นิทานอีสป เรื่องสุนัขจิ้งจอกหางด้วน
ผู้แต่ง : อีสป
สุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งหลุดออกจากกับดักของนายพรานมาได้เพราะดิ้นหนีจนหางขาดติดอยู่ที่กับดัก หมาจิ้งจอกรู้สึกอับอายมากที่หางด้วนเมื่อกลับเข้าฝูงจึงพูดจาหว่านล้อมให้สุนัขจิ้งจอกทุกตัวตัดหางทิ้งจะได้หางด้วนเหมือนกับตน
“ข้าเพิ่งคิดออกว่า หางที่เป็นพวงยาวนี่มันช่างเกะกะ รุ่มร่ามจริงๆ วิ่งก็ช้า ข้าจึงตัดหางทิ้งซะ…ทำให้สง่างาม โดดเด่น และวิ่งเร็วขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย พวกเจ้าก็น่าจะตัดหางทิ้งเหมือนข้านะ” แล้วเพื่อนๆของมันทั้งหมด ต่างก็คล้อยตามไปกับวาจาที่เจ้าเล่ห์นั่น
สุนัขจิ้งจอกอาวุโสตัวหนึ่ง ที่คอยเฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ใกล้ๆจึงพูดขึ้นว่า “พวงหางที่ดูสวยงามของพวกเราเป็นสิ่งที่มีค่า เราควรภาคภูมิใจกับมันแล้วข้าก็เห็นว่าสุนัขจิ้งจอกหางด้วนไม่เห็นมีอะไรวิเศษตรงไหน! เจ้าอย่าพยายามมาหลอกพวกเราให้ยากเลยดีกว่า เจ้าอับอายที่ไม่มีหาง ก็เลยคิดจะให้พวกเราตัดหางทิ้งเหมือนอย่างเจ้าใช่ไหมล่ะ”
ในเวลานั้น สุนัขจิ้งจอกหางด้วนรู้สึกสมเพชตัวเอง และอับอายเป็นอย่างมากส่วนเพื่อนสุนัขจิ้งจอกตัวอื่น เมื่อได้ฟัง ก็พากันเมินหน้าหนีไม่มีตัวใดหลงเชื่อและและคิดอยากคบค้าสมาคมกับสุนัขจิ้งจอกหางด้วนอีกเลย
:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::
1) “สิ่งที่ตนเห็นว่าน่าอับอาย ก็ไม่ควรหว่านล้อมให้ผู้อื่นเห็นดีด้วย”
2) “ผู้มีปัญญาย่อมไม่คล้อยตามคำพูดของใครง่ายๆ”
:: พุทธภาษิต ::
ปรสฺส วา อตฺตโน วาปิ เหตุ น ภาสติ อลิกํ ภูริปญฺโญ
โส ปูชิโต โหติ สภาย มชฺเฌ ปจฺฉาปิ โส สุคติคามิ โหติ
ผู้มีภูมิปัญญา ย่อมไม่พูดพล่อยๆ เพราะเหตุแห่งคนอื่น หรือตนเอง
ผู้นั้นย่อมมีผู้บูชาในท่ามกลางชุมชน (สภา) แม้ภายหลังเขาย่อมไปสู่สุคติ