นิทานอีสป เรื่อง มุมมองของเจ้าป่า
ในยุคดึกดำบรรพ์ อันเป็นยุคแรกของสัตว์ป่า ปรากฏว่าทั่วทั้งป่ามีแต่สัตว์ดีทั้งสิ้น ไม่เยมีสัตว์บก สัตว์น้ำ และนกตัวใดเลวร้ายเลย
แต่ในยุคต่อมา ปรากฏว่ามีสัตว์ร้ายแฝงเข้ามาปะปนอยู่ในสัตว์ป่าทั้วสามประเภทนี้มากมาย ทำให้สัตว์ป่าที่เคยปลอดภัยกลายเป็นป่าที่มีแต่ภยันตราย เกิดความเดือดร้อนวุ่นวายต่างๆ นานา
บรรดาสัตว์ดีจึงพากันไปร้องทุกข์กับสิงโตเจ้าป่า ว่าพวกมันเดือดร้อนจนหาความสงบสุขไม่ได้เลย เพราะมีสัตว์ร้ายเข้ามาอยู่ในป่ามากมาย ขอให้เจ้าป่ากำจัดสัตว์ร้ายเหล่านี้ออกไปจากป่าให้หมดโดยเร็ว นอกจากนี้ขอให้เจ้าป่าห้ามสัตว์ร้ายไม่ให้เข้ามาในป่า ควรมีการตรวจตราซักถามก่อนที่สัตว์ตัวใดจะผ่านประตูป่าหรือทางเข้ามาป่า หากได้ความว่าเป็นสัตว์ดีจึงจะให้เข้ามาในป่าได้
เมื่อสิงโตเจ้าป่าได้ฟังดังนั้นก็หัวเราะ แล้วพูดว่า "ขึ้นชื่อว่าสัตว์ป่า แม้โง่เขลาเบาปัญญาเพียงใด ก็จะไม่มีสัตว์ตัวไหนบอกว่าตัวเองเป็นสัตว์ร้าย จึงไม่มีประโยชน์อันใดที่จะไปซักถามสัตว์ที่จะเข้ามาในป่าว่ามันเป็นสัตว์ดีหรือร้าย และการจะกำจัดพวกมันให้หมดไปนั้น จะไปชี้หน้าว่าสัตว์ตัวใดร้ายก็ไม่ได้ จนกว่าสัตว์ตัวนั้นจะแสดงตนออกมา เราจึงจะกำจัดได้"
เจ้าป่าก็ได้ให้สติแต่บริวารทั้งหลายว่า "ประตูป่านั้นถึงจะมีแต่ก็เหมือนไม่มี เพราะประตูนี้เปิดตลอดกาล เป็นธรรมดาที่จะมีสัตว์ดีและสัตว์ร้ายปะปนเข้ามา"