เครือข่ายบ้านกัลยาณมิตร
สภาพสังคมไทยที่ตกต่ำย่ำแย่ถึงขั้นวิกฤตทุกด้านดังเช่นปัจจุบันนี้ คงจะทำให้ผู้มีปัญญาทั้งหลาย ได้เห็นชัดเจนแล้วว่า การรับคตินิยมจากต่างประเทศเข้ามานั้น จำเป็นต้องพิจารณาด้วยโยนิโสมนสิการ เลือกรับเฉพาะสิ่งที่จะเป็นคุณประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองเท่านั้น และสิ่งนั้นต้องไม่เกิดผลข้างเคียง ทำลายคตินิยม หรือวัฒนธรรมอันประเสริฐ ซึ่งแสดงถึงความเป็นชาติไทยที่มีอารยธรรมรุ่งเรืองมาเป็นเวลายาวนานอีกด้วย
บ้านกัลยาณมิตร จะเป็นโครงการสำคัญยิ่ง ในการปลูกฝังอบรมเยาวชนตลอดทั้งประชาชนในชาติ ให้เป็นคนดีที่โลกต้องการ เป็นกัลยาณมิตรมีความพร้อมในการพัฒนาบ้านเมือง เพื่อสันติสุขไม่เฉพาะของประเทศชาติเท่านั้น แต่ยังสามารถแผ่ขยายไปเป็นสันติสุขของชาวโลกอีกด้วย
เนื่องจากโครงการบ้านกัลยาณมิตร อาจต้องประสบกับปัญหาอุปสรรคมากมายดังกล่าวแล้ว จึงจำเป็นที่หลายฝ่ายในบ้านเมือง จะต้องร่วมมือร่วมใจกัน ให้ความช่วยเหลือ ส่งเสริมสนับสนุน ให้โครงการบ้านกัลยาณมิตรมีความเข้มแข็ง สามารถดำเนินกิจกรรมเป็นประจำ อย่างต่อเนื่องจนประสบความสำเร็จ
มีข้อสังเกตในที่นี้ว่า สถาบันที่ควรจะมีบทบาทสำคัญยิ่ง ในการร่วมมือส่งเสริมโครงการบ้านกัลยาณมิตรก็คือ โรงเรียน สถาบันการศึกษา และสถาบันสงฆ์ นั่นคือจะต้องส่งเสริมให้มีโรงเรียนกัลยาณมิตร และวัดกัลยาณมิตรขึ้นทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตามใคร่ขอให้บรรดาพ่อบ้านแม่บ้านผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวที่คิดว่าท่านต้องประกอบอาชีพ หรือมีหน้าที่ต้องทำมาหากินเป็นภาระหนักอยู่แล้ว จึงไม่ควรเปิดบ้านกัลยาณมิตรเป็นการเพิ่มภาระขึ้นอีก ความคิดเช่นนี้ถือว่าเป็นความคิดที่ผิดอย่างมหาศาล
หนังสือ DF 303 เครือข่ายองค์กรกัลยาณมิตร
กลุ่มวิชาการทำหน้าที่กัลยาณมิตร