กฎแห่งกรรม
๑๙. กฎแห่งกรรม
"มีบางคนสงสัยว่า เวลาทำดีแล้ว ทำไมความดีจึงยังไม่ส่งผล กฎแห่งกรรมจะถูกต้องจริงหรือ"
ถาม
เราทำดี แล้วจะได้ผลดีจริงหรือครับหลวงพ่อ
ตอบ
ของทุกอย่างมันต้องอาศัยเวลา จะยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ ถ้าเราไปเอาหน่อกล้วยมาปลูกวันนี้ ถามว่าเรา
จะได้กินกล้วยวันนี้ไหม ก็ตอบได้ว่ายังต้องรอไป โน่นเกือบปีแน่ะ แล้วนใระหว่างที่รอนั่้น ก็ยังต้อง ขยันหมั่นรดน้ำพรวนดิน ดูแลป้องกันโรค ป้องกันแมลงไม่ให้มารบกวน
แล้วถ้าจะถามว่าในระหว่างนั้นไม่ได้ผลอะไรเลยหรือก็ตอบว่าได้ ได้ตั้งแต่วันปลูกนั่นแหละ คือ พอปลูกเสร็จก็ได้รับผลดีระดับต้น คือได้ความสบายใจว่า เราได้ทำงานแล้ว ถูกต้องตามฤดูกาลแล้ว และในระหว่างนั้น ก็ยังได้ผลตามมาอีกตั้งแต่ได้ใบตองมาห่อขนม ได้หัวปลีไปจิ้มน้ำพริกกกิน แต่มันก็ยังได้ ไม่ค่อยเต็มที่ ต้องรอเอาปลายปี
เช่นกันเวลาทำดีลงไปแล้ว ไม่ว่าจะมีใครเห็นหรือไม่เห็นก็ตาม เราก็ได้รับผลดีขั้นต้นทันทีเหมือนกัน คือ ได้รับความสุขกาย สบายใจ
และเมื่อเราทำความดีซ้ำแล้วซ้ำอีกติดต่อกัน ผลแห่งความดีในระดับที่สองก็ตามมา คือ บุคลิกจะดีขึ้น
อุปมาเหมือนกับได้ใบตองมาห่อของ
ครั้นทำซ้ำแล้วซ้ำอีกต่อไปเป็นแรมเดือนแรมปี ผลแห่งความดี ในระดับที่สาม จึงจะออกคือ ไม่ว่าจะ
หยิบจะทำอะไรก็รู็สึกว่าจะมีโชค มีลาภ หรือคล่องตัวขึ้น อุปนิสัยใจคอก็ดีขึ้นจนผิดสังเกต อุปมาเหมือนได้หัวปลีมากินอย่างนั้นแหละ
ถ้าทำซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่ยอมหยุดยั้ง ผลแห่งความดีที่ตามมาเป็น ระดับที่สี่คือ เป็นที่ยอมรับของคนในสังคมทั่วไป
เราปลูกกล้วย กว่าจะได้กินผลของมัน ยังต้องรอเป็นปี การทำความดีจะเห็นผลจนสังคมยอมรับ ก็ต้อง
อาศัยเวลาเหมือนกัน ฉะนั้นอย่าใจร้อน ให้คิดอย่างนี้ถ้าสมมุติว่า ให้ทานปุ๊บ ก็รวยปั๊บทันทีคงถูกใจตรงข้าม
ถ้าโกหกปุ๊บ ฟันหักหมดปากปั๊บเขากลับนึกว่าไม่ยุติธรรม คนเรามักเป็นเสียอย่างนี้ คือ ชอบเข้าข้างตัวเอง
เพราะใจร้อนจึงได้เกิดสงสัยกฎแห่งกรรมอยู่ร่ำไป
นับแต่วันนี้ไป เลิกใจร้อน อย่าเข้าข้างตัวเอง รูำจักทำใจให้เป็นกลางๆ ให้ความยุติธรรมแก่สิ่งต่างๆ
รอบๆตัว แต่การกระทำอย่างนี้ได้ต้องอาศัยการนั่งสมาธิมากๆ เท่านั้น
จากหนังสือ ไขข้อข้องใจ