เห็นตรงเห็นธรรม
การเห็นดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ ก็มาจากบริสุทธิ์ ด้วยกาย วาจาใจ บริสุทธิ์ด้วยกาย วาจา ใจ นั่นแหละ เห็นถูกอันนั้น จนกระทั่งเข้าถึงดวงธรรม กายมนุษย์ละเอียดล่ะ ก็มาจากบริสุทธิ์ด้วยกาย วาจา ใจที่ละเอียดลงไป นั่นแหละเข้ามาเป็นดวงธรรมนั้น
กายทิพย์ล่ะ ดวงธรรมอันนี้ก็มาจากทาง ศีลสัจจะ จาคะสัญญา เติมความบริสุทธิ์ลงไปอีก
ก็ดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายรูปพรหมล่ะ นี้ก็เติมปฐมฌานทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌานลงไปให้บริสุทธิ์กาย วาจา ใจ อีกสูงขึ้นไป
ดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายอรูปพรหมล่ะทั้งหยาบทั้งละเอียด ก็เติมอรูปฌาน ๔ เข้าได้แก่ อากาสานัญจา วิญญาณัญจา อากิญจัญญา เนวสัญญานาสัญญา นั่นเห็นถูกทั้งนั้น เห็นตรงอย่างนี้จึงได้ชื่อว่า เห็นถูกละดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายธรรมล่ะ ก็ต้องเดิน ศีลสมาธิปัญญา วิมุตติวิมุตติญาณทัสสนะ เข้ามาต่อจากธรรมที่ทำให้เป็นกายละเอียด ก็ถึงดวงธรรม ที่ทำให้เป็นกายโสดา สกิทาคา อนาคา ก็เดินศีลสมาธิปัญญา วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะ เข้ามาตามลำดับขึ้นไป จนกระทั่งถึงพระอรหัต
นั่นแน่ๆ ธมฺมทสฺสนํ เห็นอย่างนี้ ลึกซึ้งขนาดนี้นะ ความเห็นเรียกว่าเห็นตรง เห็นธรรมนั่นเอง ถ้าเห็นอย่างนี้น่ะ ใครเห็นเข้าก็ภูมิใจดีอกดีใจ
จากพระธรรมเทศนาเรื่อง "อริยธนคาถา"
๑๙ มีนาคม ๒๔๙๗