อยู่กับความแตกต่างอย่างลงตัว

วันที่ 24 พย. พ.ศ.2558

อยู่กับความแตกต่างอย่างลงตัว


            ก่อนที่เราจะเรียนรู้เรื่องความรัก ของคนสองคนหรือเรื่องชีวิตคู่ ก่อนอื่นเราควรเข้าใจภาพรวมของตนเองและคนรอบข้างในสังคมก่อนว่า ความจริงแล้วคนเรามีส่วนที่เหมือนและแตกต่างกัน คือเราทุกคนล้วนมีความต้องการ มีอารมณ์ ความรู้สึก แต่ว่าความต้องการ อารมณ์ และความรู้สึกนั้นอาจไม่เหมือนกันนอกจากนี้ลักษณะทางกายภาพ เช่น หน้าตา สีผม สีผิวก็ไม่เหมือนกันด้วย


               เพราะฉะนั้น ไม่มีใครบนโลกนี้ที่เหมือนกันไปหมด จึงมีความจำเป็นที่เราจะต้องศึกษาความแตกต่าง
เหล่านี้ เพื่อเราจะได้อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ ทั้งในสังคมเล็กๆ อย่างครอบครัวและในสังคมที่ใหญ่ออกไปในเชิงวิชาการ แยกแยะสาเหตุที่ทำให้มนุษย์มีความแตกต่างกันออกไปเป็น 2 ปัจจัยคร่าวๆ คือ " พันธุกรรม " และ " สิ่งแวดล้อม " ดังนี้

ปัจจัยแวดล้อมประการที่ 1 พันธุกรรม
         ลักษณะของพันธุกรรม คือการถ่ายทอดจากบรรพบุรุษ ไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลานซึ่งทำให้แต่ละคนมีร่างกายและลักษณะทางเพศที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนั้นพันธุกรรมยังครอบคลุมถึงชนิดของกลุ่มเลือดสติปัญญา และความถนัดของแต่ละคน บุคลิกภาพและอารมณ์ ลักษณะความบกพร่องทางร่างกายโดยเฉพาะโรคที่ติดต่อทางพันธุกรรม เรียกว่าเป็นความแตกต่างตั้งแต่เกิดที่เรา " เลือกไม่ได้ "

 

ปัจจัยแวดล้อมประการที่ 2 สิ่งแวดล้อม
           สิ่งแวดล้อมเริ่มต้นตั้งแต่ครอบครัว แต่ละครอบครัวมีการเลี้ยงดูลูกหลานแตกต่างกันไป บางครอบครัวอาจจะเลี้ยงดูด้วยความรักความเอาใจใส่ แต่บางครอบครัวอาจจะปล่อยปละละเลย ไม่ได้ทำหน้าที่พ่อแม่ที่ดีนัก ดังนั้น พอเด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เขาจึงมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันออกไป 


            นอกจากนั้นทัศนคติของพ่อแม่ หรือการงานอาชีพของพ่อแม่ รวมทั้งการปลูกฝังทางควาคิด คุณธรรม จริยธรรม ให้กับเด็ก ส่งผลให้เด็กเติบโต เป็นผู้ใหญ่ที่มีความแตกต่างกันออกไป ถ้าพ่อแม่มีนิสัยขยัน ลูกก็มักจะขยัน แต่ถ้าพ่อแม่มีนิสัยขี้เกียจและไม่เป็นระเบียบ ลูกก็จะติดนิสัยนั้นไปด้วยนั่นเอง คือ " พ่อแม่เป็นอย่างไร ลูกก็มีแนวโน้มจะเป็นอย่างนั้น "


           สถานศึกษามีหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ทางวิชาการและมีกิจกรรมต่างๆ ที่ปลูกฝังคุณธรรมให้แก่เด็กๆโรงเรียนจึงเป็นปัจจัยแวดล้อมส่วนหนึ่งที่ปลูกฝังลักษณะนิสัยของเด็กด้วย ถ้าโรงเรียนมีกิจกรรมต่างๆ ที่สร้างสรรค์ พัฒนาการของเด็กๆ ก็จะดีขึ้น ทำให้เขามีความฉลาดทั้งทางด้านร่างกายและอารมณ์ไปพร้อมๆกันนอกจากนั้นสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนยังมีส่วนสำคัญมาก เช่น บางโรงเรียนมีสิ่งแวดล้อมที่สกปรกและไม่เป็นระเบียบ ก็จะทำให้เด็กๆ ติดนิสัยนั้นมาด้วย 


         ดังนั้น ในการเลือกโรงเรียนให้ลูก นอกจากเรื่องการเรียนการสอนและผลการเรียนแล้ว พ่อแม่ควรเลือกกิจกรรมและสิ่งแวดล้อมภายในโรงเรียน รวมทั้งบุคลิกภาพของคุณครูด้วย เพราะถ้าคุณครูเป็นคนขยันทำงาน อบรมจริยธรรมให้กับเด็กๆ พวกเขาก็จะได้ซึมซับสิ่งดีๆ เอาไว้

 

ปัจจัยแวดล้อมประการที่ 3 เพื่อน
           ปัจจัยแวดล้อมอีกประการที่มีผลต่อความแตกต่างของมนุษย์คือ "เพื่อน" มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่มักจะอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น และต้องการการยอมรับจากคนรอบข้าง เพราะฉะนั้นเวลาที่เราเข้ากลุ่มกับเพื่อนๆ เรามักจะทำสิ่งที่เพื่อนๆ ยอมรับ เช่น ถ้าเรามีเพื่อนชอบทำความดี เราจะอยากทำความดีให้เพื่อนๆ ยอมรับ แต่ถ้าเราโชคร้ายไปเจอกลุ่มเพื่อนที่เกเร เราอาจจะเผลอทำสิ่งที่ไม่ดีเพื่อให้เพื่อนๆยอมรับเข้ากลุ่มก็ได้

 

ปัจจัยแวดล้อมประการที่ 4 สื่อ
        สื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ วารสาร หรืออินเทอร์เนต มีอิทธิพลต่อความรู้สึกนึกคิด
ของคนที่เสพสื่อนั้นมากๆ ปัจจุบันเป็นยุคของข้อมูลข่าวสาร มีการแชร์ข้อมูลกันทางโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างมากมาย เราจะต้องระวังว่าข้อมูลหลายๆอย่างมีความจริงบ้างเท็จบ้างผสมกันไป เพราะฉะนั้น เราไม่ควรหลงเชื่อข้อมูลที่ได้รับทั้งหมด

 

ปัจจัยแวดล้อมประการที่ 5 ศาสนา
         ปัจจัยแวดล้อมประการสุดท้าย ที่มีผลต่อความแตกต่างของคนเรา คือเรื่องของศาสนา ศาสนามีอิทธิพลต่อการสร้างความคิด ความเชื่อและค่านิยม รวมถึงมุมมองของการใช้ชีวิต ซึ่งแต่ละศาสนามีมุมมองที่แตกต่างกันออกไปทำให้เกิดความแตกต่างของคนแต่ละคน ในแต่ละชุมชนถ้ามีคนนับถือศาสนาเดียวกันหมดพวกเขาจะมีจารีตประเพณีเฉพาะศาสนานั้นๆ ที่อาจจะมีความแตกต่างไปจากชุมชนอื่น เพราะฉะนั้นเราจึงควรยอมรับในความแตกต่างนั้นด้วย

-----------------------------------------------------------------

หนังสือ " The Lover รักเป็นจะเห็นใจ "

พระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ

 

    

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.015364901224772 Mins