วารสารอยู่ในบุญ ธรรมะออนไลน์

พระธรรมเทศนา ปุจฉา-วิสัชนา บทความข่าว ผลการปฏิบัติธรรม ตักบาตรพระ บาลีน่ารู้ กฏแห่งกรรม ฝันในฝัน บวชพระ

บทความอยู่ในบุญ การจัดการกับเวลา สัมภาษณ์พิเศษ : ภพ ภิญโญ

 

         ๒๔ ชม./วัน ..คือสิ่งที่มนุษย์ได้มาเท่ากัน
แต่บริหารไม่เหมือนกัน จึงทำให้ประสบความสำเร็จต่างกัน
เธอผู้นี้..มีวิธีการจัดการกับเวลาอย่างไร
จึงได้รับคัดเลือกให้เป็นนักธุรกิจหญิงดีเด่น..!!!



         บริษัท สตาร์ปริ้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ และบรรจุภัณฑ์ ที่ได้รับมาตรฐาน ISO 9002, ISO 14001 เป็นแห่งแรก และในกลุ่มธุรกิจประเภทเดียวกัน ยังเป็นบริษัทเดียวในประเทศไทยที่ได้รับมาตรฐาน GMP (G๐๐d Manufacturing Practice) ในขณะนี้ ตลอดจนได้รับรางวัลเป็นสถานประกอบการดีเด่น ประเภทอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์อีกด้วย

         ซึ่งในวันนี้ทางทีมงานเราได้มีโอกาสเข้าพบเพื่อพูดคุยกับ ประธานกรรมการกิตติมศักดิ์ คุณกัญญา ใต้ธงชัย ว่าเธอมีหลักหรือเทคนิคอะไร ที่นำพาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ถึงขนาดนี้

         ในฐานะที่ตัวเองเป็นลูกคนแรกที่เข้ามาช่วยคุณพ่อ หลังจากจบปริญญาโทที่นิวยอร์กแล้ว ก็ได้รับการถ่ายทอดเนื้องานและการทำงานที่มุ่งมั่นเอาจริงเอาจังจากคุณพ่อ แล้วมาต่อยอดเองในภายหลังโดยดึงเอาจากประสบการณ์ที่เราได้เรียนมาปรับให้ก้าวทันโลกมากขึ้น ..ในตอนแรกยอมรับค่ะว่า รู้สึกยาก เพราะเราไม่ได้เรียนรู้งานตั้งแต่เราเล็กๆ แต่ก็มีความภูมิใจกับธุรกิจว่าครอบครัวเราจับทิศทางของธุรกิจถูกจุดคือ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะผันผวนไปอย่างไร คนก็ยังต้องใช้สินค้าอุปโภคบริโภคอยู่ ซึ่งสินค้าพวกนี้ก็ต้องอาศัย Package..

        Package (บรรจุภัณฑ์) ที่เราเห็นตามท้องตลาด หรือห้างสรรพสินค้า ไม่ว่าจะเป็น กล่องยาสีฟัน กล่องสบู่ กล่องผลิตภัณฑ์นมต่างๆ หรือแม้แต่บรรจุภัณฑ์ประเภท Pouch (บรรจุภัณฑ์แบบอ่อน) เช่น ซองน้ำยาปรับผ้านุ่ม ซองน้ำยาล้างจาน ฯลฯ ได้ถูกผลิตขึ้นจากที่นี่ และส่งเข้าโรงงานเพื่อขึ้นรูป แล้วบรรจุผลิตภัณฑ์ออกสู่ท้องตลาด เข้าสู่มือผู้บริโภค

        แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้น บริษัทยักษ์ใหญ่หลายต่อหลายบริษัทต่างเลือกบริษัทแห่งนี้ เป็นบริษัทคู่ค้า เพราะความเป็นมาตรฐานสากล และมีระบบการจัดการที่ก้าวทันโลก จนกิจการเติบโตและขยาย line (สายการผลิต) เพิ่มขึ้นถึง ๔ โรงงาน

        "เมื่อก่อนนี้ทำงานอาทิตย์ละ ๗ วัน ดูเผินๆ เหมือนเราทำงานเก่ง เราขยัน ซึ่งถ้าไม่คิดอะไรก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะเราสนุกกับงาน พอปัญหาเข้ามาเรารู้สึกท้าทาย ยิ่งแก้ได้ยิ่งทำให้เราโตขึ้นอีก แต่พอเราถอยออกมามองตัวเองจริงๆ แล้ว ทำให้เรามีคำถามกลับว่า เอ้..มันใช่การทำงานที่มีประสิทธิภาพ จริงๆ รึเปล่า ซึ่งถ้าเราจัดการกับงานได้อย่างมีประสิทธิภาพดีจริงแล้วเนี่ย ทำไมเราต้องทำงานถึง ๗ วันด้วย ซึ่งทำให้เราไม่มีเวลา ให้ความสำคัญกับชีวิตด้านอื่นๆ เลย"

  

      ซึ่งปกติแล้วธรรมชาติของงานด้านการพิมพ์ที่มี Iine การผลิตที่มาก และมีพนักงานร่วมพันกว่าคน มีการเดินเครื่องจักรตลอด ๒๔ ชม. ขนาดนี้ ไม่ง่ายนักสำหรับนักบริหารที่จะมีเวลาเหลือสำหรับเรื่องอื่น แต่เธอกลับกล้าให้โอกาสตัวเองโดยจัดระบบการจัดการเวลาให้กับชีวิตใหม่ ซึ่งเป็นผลให้เธอมีชีวิตที่ประสบความสำเร็จมากว่าเดิม จนต้องหันกลับมามอง

        " ..คือได้เข้าอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับการจัดการเรื่องเวลา ซึ่งได้แบ่งเวลาให้ความสำคัญชีวิตออกเป็น ๖ ส่วน คือ เงิน ธุรกิจ ครอบครัว การศึกษา สังคม และศาสนา จึงได้นำมาลองใช้ ทำให้เราพบว่าชีวิตเราดีขึ้นนะ เราไม่ต้องทำงานถึง ๗ วันเหมือนแต่ก่อน เราก็ได้เนื้องานเหมือนเดิมและดีกว่าเดิม แล้วเราก็มีเวลาให้กับส่วนอื่นมากขึ้น คือเรามีเวลาให้ลูก มีเวลาให้กับครอบครัว มีเวลาไปเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มาพัฒนางาน และที่สำคัญ ศาสนา จากเมื่อก่อนแค่ได้ทำบุญธรรมดาๆ ก็หันมาศึกษาธรรมะ ซึ่งเอามาใช้ได้มาก..."

        การนำธรรมะมาใช้ เป็นสิ่งที่คนในสังคมปัจจุบันหลายคนมองข้ามไป ถือว่าเป็นเรื่องไกลตัว และเสียเวลา.. (รึเปล่า..?) แต่เธอกลับให้ข้อคิดที่ดีกับสิ่งนี้ว่า

        "..ต้องยอมรับอยู่อย่างหนึ่งว่า ตั้งแต่เรามาให้ความสำคัญกับศาสนา ทำให้เราไม่ได้เข้าใจเพียงว่า ศาสนา คือ แค่การทำบุญบริจาคเงินไปอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว แต่ทุกวันนี้ได้เอาหลักธรรมมาใช้มากจนเรารู้สึกว่าชีวิตเราเปลี่ยนไป เพราะจริงๆ แล้ว ธรรมะได้นำมาใช้ในการบริหารชีวิตได้ในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการสอนลูก การอบรมพนักงาน การบริหารงาน การพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเองในทุกด้าน และเรายังพบว่าไม่ว่าอุปสรรค จะเข้ามาแค่ไหน..เราแก้ได้ เพราะอาศัยความนิ่งจากธรรมะ"

        ความนิ่งในที่นี้ คือ อะไร...? เธออธิบายต่อ ...
        "ความนิ่งตรงนี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าเราไม่ได้ฝึกสมาธิเป็นประจำสม่ำเสมอมาก่อน เพราะถ้ามีปัญหาเข้ามาเพียงแค่เรา เตือนสติตัวเราไม่ให้แก้ปัญหานั้น ด้วยความร้อนรนก็เป็นไปได้ยากแล้ว และถ้าในภาวะที่กดดันมากๆ ล่ะ.. ยิ่งเป็นไปได้ยากใหญ่เลย ที่เราจะไม่กระวนกระวายใช้อารมณ์ในการแก้ปัญหา แต่ถ้าเราผ่านการฝึกสมาธิมาก่อน สมาธิจะช่วยให้เรานิ่งขึ้น มีใจที่สงบ เมื่อสงบจะเกิดปัญญา ทำให้เรามองปัญหานั้นขาดว่า สาเหตุมาจากอะไร แล้วก็แก้ได้ตรงจุด ซึ่งจะทำให้เราพบทางออกที่ดีทุกครั้ง..."้

              ทุกวันนี้ก่อนเริ่มภารกิจประจำวัน เธอได้นำใจไปเกาะเกี่ยวกับบุญ เธอสวดมนต์นั่งสมาธิในตอนเช้า และตักบาตร ก่อนจะมาให้เวลากับงานที่บริษัทอย่างเต็มที่ และที่สำคัญ คือเธอได้นำสิ่งที่ได้รู้และนำมาปฏิบัติแล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นไปในทางที่ดีขึ้นนี้ แนะนำและอบรมให้กับพนักงานในบริษัทด้วยโดยเปิดถ่ายทอดเสียงผ่านโทรศัพท์ ๑๐ คู่สายในการเผยแผ่คำสอนของพระเดช พระคุณหลวงพ่อจากที่วัด และทุกวันจันทร์.. ช่วงบ่ายจะนิมนต์พระอาจารย์จากวัดพระธรรมกายมาสอนสมาธิ สอนหลักการดำรงชีวิตให้กับพนักงาน

   

     "..ในตอนแรกจะถามความเห็นจากพนักงานในบริษัทก่อน ซึ่งปรากฏว่ามีคนให้ความสนใจหลายคน ต่อจากนั้นก็มีคนมาร่วมนั่งสมาธิเพิ่มมากขึ้น และที่เราจัดให้มีกิจกรรมแบบนี้ ก็เพราะเราคิดเสมอว่า ในเมื่อตัวเราได้เรียนรู้สิ่งดีๆ ที่เป็นประโยชน์แก่ชีวิตอย่างสูงสุดขนาดนี้ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่จะหาฟังจากที่ไหนง่ายๆ เราจึงอยากแบ่งปันสิ่งดีๆ เหล่านี้ให้กับคนรอบข้างให้เขารับรู้ และนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตของเขาเองแล้ว พอเราจัดให้มีกิจกรรมแบบนี้เป็นประจำ ก็พบว่า มีหลายคน ที่เขาเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น สามารถเลิกเหล้า เลิกบุหรี่ได้ ซึ่งตอนจัดพิธีเทเหล้าเผาบุหรี่ที่โรงงาน เขาก็เอามาร่วมกับเราด้วย"

        ซึ่งสุดท้ายนี้ เธอได้ฝากข้อคิดและความประทับไว้ว่า...
        " ก่อนเข้าวัด เคยถามตัวเองว่า คนเราเกิดมาทำไม เกิดมาเพื่ออะไร ..เพื่อเรียน ..ทำงาน ..มีครอบครัว แล้วก็ตายอย่างนั้นหรือ..? ความคิดนี้ทำให้เรารู้สึกถึงความว่างเปล่า และไม่มีจุดหมายปลายทางที่ชัดเจน ดังนั้นทุกวันนี้ จึงรู้สึกตัวเองโชคดีมาก ที่ได้มารู้จักวัดพระธรรมกาย รู้จักครูบาอาจารย์และวิชชาธรรมกาย จึงทำให้ได้เรียนรู้สิ่งที่เป็นประโยชน์ ซึ่งก็คือวิชาชีวิต เพราะทำให้เราสามารถวางรูปแบบและแบบแผน การดำรงชีวิตได้อย่างถูกต้อง โดยไม่พลาดไปทำสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควร ด้วยความไม่รู้ ซึ่งจะเห็นได้จากบางอย่างที่ไม่ถูกไม่ควรในปัจจุบันนี้ กลับกลายเป็นค่านิยม ที่เป็นยอมรับของสังคมไป

        ..และที่ประทับใจไปมากกว่านั้นคือ คำสอนของพระเดช พระคุณหลวงพ่อที่ว่า "เราสามารถเป็นผู้ออกแบบชีวิตของเราเองได้" ซึ่ง ณ วันนี้ ตัวเองได้มารู้ถึงเป้าหมายชีวิตที่แท้จริงแล้วคือ คนเราเกิดมาเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง เกิดมาสร้างบารมี พร้อมกับเรียนรู้วิธีการออกแบบชีวิตอีกด้วย ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เราสามารถเติมความบริบูรณ์ เพื่อไปสู่ความเต็มเปี่ยมของชีวิตบนหนทางที่ถูกต้องได้ง่ายขึ้น"...

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล