แม่ครับ รักผมบ้างไหม
คุณแม่ของผมเป็นแม่บ้านที่ดีมาก ตั้งใจเลี้ยงดูลูก ๆ แต่ท่านไม่ค่อยชอบผม เพราะท่านโทษว่า ผมทำให้ท่านเกือบเอาชีวิตไม่รอด เนื่องจากผมตัวโตคลอดยากมาก
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนผมอายุ ๔ ขวบ เงินของคุณแม่หาย ๓ - ๔ บาท ท่านจับผมมาตี ๆ ๆ หาว่าผมขโมยเงินไปซื้อขนม ไม่ว่าผมจะอธิบายอย่างไรท่านก็ไม่เชื่อ ท่านหักนิ้วผมเอามือผมไปพาดไว้กับบันไดแล้วกดคอผมผมเจ็บจึงสู้ด้วยการปัดมือไปมา แต่ก็สู้แรงคุณแม่ไม่ไหว ท่านกดหน้าผมลงกับพื้น ผมเจ็บจนสุดจะทน บอกกับคุณแม่ว่า ผมทนไม่ไหวแล้วนะ ท่านก็ไม่ฟัง บังคับให้ผมยอมรับแต่ผมก็ไม่ยอมรับเพราะผมไม่ได้เอา ท่านจึงจับมือผมหักงอไปข้างหลังแล้วฟาดลงกับบันได ผมทั้งเจ็บทั้งเหนื่อยล้าทรมานที่สุดในชีวิต ผมหมดเรี่ยวแรงทรุดลงกับพื้น พอคุณแม่ปล่อยมือผมรู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ตกกลางคืนผมนอนเป็นไข้ เหตุการณ์ครั้งนี้ฝังใจผมมาตลอด ทำให้ผมไม่ค่อยรู้สึกผูกพันกับคุณแม่ แต่ก็ยังให้ความเคารพท่านครับ
เหตุใดคุณแม่จึงไม่ค่อยชอบผมและโทษผมว่า ทำให้ท่านเกือบเสียชีวิต กรรมใดทำให้ผมถูกคุณแม่ทำโทษอย่างโหดร้าย จนทำให้ผมลืมไม่ลงจนถึงปัจจุบันครับ
คุณครูไม่ใหญ่
คุณแม่ไม่ค่อยชอบตัวลูกและมักโทษว่าตัวลูกเกือบทำให้ท่านตาย เพราะในอดีตชาติชาติหนึ่ง คุณแม่เคยเป็นแม่ของทาสคนหนึ่งที่อยู่ในความดูแลของตัวลูกในชาตินั้น ลูกได้ใช้แรงงานทาสมากจนแม่ของทาสคนนั้นผูกโกรธ เมื่อมาเกิดเป็นแม่ลูกกันในชาตินี้ เวรที่ผูกกันมาจึงบันดาลให้เรื่องไม่เป็นเรื่องเกิดขึ้นกับตัวลูกดังกล่าว
ตัวลูกถูกคุณแม่ลงโทษอย่างหนักตอนอายุ ๔ ขวบ โดยหาว่าขโมยเงิน จนทำให้เกิดเหตุการณ์ลืมไม่ลงนั้น ก็เพราะเศษกรรมในชาติที่ได้ใช้แรงงานทาสมากเกินไปดังกล่าวได้เคยกล่าวโทษทาสคนนั้นว่า ขโมยของกินทั้ง ๆ ที่ทาสนั้นไม่ได้ขโมย และก็ได้ลงโทษทาสอย่างรุนแรง วิบากกรรมนั้นมาส่งผล
เพราะฉะนั้น จะกล่าวหาใครก็ต้องศึกษาให้ดี ถ้าหากว่า เราเข้าใจผิดก็ไปขอโทษแล้วก็คิดใหม่ พูดใหม่ ทำใหม่ดี ๆ
ที่นี่มีคำตอบ ฉบับมินิ เล่ม 4 รักนี้สีอะไร
โดย คุณครูไม่ใหญ่
๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๐