.....เสียงฝึกระเบียบแถวของนาย ทหารดังกึกก้องเป็นระยะ ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ณ กองพันทหารราบที่ ๓ กรมทหารราบที่ ๑๑ รักษาพระองค์ ค่ายเพชรบุรีราชสิรินธร ฟังแล้วให้รู้สึกถึงความคึกคัก เข้มแข็งและทรงพลังอำนาจ สมเป็นชายชาตินักรบ ซึ่งหากใครมีโอกาสเข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศ คงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกภาคภูมิใจในสถาบัน ทางทหารอันเกรียงไกร ที่อยู่คู่พระบารมีองค์พระมหากษัตริย์ไทยมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล
.....ค่ายเพชรบุรีราชสิรินธร แห่งนี้ แม้จะได้ชื่อว่าเป็นค่ายทหารที่มีพื้น ที่เล็กที่สุดในประเทศไทย คือ ๑๓๒ ไร่ ๑๙ ตารางวา เท่านั้น แต่ผลงานที่สร้างเกียรติประวัติอันดีงาม ไม่ได้เล็กตามพื้นที่ไปด้วยเลย กลับยิ่งใหญ่น่ายกย่องจนกลายเป็นความภาคภูมิใจของชาวเมืองเพชรบุรี เมื่อปรากฎเร็วๆ นี้ มีสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ทั้งสถานีวิทยุ-โทรทัศน์ ติดตามทำข่าวดีงามอยู่บ่อยครั้ง
…เนื่องด้วย ค่ายเพชรบุรีราชสิรินธร นับเป็นค่ายทหารตัวอย่างของการนำกิจกรรมส่งเสริมศีลธรรม มาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ…สร้างความสุขความเบิกบาน และความสมัครสมานสามัคคีให้กับครอบครัวนายทหารกว่าพันชีวิตรายรอบพื้นที่ ให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
.....เหตุใดค่ายแห่งนี้ จึงสามารถพลิกฟื้นวิถีชีวิตร่มเย็นในอดีตให้กลับคืนมาได้ เราคงต้องไปถามความตั้งใจของท่านผู้บังคับกองพัน พันโทกล้าณรงค์ ไพรีพ่ายฤทธิเดช
“…หน้าที่ในการดูแลนายทหารทั้งกองพัน เป็นหน้าที่ที่มีความสำคัญมาก ต้องใช้ความดูแลเอาใจใส่ ไม่ละเลยในเรื่องเล็กน้อย กระผมเป็นทหารแห่งกองทัพไทย และกองทัพธรรม มองเห็นความสงบสุขของคนในสังคมจะเกิดขึ้นได้ เมื่อทุกคนมีศีล ๕ ซึ่งเป็นความปกติของมนุษย์ แต่ปัจจุบันปัญหาของนายทหารส่วนใหญ่ยังดื่มสุรากันอยู่มาก คนเราลองไม่มีสติเสียแล้วสามารถทำความชั่วได้ทุกอย่าง คงจะเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “ เมียทหารนับขวด เมียตำรวจนับแบงค์ ” ซึ่งเป็นการพูดเปรียบเปรยกระทบกระเทียบ หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าการดื่มสุราเป็นการแสดงความเป็นลูกผู้ชาย แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ไม่ต้องดื่มสุราก็เป็นลูกผู้ชายได้ ผมจึงจัดกิจกรรมส่งเสริมศีลธรรมด้านต่างๆ ให้เกิดขึ้น และกิจกรรมอย่างแรก ต้องเริ่มแก้ไขปัญหาที่ สุรา ก่อน …”
.....สุภาษิตที่ว่า ตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน สะท้อนให้เห็นถึงการเป็นแบบอย่างที่ดีของท่านผู้บังคับการ ยังความเคารพเลื่อมใส และความนับถือเกรงใจให้กับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา ท่านเริ่มวางพื้นฐานความเข้าใจด้านศีลธรรมให้กับคนในชุมชน ด้วยการเปิดเสียงตามสายรายการธรรมะทุกเช้าเย็น เป็นการบรรยายธรรมของพระเดชพระคุณพระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทตฺตชีโว) เรื่อง มงคลชีวิต ๓๘ ประการ
.....ซึ่งวิธีการเทศน์สอนของพระคุณเจ้านั้นเข้าใจง่าย เข้ากับยุคสมัย มีความกระชับ ชัดเจน และให้ข้อคิดที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง แม้แต่วัยรุ่นจนถึงวัยผู้ใหญ่ ต่างชื่นชอบลีลาการเทศน์สอนของหลวงพ่อมาก หลายคนตื่นเช้าคอยฟังเทศน์ตั้งแต่ตี ๕ พร้อมนำกระดาษปากกามาจดเรื่องราวดีๆ นำไปใช้ กลายเป็นรายการฮอตฮิตประจำกองพันไปโดยปริยาย ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าที่นี่ รายการธรรมะฟังสนุกฟังดีกว่ารายการเพลงเสียอีก เมื่อเห็นว่าคนส่วนใหญ่เริ่มหันมาสนใจและมีเข้าใจที่ถูกต้องมากขึ้นแล้ว ท่านผู้พันจึงจัดให้มี พิธีปฏิญาณตนเลิกดื่มสุราขึ้น
.....เมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๔๖ เวลา ๐๘.๐๐ น. ปกติท่านเป็นคนไม่ดื่มสุราอยู่แล้ว และได้นำขวดสุราที่มีผู้นำมามอบให้เป็นของขวัญปีใหม่ จำนวน ๑๐๐ กว่าขวด นำมาเททิ้งหน้าบ้านเป็นตัวอย่าง เมื่อถึงเวลาประกอบพิธี นายทหารกว่า ๒๐ นาย ได้เทเหล้าทิ้งต่อหน้านายทหารทั้งกองพัน และปฏิญาณตนเลิกดื่มสุราตลอดชีวิต สร้างความประทับใจให้กับทุกคนที่มาร่วมงานเป็นอย่างยิ่ง
.....นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้มี การแข่งขันตอบปัญหาธรรมะทางก้าวหน้า ทั้งในระดับข้าราชการ นักเรียนนักศึกษา ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ดีทั้งภายในภายนอก หากใครได้ย่างกรายเข้าไปใน กองบังคับการช่วงเทศกาลสอบ จะได้ยินบทสนทนาที่หาฟังที่ไหนไม่ได้ง่ายๆ นายทหารต่างถามปัญหากันว่า รู้ไหมว่าสามีควรปฏิบัติต่อภรรยาอย่างไร บิดามารดาควรปฏิบัติต่อบุตรธิดาอย่างไร ฟังแล้วให้รู้สึกสุขใจอย่างบอกไม่ถูก
.....ภายในกองพันแห่งนี้ยังมีห้องปฏิบัติธรรมประจำวัน เปิดตั้งแต่เวลา ๑๙.๐๐ น.-๒๑.๐๐ น. และ กิจกรรมประจำเดือน ได้แก่ การปฏิบัติธรรมระยะสั้น ๗ วัน ซึ่งมีผู้สนใจเข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง
.....จากการส่งเสริมศีลธรรมเหล่านี้ ในระยะเริ่มต้น ๑ ปี ส่งผลให้ชุมชนมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเสียงทะเลาะวิวาทเริ่มจางหายไป …กลิ่นสุราเมรัยและควันบุหรี่เริ่มจางลง …ครอบครัวนายทหารมีความสุขมากขึ้น พลอยทำให้การปฏิบัติหน้าที่ดีงามสืบตามไปด้วย
.....ต่อมาวันเสาร์ที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๖ ค่ายเพชรบุรีราชสิรินธร ได้เป็นเจ้าภาพจัดพิธีบรรพชาอุปสมบทหมู่ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๗๖ พรรษา ณ วัดบันไดทอง อ.เมือง จ.เพชรบุรี ในงานนี้ ท่านแม่ทัพภาคที่ ๑ พลโทไพศาล กตัญญู ได้ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธี นับเป็นภาพประวัติศาสตร์ อันดีงามที่จัดให้มีพิธีบรรพชาอุปสมบทหมู่ขึ้นเป็นครั้งแรก
.....ภายหลังจากที่พระธรรมทายาทได้ลาสิกขา มีหลายท่านตั้งใจที่จะเลิกสุราบุหรี่ ตลอดจนอบายมุขต่างๆ ตลอดชีวิต ท่านผู้บังคับกองพันจึงจัดให้มีพิธีเทเหล้า-เผาบุหรี่ ขึ้นเป็นครั้งที่ ๒ ในวันที่ ๖ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๗ นับเป็นความภาคภูมิใจของหมู่คณะอีกครั้ง
…ถึงวันนี้ ทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้น พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าหากคนในสังคมตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรม ภาพการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ย่อมไม่ใช่จินตนาการแห่งความฝันอีกต่อไป
…ลูกหลานไทยปลอดภัยจากยาเสพติด อบายมุขต่างๆ เริ่มดับวงโคจร เมื่อเด็กวัยรุ่นไม่นิยมเที่ยวกลางคืน เพราะที่บ้านมีความรักความอบอุ่นเข้ามาแทนที่ ยินเพียงเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของคนในครอบครัว …
.....กองพันทหารราบที่ ๓ กรมทหารราบที่ ๑๑ รักษาพระองค์ ค่ายเพชรบุรีราชสิรินธร จึงนับเป็นแบบอย่างที่ดีของหน่วยราชการไทยหน่วยหนึ่ง ซึ่งให้ความสำคัญกับการส่งเสริมศีลธรรมที่นับวันจะจางหายไป
.....ตั้งแต่โบราณกาล ภารกิจของทหารหาญ คือตำนานอันทรงเกียรติ แม้ยามศึกต้องออกรบไม่ครั่นคร้าม เมื่อถึงยามบ้านเมืองสงบ ยังต้องคอยบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชนอยู่เสมอ สองมือที่ถืออาวุธ ใช่เพียงเพื่อทำลาย แต่เป็นไปเพื่อสร้างสรรค์สันติสุขอันดีงาม ตามหลังศีลธรรมที่คอยนำทาง ทำให้ประชาชนคนไทยรู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้ง กับคำขวัญที่ว่า.. “ สุขเถิดชาวประชา ทหารกล้าจะคุ้มภัย ” ..อย่างแท้จริง