นิทานอีสป เรื่อง สุนัขป่าหน้าโง่
ผู้แต่ง : อีสป
ลาตัวหนึ่ง ขณะกำลังกินหญ้าอยู่ที่กลางทุ่งอย่างเพลิดเพลิน แต่มันก็ต้องตกใจอย่างที่สุดเมื่อมันมองไปเห็นสุนัขป่าดุร้ายตัวหนึ่งเข้า และเจ้าสุนัขป่าตัวนั้นก็กำลังวิ่งตรงเข้ามาหาหมายจะจับมันกินเป็นอาหาร และด้วยเจ้าลาตัวนี้มันเป็นลาที่สมองดี นั่นเองมันจึงแสร้งทำเป็นว่าเท้าเจ็บแล้วแกล้งก้าวเขยกขาหลังของมันค่อยๆ เดินไปข้างหน้าอย่างสมจริงสมจังมากเสียด้วย
สุนัขป่าที่วิ่งมาถึงหมายจะกระโดดตะครุบแต่เมื่อมันเห็นอาการเดินเขยกขาของลาเข้าเช่นนั้น ก็จึงเกิดความสงสัยขึ้นมาติดหมัดเลยทีเดียว มันจึงหยุดแล้วตะโกนถามออกไปว่า "นั่นเจ้าเป็นอะไรน่ะ ทำไมถึงเดินขาเขยกอย่างนั้นเล่า"
ลาหัวหมอแข็งใจตอบไปว่า "เมื่อสักครู่นี้ข้ากระโดดข้ามพุ่มไม้แล้วไปเหยียบเอาหนามแหลมเข้า นี่หนามมันยังติดฝังฝ่าเท้าของข้าอยู่เลยเออแน่ะ! เมื่อเจ้าจะกินข้า ก็กินเถอะข้ายอม แต่สงสัยว่าเจ้าคงต้องเอาหนามที่ฝ่าเท้าหลังของข้านี้ออกเสียก่อนจะดีกว่านะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวหนามมันจะเลยเข้าไปตำคอหอยเจ้าตอนกินข้า ได้ก็ไม่รู้นะ"
เมื่อได้ยินลาว่าดังนั้น เจ้าสุนัขป่าที่ดุร้ายแต่สมองทึบก็เกิดเห็นด้วยขึ้นมา มันจึงยกเท้าหลังข้างที่เขยกของลาขึ้นดู หมายจะดึงหนาม ออกเลียก่อนแล้วค่อยกิน..ว่าอย่างนั้น
แต่ขณะที่มันกำลังมองสำรวจหาหนามอยู่นั้นเอง ลาก็เลยได้จังหวะและใช้เท้าหลังข้างนั้นดีดลูกหลังโดนปากสุนัขป่าอย่างเต็มแรง
ผลก็เลย ทำให้ฟันในปากของเจ้าสุนัขป่าหักไปหลายซีเลือดแดงกลบปากเลยทีเดียว
เจ้าสุนัขป่าจำต้องทรุดลงนั่งร้องโอดครวญไปมา และตอนนั้น ลาหัวหมอก็เลยถือโอกาสออกวิ่งหนีไปจากที่นั้นทันที
:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::
ผู้ที่ชอบสอดรู้ในเรื่องที่ตนไม่น่าที่จะรู้ในบางครั้ง ก็มักจะต้องเจ็บตัวและเสียผลประโยชน์ง่าย ๆ อย่างตัวอย่างที่ ว่ามานี่แหละ
:: พุทธภาษิต ::
ผู้ใดไม่รู้ ย่อมก่ออุปธิ ผู้นั้นเป็นคนเขลา เข้าถึงทุกข์บ่อย ๆ เพราะฉะนั้น ผู้รู้เห็นแดนเกิดแห่งทุกข์ จึงไม่ควรก่ออุปธิ