ความทุกข์ของหญิงผู้ขี้เหร่
กาลครั้งหนึ่งไม่นานนัก มีหญิงสาวคนหนึ่ง เธอมีความทุกข์ใจอย่างมาก เนื่องด้วยเธอมักคิดอยู่เสมอว่า เธอมีหน้าตาที่ไม่สวยเเละขี้ริ้ว ขี้เหร่ เธอคิดอยู่เสมอว่า หากเธอมีหน้าตาที่สะสวยกว่านี้ คงจะมีความสุขมาก
"อันว่าทุกข์ที่สุดของผู้หญิง คงจะมิใช่เรื่องอื่นใด นอกจากการที่เกิดมาไม่สวย เกิดมาขี้เหร่ ทำอย่างไรหนอ เราจึงจะสวยขึ้นกว่านี้ได้ " หญิงสาวรำพึงกับตัวเอง "ได้ยินมาว่า บนเขาปัญญายุทธ มีนักพรตปริศนาผู้หนึ่ง นามว่า เฉินกุ้ยเซียน สามารถช่วยเหลือ ผู้ตกทุกข์ได้ยาก ได้ทุกเรื่อง บางทีอาจจะพอรู้ว่า ทำอย่างไรจะทำให้เราสะสวยขึ้นได้ เห็นทีเราต้องไปลองขอให้ท่านนักพรต ช่วยชี้เเนะ ดูเสียเเล้ว " เธอจึงตัดสินใจเดินทางไปยังเขาปัญญายุทธ
ซึ่งการเดินทางไปเขาปัญญายุทธนั้น เธอต้องเดินทางด้วยเรือ บังเอิญเหลือเกินว่า เรือที่เธอกำลังจะขึ้นไปนั้น มีนักพรตผู้หนึ่ง นั่งอยู่บนเรืออยู่ก่อนเเล้ว นักพรตผู้นั้นคือ เฉินกุ้ยเซียน นั่นเอง ขณะที่เรือกำลังเเล่นไป หญิงสาวเมื่อเห็นมีนักพรตนั่งอยู่บนเรือก็เกิดสงสัย จึงเอ่ยถามว่า
"ขออภัยท่านนักพรต ท่านใช่นักพรต เฉินกุ้ยเซียน ผู้เลื่องชื่อหรือไม่ "
เฉินกุ้ยเซียน เอ่ยตอบว่า " เเม่นางเข้าใจถูกต้องเเล้ว"
" คารวะท่านนักพรต ข้าดีใจเหลือเกินที่พบท่านอยู่ที่นี่ เพราะข้ากำลังจะเดินทางไปยังเขาปัญญายุทธเพื่อพบท่านอยู่พอดี "
" ท่านจะไปพบข้ามีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจอันใด อย่างนั้นรึ "
" ข้ามีเรื่องทุกข์ใจเป็นอันมากที่ข้าเกิดมาหน้าตาไม่สวยเหมือนคนอื่นเขา มีวิธีการใดที่จะช่วยให้ข้าสวยขึ้นได้หรือไม่ "
เฉินกุ้ยเซียน จึงถามต่อไปว่า " ท่านจะต้องการหน้าตาที่สะสวยไปทำไมรึ "
" การที่ข้ามีหน้าตาไม่สวย มันทำให้ข้าเกิดความทุกข์ เนื่องจากเวลาไปไหนมาไหน ก็จะทำให้ไม่มั่นใจ เเละรู้สึกน้อยหน้าคนอื่น " หญิงสาวให้เหตุผล
" ใบหน้าของเเม่นาง มิได้ทำให้เเม่นางเกิดความทุกข์ได้หรอก " เฉินกุ้ยเซียนกล่าว
" ท่านนักพรต เหตุใด ท่านจึงกล่าวเช่นนั้น ในเมื่อที่ข้าทุกข์ใจอยู่นี่ก็เพราะเรื่องใบหน้าของข้าไม่สวยนี่เเหละ ถ้าไม่ใช่เพราะใบหน้าเเล้วจะเป็นเพราะอะไรเล่า "
" นั่นเป็นเพราะใจของเเม่นางเองต่างหาก ที่ทำให้เกิดทุกข์ " เฉินกุ้ยเซียน เอ่ยตอบด้วยความใจเย็น
หญิงสาวเมื่อได้ฟัง เฉินกุ้ยเซียน พูดอย่างนั้นก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงเอ่ยออกมาด้วยความโมโหว่า
" ท่านนักพรตหากท่านไม่ช่วยเหลือ ท่านก็ไม่ต้อง พูดเฉไฉ ไปเรื่องอื่นเช่นนี้หรอก ดีที่ข้าพบท่านที่นี่เสียได้ จะได้ไม่ต้องถ่อไปไกลถึงเขาปัญญายุทธ " หญิงสาวนั่งลง เเละหันหน้าหนี ด้วยความบึ้งตึง
ในขณะนั้นได้มีกระรอกน้อยตัวหนึ่ง ว่ายน้ำผ่านมา เเล้วกระโดดขึ้นบนเรือ กระรอกน้อยได้วิ่งผ่านคนเเจวเรือ เเละผ่านเฉินกุ้ยเซียน เเต่ไม่มีใครว่าอะไร เพราะต่างก็รู้ว่า กระรอกนั้นเป็นสัตว์ที่ไม่มีพิษมีภัยอะไร
เเต่เมื่อกระรอกน้อยได้วิ่งผ่านไปยังหญิงสาว .. หญิงสาวก็ตกใจเเละตีโพยตีพายทันที ..
" ว้าย! กระรอก ข้าเกลียดกระรอก เอามันออกไป ให้พ้นข้าที "
ด้วยความที่ไม่ระวังตัว หญิงสาวจึงพลัดตกลงจากเรือ
เมื่อคนเเจวเรือ เเละเฉินกุ้ยเซียน เห็นดังนั้น ก็ได้รีบพากันช่วยเหลือหญิงสาวขึ้นมา อย่างทันท่วงที
เมื่อหญิงสาวได้ขึ้นมาบนเรือได้เเล้ว ก็ได้กล่าวว่า " เจ้ากระรอกนี่ เป็นเหตุให้ข้าต้องตกน้ำ เหตุใดพวกท่านที่เห็นมันก่อน จึงไม่จับมัน หรือไล่มันลงน้ำไปเสียเเต่ทีเเรก "
เฉินกุ้ยเซียน จึงเอ่ยตอบว่า " เเท้จริงเเล้ว กระรอกน้อยก็มิได้เป็นเหตุ ให้เเม่นางตกน้ำได้หรอก "
" จะไม่ใช่ เพราะกระรอกไปได้อย่างไร ก็เห็นๆอยู่ว่า ข้าต้องตกเรือ ก็เพราะเจ้ากระรอกนั่นเเหละ "
" หากกระรอกน้อยเป็นเหตุให้คนตกน้ำได้ ทั้งข้าเเละคนเเจวเรือ ก็ต้องตกน้ำด้วยกันทั้งหมด เช่นกัน "
" ถ้าอย่างนั้นอะไรล่ะ ที่ทำให้ข้าต้องตกน้ำ " หญิงสาวถามด้วยความสงสัย
" จิตใจที่รังเกียจกระรอกของเเม่นางนั่นเอง ที่ทำให้เเม่นางตกน้ำ " เฉินกุ้ยเซียนเอ่ยตอบด้วยความใจเย็น
...ดุจดั่งสายลมเเห่งปัญญา ได้พัดผ่านเข้ามา ...
เมื่อได้ฟังคำชี้เเนะจากเฉินกุ้ยเซียน ...หญิงสาวก็เข้าใจทุกอย่างได้ทันที นางถึงกับคุกเข่าลง เเละเอ่ยว่า
" ข้าน้อยเข้าใจอย่างถ่องเเท้เเล้ว ทั้งเรื่องที่ข้าต้องตกน้ำ เเละเรื่องที่ข้าต้องทุกข์ใจเพราะหน้าตาไม่สะสวยนั้น เเท้จริงเเล้วเกิดขึ้นมาจากจิตใจของตัวข้า ที่รังเกียจสิ่งนั้นเอง หากจิตใจของข้าปราศจากความรังเกียจเเล้ว สิ่งนั้นก็ไม่ได้ทำให้ข้าทุกข์ใจใดๆได้เลย บัดนี้ข้าไม่มีความทุกข์ใจว่าตัวข้าขี้เหร่หรือไม่สวยอีกต่อไปเเล้ว ปัญญายุทธของท่านนักพรตสูงส่ง สมคำร่ำลือ โปรดรับการคารวะจากข้าน้อยด้วยเถิด "
ข้อคิดจากเรื่องนี้
ความทุกข์ในโลกเรานั้น หลายอย่างไม่ได้เกิดจากสิ่งภายนอก เเต่เกิดขึ้นจากภายในจิตใจของเราเอง จิตใจที่รังเกียจ จิตใจที่ไม่ยอมรับ จิตใจที่มีอคติสร้างความทุกข์ ให้ได้มากกว่า ที่สิ่งภายนอกนั้นสร้างให้กับเราเสียอีก ดังนั้นเเทนที่จะปรุงเเต่งจิตใจไปในทิศทางที่ทิ่มเเทง ทำร้ายตัวเอง การเปลี่ยนจิตให้เป็นกลาง เห็นเป็นเรื่องธรรมดา เห็นว่าเป็นเช่นนั้นเอง ย่อมเป็นวิธีการที่ช่วยดับทุกข์ได้อย่างเเท้จริง
ที่มา shorturl.at/bnwL9