Dhammaforpeople
ธรรมะเพื่อประชาชน
คู่กัดข้ามชาติ ตอน ๒ จบ
ในโลกปัจจุบันนี้มีการแข่งขันและขัดแย้งกันไปทั่ว ก่อเกิดความวุ่นวายมากมาย เมื่อมีการแพ้การชนะก็มีศัตรู ถ้าเกิดความพ่ายแพ้ในการแข่งขัน ผู้พ่ายแพ้ก็ย่อมก่อเวรและหาทางแก้กันไปแก้กันมา ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอมกัน ทำให้การอยู่ร่วมกันมีปัญหาขัดแย้งมาทุกยุคทุกสมัย แต่ถ้าต่างฝ่ายต่างถ้อยทีถ้อยอาศัย ความวุ่นวายทั้งหลายในโลกนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น หากรู้จักการให้อภัยกัน มีจิตเมตตาปรารถนาดีต่อกัน ก็จะมีแต่ความสุขความสบายใจ
ลองสังเกตดูใจของเราหากเรามีจิตเมตตาเปี่ยมไปด้วยอภัยทานแล้ว สภาวะใจของเราจะนุ่มนวลโปร่งเบาสบาย จะไม่รู้สึกอึดอัด หรือเป็นทุกข์ใจอะไร ความทุกข์ที่คนอื่นมองเห็นเท่าภูเขา แต่สำหรับเราแล้วเป็นเพียงความว่างเปล่า เพราะสุขหรือทุกข์นั้นอยู่ที่ใจของเราเองนะจ๊ะ
มีธรรมะภาษิตที่ปรากฎในปัณฑรกนาคชาดกความว่า ภัยเกิดจากตนเองย่อมตามถึงบุคคลผู้ไร้ปัญญาพูดพร่อย ๆ ไม่ปิดบังความลับ ขาดความระมัดระวัง ขาดการพินิจพิจารณา เหมือนครุฑตามถึงปัณฑรกนาคราช นรชนใด ยินดีบอกมนต์ลัพธ์ ที่ตนควรจะรักษาแก่คนชั่ว เพราะความหลงภัยย่อมถึงนรชนนั้น ผู้แพร่งพรายมนต์แล้ว เหมือนครุฑตามถึงปัณฑรกนาคราชฉะนั้น
กลยุทธ์ในการเอาชนะฝ่ายตรงข้าม ที่นิยมใช้กันอยู่ในปัจจุบันประการหนึ่งก็คือ การโจรกรรมข้อมูลโดยมีทั้งสายลัพและสายสืบไปหาข้อมูล และล้วงเอาความลัพจากฝ่ายตรงข้าม ว่ามีจุดบอดจุดอ่อนและจุดแข็งตรงไหน เพื่อจะหาช่องทางเอาชนะศรัตรู เช่นการไปเป็นศัตรูที่แฝงอยู่ในคราบมิตร ผูกสนิทชิดเชื้อกับฝ่ายตรงข้าม จนอีกฝ่ายหนึ่งตายใจ ถึงกับคายความลัพให้ฝ่ายตรงข้ามจนหมดสิ้น เหมือนดังเรื่องราวของนักบวชชีเปลือย จะได้พยายามล้วงข้อมูลลับจากปัณฑรกนาคราช ซึ่งเมื่อวานนี้หลวงพ่อได้เล่าถึงตอนที่ครุฑพยายามหาทางที่จะล้วงความลับ ของพวกนาคให้ได้ว่าทำไมเวลาครุฑแหวกมหาสมุทรลงไปจับนาค แต่กลับถูกนาคฉุดลงสู่มหาสมุทร ทำให้น้ำท่วมตายมากมาย ครุฑได้ไปคอยอุปัฏฐากดูแลชีเปลือยคนหนึ่ง จนชีเปลือยเกิดความพอใจมาก เมื่อครุฑขอร้องให้ช่วยหาความลับ ของพวกนาคให้ จึงรับปากว่าจะช่วย
เนื่องจากชีเปลือยเป็นผู้ทุศีล ได้เกลี้ยกล่อมเพื่อหลอกเอาความลับนี้ จากปัณฑรกนาคราช ซึ่งขึ้นมาไหว้ตัวเองอยู่เป็นประจำ ได้แสร้งให้คำมั่นสัญญาว่า หากรู้ความลับแล้วจะไม่บอกให้ใครรู้เด็ดขาด
ปัณฑรกนาคราชหลงเชื่ออย่างสนิทใจ นึกว่าชีเปลือยเป็นนักบวชผู้ทรงศีล คงไม่พูดมุสา จึงบอกว่า ท่านนักบวชอันที่จริงพวกผมไม่ได้มีฤทธิ์มากไปกว่าพญาครุฑ เพียงแต่ว่าพวกกระผมได้กลืนก้อนหินใหญ่เอาไว้ ทำตัวให้หนักนอนอยู่ ในเวลาที่พวกครุฑมาก็ยื่นหน้าออกแยกเขี้ยว คอยจะขบกัดครุฑเมื่อพวกครุฑมาถึงก็จับศีรษะของพวกกระผมไว้ พวกมันพยามจะฉุดขึ้น พวกผมซึ่งเป็นเหมือนซึ่งภาระอันหนักอึ้ง พยาครุฑจึงนำขึ้นจากน้ำไม่ได้ น้ำก็จะท่วมครุฑพวกครุฑถูกฉุดกระชากลงไปในน้ำ และจมน้ำตายในที่สุด
นี่แหละคือสาเหตุที่ทำให้พวกครุฑพินาศไปเป็นจำนวนมาก อันที่จริงหากครุฑฉลาด เมื่อจะจับพวกกระผม จะต้องจับที่ขนดหาง ทำให้พวกกระผมมีศีรษะห้อยลงข้างล่าง ได้สำรอกเอาก้อนหินออกมาทำให้ตัวเบา จึงจะสามารถจับพวกกระผมได้ เมื่อพญานาคบอกเหตุอันเร้นลัพนี้ ให้ชีเปลือยผู้ทุศีลฟังแล้ว ก็ให้คำสาบาลกับนาคว่าจะรักษาความลับนี้ยิ่งชีวิตขอให้นาคสบายใจได้
ครั้นพญานาคลากลับไปแล้ว ชีเปลือยก็ได้บอกความลัพของนาคให้ครุฑฟังอย่างละเอียด พยาครุฑได้ฟังแล้วก็รู้สึกสลดสังเวชใจ แทนหมู่ญาติของพวกนาคที่จะต้องพินาศ ธรรมดาลู่ทางที่จะทำให้หมู่ญาติมิตรต้องพินาศไม่ควรจะบอกแก่คนอื่นเลย ถึงคราวที่เราจะจัดการกับพวกนาค ผู้เลื้อยไปด้วยอกได้แล้ว วันนี้เราจะต้องทำลมใหญ่ ให้พวกนาคได้รู้กำลังของพญาครุฑ แล้วจับปัณฑรกนาคราชตัวนี้แหละก่อนนาคตัวอื่น
พยาครุฑก็ได้กระพือปีก ทำลมใหญ่ให้เกิดขึ้นแล้วจับปัณฑรกนาคราชทางขนดหาง ทำให้มีศีรษะห้อยลง สบัดไปมาทำให้สำลอกอาหาร และก้อนหินที่กลืนเข้าไป และโผบินเข้าไปในอากาศ ปัณฑรกนาคราชรู้ว่าตนเองเพลี่ยงพล้ำต่อพยาครุฑเสียแล้ว เมื่อต้องห้อยศีรษะลง ก็รำพึงรำพันว่าเรานำทุกข์มาให้แก่ตัวเองแท้ ๆ ภัยเกิดจากปากของเรา ผู้ไร้ปัญญาพูดพล่อย ๆ ไม่ปิดบังความลับ ขาดความระมัดระวัง ว่าแล้วก็ตำหนิติเตียนตัวเองต่าง ๆ นานา
พญาครุฑตำหนิพญานาคราชว่า ท่านบอกความลับของตนแก่ชีเปลือยแล้ว ทำไมจึงมัวปริเทวนาการอยู่เล่า บรรดาสัตว์ทั้ง ๓ จำพวกคือ สมณะ ครุฑและนาค ใครหนอควรจะได้รับคำติเตียนในโลกนี้ อันที่จริงตัวท่านนั่นแหละ ควรจะได้รับคำติเตียนมากที่สุด ท่านลองพิจารณาดูเองเถิด ท่านถูกครุฑจับเพราะเหตุอะไร พญาครุฑได้ให้ข้อคิดพยานาคว่า บุคคลไม่ควรเปิดเผยความลับ ควรรักษาความลับนั้นไว้ เหมือนรักษาขุมทรัพย์ ความลับที่บุคคลอื่นรู้เข้าแล้วทำให้แพร่งพรายออกไปไม่ดีเลย บุคคลใดให้ผู้ไม่มีความคิดร่วงรู้ความลับ ถึงแม้เขาจะเป็นคนรับใช้ของตนก็จำต้องอดกลั้นไว้ คนมีประมาณเท่าใดรู้ความรับที่ปรึกษากันของบุรุษ คนประมาณเท่านั้นย่อมขู่ให้บุรุษนั้นหวาดกลัวได้ ฉะนั้นจึงไม่ควรขยายความลับนั้นออกไป
เมื่อพญาครุฑกล่าวธรรมให้ฟังอย่างนี้แล้ว ปัณฑรกนาคราชก็ยอมรับในธรรมะภาษิตที่ได้ฟังนั้น ขณะเดียวกันก็สงสัยว่า กทัมพิยะอเจลกเป็นสมรรถนะแท้หรือสมณะเทียม จึงถามว่า ดูก่อนพญาครุฑ บุคคลผู้ละสิ่งที่ยึดถือทั้งปวงว่าเป็นของเรา แล้วมาประพฤติตนเป็นนักบวชมีการกระทำอย่างไร มีศีลอย่างไร ประพฤติพรตอย่างไร จึงจะชื่อว่าเป็นสมณะ สมณะนั้นมีการทำอย่างไร จึงจะเข้าถึงดินแดนสวรรค์ พยาครุฑกลับกล่าวตอบว่า บุคคลผู้ละสิ่งที่ยึดถือทั้งปวงว่า เป็นของเรา แล้วมาประพฤตนเป็นนักบวช ต้องประกอบด้วยความละอาย การฝึกฝนตนเอง ความอดทนอดกลั้น ไม่โกรธง่าย ละวาจาส่อเสียด จึงจะชื่อว่าเป็นสมณะ สมณะนั้นมีการกระทำอย่างนี้ จึงจะเข้าถึงดินแดนสวรรค์ ซึ่งกทัมพิยะอเจลกนั้นเป็นคนทุศีล เป็นคนลวงโลก
ปัณฑรกนาคราชรู้ว่าพยาครุฑตนนี้เป็นผู้มีคุณธรรม ไม่ได้มีใจเหี้ยมโหดเสียเลยทีเดียว จึงอ้อนวอนขอชีวิตว่า ข้าแต่พญาครุฑขอท่านจงปรากฏแก่ข้าพเจ้า เหมือนมารดาที่รักลูกน้อยในอุธรเถิด เพราะท่านเป็นบัณฑิตมากด้วยคุณธรรม ฝ่ายครุฑก็เกิดจิตเมตตาบอกว่าครั้งนี้จะยอมยกโทษให้ ว่าแล้วก็โผลงจับที่แผ่นดิน แล้วปล่อยพญานาคไป พร้อมกับกล่าวให้พญานาคสบายใจว่า วันนี้ท่านรอดพ้นจากภัยทั้งปวงแล้ว จงเป็นผู้อันเราคุ้มครองแล้วทั้งทางบกและทางน้ำเถิด หมอผู้ฉลาดเป็นที่พึ่งของคนไข้ ห้วงน้ำอันเย็นเป็นที่พึ่งของคนหิวกระหาย สถานที่พักเป็นที่พึ่งของคนเดินทางฉันใด เราก็จะเป็นที่พึ่งของท่านฉันนั้นเหมือนกัน พญานาคครั้นรอดพ้นจากอุ้งล็บของพญาครุฑแล้ว ก็ดำดินไปสู่นาคพิภพ
ฝ่ายพยาครุฑก็กลับไปยังสุบรรณพิภพ แม้ว่าครั้งนี้จะไม่ได้กินเหยื่อ แต่ครุฑก็ได้นำความลับนี้ไปบอกให้กับหมู่ญาติของตนได้ทราบ เพื่อความสวัสดีของหมู่ญาติ ตั้งแต่นั้นมาพวกครุฑจึงจับนาคได้อย่างสบาย อีกทั้งพวกนาคก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ นี่ก็เป็นเพราะการไม่รักษาความลับของตนนั่นเอง
เราจะเห็นได้ว่าโทษของการบอกความลับกับศัตรูนั้น เป็นมหันตภัยใหญ่หลวง ที่จะนำมาซึ่งความพินาศ และความตาย ดังนั้นน่ะเราต้องตระหนักอยู่เสมอว่า ก่อนจะพูดจาอะไรกับใครต้องใคร่ควรให้ดีเสียก่อน อย่าให้เดือดร้อนในภายหลัง เราต้องสำรวมระวัง เรื่องการพูดจาให้ดี เรื่องไหนควรพูดเรื่องไหนไม่ควรพูด เรื่องไหนควรเก็บไว้เป็นความลับ ต้องแยกแยะให้ออกใคร่ครวญให้ดี ก่อนจะพูดจาทุกครั้ง แล้วการดำเนินชีวิตของเรา ทั้งทางโลกและทางธรรมจะได้เจริญก้าวหน้า ไปถึงจุดหมายปลายทางโดยสวัสดิภาพกันนะจ๊ะ