เบียดเบียน กล่าวหาว่าร้าย มีอบายเป็นที่ไป
....."ชนเหล่าใด เมื่อยังอยู่ในมนุษยโลก เป็นผู้มีกำลังวังชา มีกรรมอันเป็นบาป ย่อมเบียดเบียนด่าว่าผู้อื่นซึ่งหากำลังมิได้ ชนเหล่านั้นมีกรรมหยาบช้า กระทำบาปกรรม จึงตกลงสู่เวตรณีนรก"... เนมิราชชาดก
.....การที่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ต้องเวียนว่ายตายเกิดกันมา นับภพนับชาติไม่ถ้วนนี้ ล้วนเกิดจากกลไกของกิเลสกรรม และวิบากซึ่งเป็นผลที่สืบเนื่องมาจากอวิชชาที่บดบังธาตุธรรม เห็น จำ คิด รู้ ของมนุษย์ไว้ ทำให้ขึ้นสู่ฝั่งแห่งพระนิพพานไม่ได้ ผู้ที่สามารถแสดงเรื่องนี้ได้ดี มีเพียงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหันต์ และผู้มีรู้มีญาณเท่านั้น เพราะท่านเหล่านั้นระลึกชาติหนหลังได้ มีอนาคตังสญาณ รู้ได้กระทั่งอนาคตว่า กรรมที่เราประกอบเหตุไว้นี้ จะส่งผลอย่างไร
.....ผลของการกระทำที่แสดงออกทั้งทางกาย วาจา ใจนี้ ไม่อาจพิสูจน์ได้ง่ายๆ เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดซับซ้อน เป็นสิ่งที่พัวพันกันข้ามภพข้ามชาติ เมื่อกล่าวถึงกฎแห่งกรรมแล้ว ใครทำกรรมใดไว้ย่อมต้องได้รับผลแห่งกรรมนั้น ไม่มีผู้ใดหลบหนีผลแห่งบาปได้
-------------------------------------------------------
พุทธพจน์ สอนใจ
จากส่วนหนึ่ง ของ รายการธรรมะเพื่อประชาชน
โดย พระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธมฺมชโย)