจจะหยาบคายมากขึ้น เพราะฉะนั้นต้องวางแผนการเผยแผ่ให้ดี ถ้าไม่วางเป็นขั้นเป็นตอนให้ดี จะทำการเผยแผ่พระพุทธศาสนาได้ยาก
ท้ายที่สุดในวันนั้นท่านพูดว่า การทื่พระออกไปเทศน์นอกวัด หากไม่มีการเตรียมตัวให้ดี โอกาสที่พระจะมัวหมองมีมาก เพราะคนจะมีจิตใจที่หยาบลงไปทุกวัน
จากสิ่งเหล่านี้ ที่คุณยายพร่ำเตือน พร่ำสอน ก็เลยทำให้มีความระมัดระวังตัวมาตั้งแต่ต้น แล้วก็ช่วยกันสร้างวัดมาจนกระทั่งมีวัดให้เราได้ประพฤติปฏิบัติธรรมกันอยู่ขณะนี้
พวกเราเองก็คงจะได้ติดตามข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์บ้าง จากโทรทัศน์บ้าง ก็มีข่าวคราวทั้งส่วนที่เป็นมงคล และไม่เป็นมงคลปนๆ กันไป ในกรณีที่เป็นมงคลนั้น อันนี้เราก็ไม่ค่อยจะติดใจสงสัยอะไร แต่ในสิ่งที่ไม่เป็นมงคลนั้น เป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อว่า เกิดขึ้นจากปากคำของผู้ที่เคยอยู่ในวัดพระธรรมกายมาก่อน
ไปออกข่าวว่า คุณยายอาจารย์ของพวกเรามีตัวจริง ตัวปลอมขึ้นมา ทั้งๆ ที่คุณยายอาจารย์เอง ก็เคยอบรมเขามาตั้งแต่ก่อนเขาจะบวช แต่ว่าความที่ไม่ค่อยจะเรียบร้อยของเขา เมื่อตอนจะบวช คุณยายก็เลยไม่ค่อยจะเต็มใจให้บวชนัก จนกระทั้งพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย ได้ไปขอร้องยายว่า อนุญาตให้เขาบวชเถอะ จะมีความเกเรอย่างไร พระก็จะพยายามอบรมแก้ไขให้เขา ไหนๆ ก็ได้มากราบเป็นลูกศิษย์ยายแล้ว คุณยายก็บอกว่า สันดานนิสัยคนมันแก้ยาก
พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย ขอร้องยายอยู่เกือบหนึ่งอาทิตย์ ยายจึงยอมอนุญาตให้บวช แต่ก็พยากรณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่า ถ้าให้บวชต่อไป ข้างหน้าจะทำให้วัดและพระพุทธศาสนาเสียชื่อเสียง แต่อย่างไรก็ตามเมื่อหลวงพ่อธัมมชโยท่านขอ ยายก็จะให้ หลวงพ่อเองก็ไม่ทราบว่าจะร้ายแรงเพียงใด แต่ ณ วันนี้ชัดเจนขึ้นมาแล้ว เพราะว่าผู้นี้อีกเหมือนกัน แม้มาบวช แล้วก็มาให้ข่าวว่า มีอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ตัวจริงตัวปลอม
เรื่องเหล่านี้ได้เกิดขึ้นมา ซึ่งมันก็เป็นการฟ้องตัวผู้พูดว่า เพราะว่าเขาเป็นอย่างนี้นี่เอง หมู่คณะจึงไม่ยอมรับ ต้องให้ออกไปจากวัดพระธรรมกาย แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ให้วันเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ต่อไป