|
เสียงย่ำฆ้องกลองระฆังดังแว่วแว่ว ระสวดชัยมงคลแล้วสรรพศรี
เตรียมอาหารคาวหวานประดามี เถลิงศกปีสี่เก้าด้วยทำทาน
แล้วรำลึกถึงวารวันบุญใหญ่ ที่ตั้งใจ สั่งสมไว้ มหาศาล
ให้ชุ่มชื่นรื่นเริงบันเทิงนาน ปีใ หม่กาลขอสุขยิ่งเป็นมิ่งเอย
แม้ว่าวันขึ้นปีใหม่ จะเป็นวันที่ชาวโลกสมมติ ขึ้นเพื่อความสะดวกในการนับช่วงเวลา แต่สำหรับยอดนักสร้างบารมี ย่อมถือเป็นกุศโลบาย สร้างบุญใหญ่ ให้ดีกว่าปีที่ผ่านมา หมั่นเตือนตนให้ตั้งอยู่
ในความไม่ประมาท เพราะเท่ากับเวลาในชีวิต ถูกนับถอยหลังอยู่ทุกขณะจิต
ดังนั้น ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร สถานการณ์โลกจะผันผวนแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งที่ยังมั่นคง คือ บุญกุศลที่เราทำไว้ จะส่งผลเป็นอานิสงส์สืบต่อยาวนาน ตราบเท่าที่เราตามระลึกถึงอยู่เสมอ
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
วันที่ ๒๙ ธ.ค.๒๕๔๗ -๑ ม.ค ๒๕๔๘ พิธีเปิดไฟส่อง "เสาแก้วพันปี" มหารัตนวิหารคด บริเวณรายรอบ ลานมหาธรรมกายเจดีย์ โคมประทีป นับแสนดวง ที่สว่างไสวเรืองรอง ดุจทะเลเทียน ส่องประกายระยิบระยับ ไปทั่วทุกพื้นที่
น้อมถวายเป็นพุทธบูชาแด่ พระมหาปัญญาธิคุณ อันสว่างไสว ขององค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ขจัดความมืดมิด แห่งอวิชชา ให้หายสูญไปฉลองการเข้าสู่ศักราชใหม่ " ปีแห่งการสร้างบารมี เคียงคู่ไปดุสิตบุรี"
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
วันที่ ๕ และ ๑๙ ม.ค.๒๕๔๘ พิธีบำเพ็ญกุศล ไว้อาลัยแด่ผู้ประสบภัย คลื่นยักษ์สึนามิ ครั้งที่ ๑ และ ๒ ณ สนามกีฬาสะพานหิน จ.ภูเก็ต และ สนามกีฬาเมืองตะกั่วป่า จ.ภูเก็ต ภาพดวงไฟนับหมื่นดวงที่ค่อยๆ ลอยสู่ฟากฟ้า คล้ายกลุ่มดวงดาว บนทางช้างเผือก สะกดมหาชนให้สงบนิ่ง รู้สึกซาบซึ้งกินใจไปกับความหมาย ของบทเพลงอันไพเราะ ราวกับได้น้อมส่งดวงวิญญาณ ทุกดวงของผู้ล่วงลับ ให้เดินทางสู่สุคติบนสรวงสวรรค์ ซึ่งสิ่งสำคัญประการหนึ่ง ที่ยังคงทิ้งร่องรอย จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ย่อมเป็นการยืนยันหนักแน่นว่า " ธรรมะของพระบรมศาสดา นับเป็นที่พึ่งอันประเสริฐของมวลมนุษยชาติอย่างแท้จริง"