สรุปโอวาทการปฏิบัติธรรมที่ ๘
ตรึกสบายๆ : ถ้าตรึกธรรมะได้ตลอดเวลา รวมทั้งทำงานด้วยจะดีมาก เราก็ตรึกไปเรื่อย ๆ ตรึกได้มั่ง หลุดมั่ง ได้มั่ง หลุดมั่ง ก็ไม่เป็นไรนะ ธรรมดาอย่างนี้ จะได้ไม่เครียด แม้จะได้มั่ง ไม่ได้มั่ง ได้มั่ง ไม่ได้มั่ง พอตึง ๆ ก็เอาใหม่ จนได้มากขึ้นไปเอง
ทำเฉยเมย : อย่าไปเสียดายมัน เวลาแสงสว่างเกิดขึ้น พยายามจะรักษาเอาไว้ วิธีรักษาที่ดีที่สุด คือ หยุดนิ่ง ทำเฉยเมย เฉย ๆ ถ้าตื่นเต้นไม่เป็นไร เราต้องยอมให้มันตื่นเต้นไปก่อน ต้องยอมให้ก่อน เพราะมันก็น่าตื่นเต้น หรือบางทีแสงสว่างวูบขึ้นมาก็อย่าไปเสียดาย ให้ทำนิ่ง ๆ ไว้ จะยาวขึ้น ๆ เดี๋ยวก็ได้ตลอด
นึกให้เป็นประดุจยาน : เราจะนึกดวงแก้ว จะนึกพระเดชพระคุณหลวงปู่ หรือจะนึกอะไรก็ตาม ให้เอาอย่างเดียว อะไรก็ได้นะ นึกให้เป็นประดุจยานพาหนะเชื่อมใจเราให้ไปติดตรงกลางแค่นั้นเอง อะไรก็ได้ ไม่ต้องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เอาที่คุ้น ที่เรารู้สึกว่าจะอยู่กับเรานาน ๆ ไม่สับสน สมมติดวงอยู่กับเรานาน นึกดวงหายไป อย่าไปเสียดายมัน เรามีเป็นล้าน ๆ เราเป็นคลังแห่งดวงแก้ว นึกใหม่ได้
ทำความรู้จักตัวเอง : เราเรียนธรรมะเพื่อตัวเรา ไม่ใช่เพื่อใครเพื่อความบริสุทธิ์บริบูรณ์แห่งการประพฤติพรหมจรรย์
รักแท้ : ถ้าเรารักวิชชาธรรมกายมากกว่าสิ่งอื่น จะทิ้งสิ่งอื่นได้ จะทิ้งได้หมด เหมือนพระพุทธเจ้าที่ท่านรักพระโพธิญาณมากกว่าสิ่งอื่น
ความสุขเพิ่มขึ้น : ถ้านิ่งแน่นได้ก็จะสว่าง เราก็จะได้เห็นของจริง เพราะของจริงมีอยู่จริง ถ้าเราทำจริง หยุดนิ่งได้จริง จะเห็นแจ้งจริง นิ่งก็มาจากการปล่อยวางทั้งหมดในโลก ทั้งคน สัตว์ สิ่งของ แล้วมันจะนิ่งแน่นเพิ่มขึ้น กระทั่งความคิดอื่นเข้ามาไม่ได้ แทรกไม่ได้ ความสุขก็จะเกิดขึ้น และจะเป็นเครื่องยืนยันว่า เราทำถูกต้อง ความสุขเพิ่มขึ้น ๆ แม้ความรู้สึกเฉย ๆ ก็ไม่ใช่ วันนี้สุข ๑๐% พรุ่งนี้สุข ๒๐% วันต่อไป ๓๐-๔๐-๕๐% ๑๐๐-๒๐๐-๓๐๐% ไปเรื่อยๆ มีความสุขเพิ่มขึ้นตลอดเส้นทาง
คุณครูไม่ใหญ่
จากหนังสือ ง่ายที่สุดคือหยุดได้ เล่ม ๑