แนวทางการฝึกสัจจะต่อความดี ด้วยการควบคุมโรค ๖ ประจำกาย และการรักษาสิ่งแวดล้อม ๕ โดยมีพ่อแม่เป็นกัลยาณมิตร

วันที่ 11 พค. พ.ศ.2564

แนวทางการฝึกสัจจะต่อความดี ด้วยการควบคุมโรค ๖ ประจำกาย และการรักษาสิ่งแวดล้อม ๕ โดยมีพ่อแม่เป็นกัลยาณมิตร

 

640511_b.jpg

 

              ทุกคนมีโรค ๖ ประจำกาย คือ หนาว-ร้อน หิว-กระหาย ปวด อุจจาระ-ปัสสาวะ รบกวนกายตลอดเวลา ทั้งที่เดิมทีทุกคนมีใจ ใสสว่างอยู่กลางกาย แต่ถูกโรค ๓ คือ โลภะ โทสะ และโมหะ บีบคั้น ทุกวินาที ใจจึงเตลิดหนีออกนอกกาย ความสว่างของใจจึงลดลง การเห็นความจริงในสิ่งต่าง ๆ จึงไม่ถูกต้อง การปฏิบัติต่อตนเองและ สิ่งแวดล้อม จึงไม่ถูกต้องตรงตามความจริงไปด้วย พ่อแม่จึงต้องเป็น กัลยาณมิตรรีบปลูกฝัง รีบฝึกฝนบุตรตั้งแต่เยาว์วัย ให้มีนิสัยรัก การทำความสะอาด จัดระเบียบตนเองและสิ่งแวดล้อม ๕ ดังแนวทาง การควบคุมโรคหนาว-ร้อน โรคหิว-กระหาย และโรคปวดอุจจาระ-ปัสสาวะ โดยมีพ่อแม่เป็นกัลยาณมิตร ดังต่อไปนี้

 

การควบคุมโรคหนาว-ร้อน โดยมีพ่อแม่เป็นกัลยาณมิตร

 

๑. สิ่งแวดล้อม ๕ ที่เป็นธรรมชาติ

             • อากาศ • ลม • ฝน • แดด • ลักษณะพื้นที่ • ดิน • ภูเขา • ต้นไม้ • ลำธาร ฯลฯ


   ความจริงที่ต้องรีบรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ เพื่อควบคุมโรคหนาว-ร้อน


              ทุกคนมีโรคหนาวร้อนประจำตน จึงต่างต้องควบคุมโรค ทั้งสองนี้ ด้วยการปรับปรุงที่อยู่หรือเลือกอยู่ในสถานที่ ๑) อากาศ บริสุทธิ์ ๒) อากาศถ่ายเทดี ๓) อุณหภูมิอากาศภายนอกกับภายใน กายไม่เปลี่ยนแปลงขึ้นลงมาก ๔) รักษาสถานที่อยู่ของตนให้สะอาด ร่มรื่น จัดวัตถุสิ่งของให้เป็นระเบียบอยู่เป็นนิจ


 ความจริงที่ต้องรีบปฏิบัติเพื่อควบคุมโรคหนาว-ร้อน จากการรู้จริงเรื่องธรรมชาติ


               พ่อแม่ต้องรีบสอนความจริงที่ต้องรีบรู้และพาลูกปฏิบัติ ตามความจริงนั้นอย่างเหมาะสม จนลูกเป็นผู้มีสัจจะต่อความดี คือ มีนิสัยรักการทำความสะอาด รักการจัดระเบียบ โดยทำ อย่างอารมณ์ดี ทำถูกวิธี ทำทันที และทำสม่ำเสมอ โดยพ่อแม่ พาลูกปฏิบัติต่อความจริงนั้น ๆ ดังนี้

                ๑. พาลูกดูสังเกตทิศทางลมฝนแดดว่า แต่ละวัน แต่ละฤดูกาล มีลมพัด ฝนสาด แดดส่องแสงมาทิศทางใด แล้วมีผลดีหรือเสียหาย ต่อที่อยู่อาศัยของตนอย่างไรบ้าง


                 ๒. พาลูกจัดระเบียบสิ่งของเครื่องใช้ภายใน ภายนอกบ้าน ไม่ให้บังทิศทางลม ไม่ให้โดนฝนสาด ไม่ถูกแดดส่องเสียหาย โดย วางถูกที่ ถูกทาง ถูกทิศ ไม่เกะกะ ไม่รกรุงรัง


                  ๓. หากบ้านมีบริเวณ พาลูกช่วยกันปลูก ตัดแต่งต้นไม้ รดน้ำ ดายหญ้า เพื่อป้องกันลม พายุ ฝนฟ้าคะนอง แดดจ้า ช่วยกัน ปรับพื้นที่ไม่ให้เป็นหลุมบ่อเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ไม่เป็นแหล่งเพาะ สัตว์เล็กแมลงน้อยและเชื้อโรค


                   ๔. ช่วยกันทำความสะอาดสิ่งของ เครื่องใช้ และบริเวณพื้นที่ เป็นประจำ


                   ๕. ชี้ชวนลูกสังเกตระวังอันตราย ที่อาจเกิดจากธรรมชาติ แต่ละชนิด แต่ละฤดูกาล


                   ๖. ขณะพาลูกทำความสะอาด จัดระเบียบ พ่อแม่ต้องชี้ชวน พูดคุยอย่างอารมณ์ดี เมื่อลูกได้สังเกต ได้ลองทำด้วยตนเอง ทั้งที่ถูก ที่ผิด ภายใต้คำแนะนำของพ่อแม่เป็นนิจ ทำให้ที่อยู่อาศัยสามารถ ป้องกันความหนาวร้อนจากอากาศภายนอกได้ดี และน่าอยู่ น่าดู ช่วยให้ลูกรักบ้าน อยู่บ้านอย่างมีความสุข ส่งผลให้ลูกควบคุม ความหนาวร้อนใจได้ดี เพราะมีแต่อุ่นไอรักจากพ่อแม่

 

๒. สิ่งแวดล้อม ๕ ที่เป็นสิ่งมีชีวิต

 

               • สัตว์เลี้ยง • สัตว์ทั่วไป • สัตว์มีพิษ • สัตว์ร้าย • สัตว์พาหะโรค • เชื้อโรคต่าง ๆ

 

ความจริงที่ต้องรีบรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต เพื่อควบคุมโรคหนาว-ร้อน

 

               คนและสัตว์ทุกประเภทต่างเป็นโรคหนาว-ร้อน ซึ่งมีผลกระทบ ถึงตายได้ทุกเมื่อจึงต่างต้องการที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับตน เพื่อ ช่วยให้ไฟธาตุในกายสามารถย่อยอาหารได้ ให้ความอบอุ่นร่างกาย พอเพียง แต่ต้องระวังไม่ให้สัตว์เหล่านั้นกิน นอน หรืออยู่ปะปน ใกล้ชิดกับคนเกินไป อันจะเป็นเหตุให้เกิดการเบียดเบียน ทร้าย รังแก และฆ่ากันได้

 

ความจริงที่ต้องรีบปฏิบัติเพื่อควบคุมโรคหนาว-ร้อน จากการรู้จริงเรื่องสิ่งมีชีวิต

 

                 พ่อแม่ต้องรีบสอนความจริงที่ต้องรีบรู้ และพาลูกปฏิบัติ ตามความจริงนั้นอย่างเหมาะสม จนลูกเป็นผู้มีสัจจะต่อความดี คือ มีนิสัยรักการทความสะอาด รักการจัดระเบียบ โดยทอย่าง อารมณ์ดี ทถูกวิธี ททันที และทสม่เสมอ โดยพ่อแม่พาลูก ปฏิบัติตามความจริง ดังนี้

                 ๑. พ่อแม่พูดคุยอย่างอารมณ์ดี ชี้ชวนลูกสังเกตสิ่งมีชีวิต ที่อยู่ใกล้หรือไกลตัวว่ามีอะไรบ้าง เป็นสัตว์ชื่ออะไร มีรูปร่างลักษณะ อย่างไร เป็นประเภทใด มีธรรมชาติความเป็นอยู่อย่างไร มีพิษ มีคุณ มีประโยชน์ มีโทษ และทอันตรายแก่เราได้หรือไม่ได้อย่างไร ให้ลูกพูดแสดงความคิดเห็นเต็มที่ จนลูกรู้และเข้าใจถูกต้องตาม ธรรมชาติความจริงของสัตว์เหล่านั้น

 

                      ๒. พ่อแม่พาลูกเดินชม รวจ สังเกตบริเวณภายในภายนอก บ้านว่า ตรงไหนเป็นช่องทาง หรือเป็นเส้นทางที่สัตว์เหล่านั้นสามารถ เข้ามาอยู่อาศัย ตรงไหนอาจเป็นรังที่อยู่อาศัยถาวรของสัตว์ได้ ช่วยกันหาวิธีป้องกันการรบกวน แล้วดเนินการทันที

 

                      ๓. พ่อแม่แนะน สอนให้เหตุผลแก่ลูก ไม่ให้นสัตว์มากิน นอน และอยู่ร่วม เพราะเป็นทางมาของเชื้อโรค เช่น ปัสสาวะ อุจจาระ น้ลาย หรือขนของสัตว์ ของอันตรายต่าง และการเบียดเบียนกัน ซึ่งเป็นที่มาของกรรมชั่ว และการผิดศีล

 

                       ๔. พ่อแม่พาลูกจัดระเบียบสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัว ให้มี ในสิ่งที่ใช่ ที่ชอบ และที่ใช้ตามความจเป็นเท่านั้น จัดวางถูกที่ ไม่เกะกะ ไม่รกรุงรัง ไม่ให้เป็นที่อยู่ของสัตว์ และสละของส่วนเกิน . พ่อแม่พาลูกทความสะอาดทุกซอกมุมในบ้านเป็นนิจ โดยทอย่างสนุกสนาน ให้ลูกได้ลองผิด ลองถูก และทด้วยตัวเอง โดยมีพ่อแม่ให้กลังใจ ให้คแนะน และแลกเปลี่ยนเหตุผล

 

๓. สิ่งแวดล้อม ที่เป็นบุคคลแวดล้อม

 

                         ตนเองสมาชิกครอบครัวเพื่อนบ้านแขกของสมาชิก ครอบครัว ฯลฯ

 

ความจริงที่ต้องรีบรู้เกี่ยวกับบุคคลแวดล้อม เพื่อควบคุมโรคหนาวร้อน

 

                        การควบคุมโรคหนาวร้อนได้ถูกต้อง เป็นต้องเรียนรู้และ แลกเปลี่ยนจากบุคคลแวดล้อมที่เป็นกัลยาณมิตร เพื่อให้ได้ แบบแผนการปฏิบัติไว้เป็นแบบอย่าง ให้ตนเองประพฤติปฏิบัติดูแล ความหนาว-ร้อนในกายตนได้ถูกต้อง โดยตนเองจะต้องเป็นผู้มี สัจจะและความเคารพปฏิสันถารต้อนรับเป็นอย่างยิ่ง

 

ความจริงที่ต้องรีบปฏิบัติเพื่อควบคุมโรคหนาว–ร้อน จากการรู้จริงเรื่องบุคคลแวดล้อม

 

                    ๑.พ่อแม่ต้องรีบสอนความจริงที่ต้องรีบรู้ และพาลูกปฏิบัติ ตามความจริงนั้น จนลูกเป็นผู้มีนิสัยรักการทความสะอาด รักการจัดระเบียบ โดยทอย่างอารมณ์ดี ถูกวิธี ทันที และ สม่เสมอ โดยพ่อแม่พาลูกปฏิบัติตามความจริง ดังนี้เรื่องนั้น ที่ลูกท

 

                  . พ่อแม่ฝึกลูกให้กิน นอน ตื่น และขับถ่ายถูกเวลา ตรงเวลา เพื่อฝึกการตัดสินได้ ตัดใจเป็น และทแต่สิ่งถูกต้อง ตรงต่อความจริง

 

                  . พ่อแม่ฝึกการต้อนรับปฏิสันถาร การเคารพให้ เกียรติบุคคล อย่างถูกต้องและเหมาะสมแก่ลูก โดยพ่อแม่ให้ลูกทความสะอาด จัดระเบียบห้องรับแขก จัดเตรียมวัตถุสิ่งของที่ใช้ต้อนรับ เช่น พัดลม ผ้าเย็น น้ร้อน ถ้วย จาน ช้อน ชาม ที่นั่ง ฯลฯ อย่างเหมาะสม ต่อแขกที่มา

 

                  . จัดระเบียบกิริยาท่าทาง พูดที่ใช้ต้อนรับเชื้อเชิญ ให้ถูกต้องตามเวลา ตามสถานการณ์ เช่น พระ ครู เพื่อนบ้าน ญาติ แขกมาเยี่ยม ฯลฯ ด้วยตัวของลูกเอง โดยมีพ่อแม่กกับให้กลังใจ

 

                  . พ่อแม่พาลูกแต่งกายสะอาด สุภาพ เรียบร้อย ตามวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม

 

๔. สิ่งแวดล้อม ที่เป็นทรัพยากรใช้สอย

 

                   • เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มสิ่งของเครื่องใช้ที่เกี่ยวข้อง

 

ความจริงที่ต้องรีบรู้เกี่ยวกับทรัพยากรใช้สอย เพื่อควบคุมโรคหนาวร้อน

 

                    เสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่ม ใช้เพื่อ ) ป้องกันโรคความหนาว-ร้อน ) ปกปิดอวัยวะกันอาย และ ) ป้องกันอันตรายจากสัตว์ต่าง เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มจึงต้องสะอาด จัดระเบียบอยู่เป็นนิจ ทั้งใน การหา การใช้ และเก็บรักษา ไม่หลงตามแฟชั่น แต่เรียบร้อยตามวัย ตามฤดูกาล และตามวัฒนธรรม แม้สิ่งของเครื่องใช้ที่เกี่ยวข้อง กับการให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ก็ต้องทความสะอาดและจัดระเบียบ เช่นกัน

 

ความจริงที่ต้องรีบปฏิบัติเพื่อควบคุมโรคหนาว–ร้อน จากการรู้จริงเรื่องทรัพยากรใช้สอย

 

                 พ่อแม่ต้องรีบสอนความจริงที่ต้องรีบรู้ และพาลูกปฏิบัติ ตามความจริงนั้น จนลูกเป็นผู้มีนิสัยรักการทความสะอาด รักการจัดระเบียบ โดยทอย่างอารมณ์ดี ถูกวิธี ทันที และ สม่เสมอ โดยพ่อแม่พาลูกปฏิบัติตามความจริง ดังนี้

 

                 . พ่อแม่จัดหาเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ของเล่น และของใช้ ที่เหมาะแก่วัย แก่ฤดูกาลให้ลูก โดยให้ทีละชิ้น แล้วฝึกลูกให้ดู มือหยิบจับ สัมผัสแตะต้อง จมูกดมกลิ่น เพื่อสังเกตความนุ่ม หยาบ กระด้าง ลักษณะต่าง ให้ลูกบอก พูดอธิบาย จ้จี้จ้ไช ซักถาม ให้เข้าใจเหตุผล ที่มาที่ไปของสิ่งเหล่านี้ เพื่อฝึกคิดสืบสาวเหตุผล และสร้างความแข็งแรงของประสาทสัมผัสทั้ง ลูกก็จะเลือกของได้ ใช้ของเป็น และเก็บของได้ถูกต้องตั้งแต่เล็ก

 

                  . พาลูกคัดแยกเสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่มว่า ชิ้นใดจเป็น ชิ้นใด ส่วนเกิน โดยให้เหตุผลและหลักเกณฑ์ แล้วฝึกปฏิบัติจนลูกเข้าใจ หลักความจริงการคัดแยก

 

                  . พาลูกทความสะอาดจัดระเบียบตู้เสื้อผ้า ห้องแต่งตัว เครื่องนอน ห้องนอน ตู้ โต๊ะ เก้าอี้ เตียง ของเล่นให้อยู่ถูกที่ ถูกทิศ ไม่ถูกลม ฝน และแดด ให้ของเสียหาย

 

                 . พาลูกจัดเก็บสิ่งของเครื่องใช้ อุปกรณ์ ความสะอาดเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม เช่น สบู่ ผงซักฟอก ขัน กระป๋อง กะละมัง แปรง ไม้กวาด ราวตากผ้า ไม้หนีบผ้า เป็นต้น

 

                 . ในการพาลูกทความสะอาด จัดระเบียบ พ่อแม่พาทอย่างอารมณ์ดี ให้ลูกซักถาม พ่อแม่ให้เหตุผล ช่วยกันคิดหาคตอบ หาเหตุผลร่วมกัน ให้ลองท แข่งกันอย่างสนุกสนานเบิกบานใจ ลูกจะได้ไม่กลัวพ่อแม่ แต่จะกล้าบอกความจริง ความอบอุ่นใจ จึงเพิ่มพูน ความหนาวใจ ความร้อนใจมีแต่จะลดลง

 

๕. สิ่งแวดล้อม ที่เป็นระเบียบแบบแผนจริยธรรม

 

               • แบบแผนการตัดสินใจแบบแผนการทความสะอาดและ จัดระเบียบแบบแผนการพูด

 

ความจริงที่ต้องรีบรู้เกี่ยวกับระเบียบแบบแผน เพื่อควบคุมโรคหนาวร้อน

 

               การควบคุมโรคหนาว-ร้อนได้ถูกต้อง ผู้นั้นจะต้องรู้จริง ปฏิบัติได้จริงตามแบบแผนที่ต้องปฏิบัติต่อสิ่งแวดล้อมที่เป็น ธรรมชาติ สิ่งมีชีวิต บุคคลแวดล้อม ทรัพยากร และเครื่องอนวย ความสะดวกด้วย

 

ความจริงที่ต้องรีบปฏิบัติเพื่อควบคุมโรคหนาวร้อน จากการรู้จริงเรื่องระเบียบแบบแผน

 

                พ่อแม่ต้องรีบสอนความจริงที่ต้องรีบรู้และพาลูกปฏิบัติ ตามความจริงนั้น จนลูกเป็นผู้มีนิสัยรักการทความสะอาด รักการจัดระเบียบ โดยทอย่างอารมณ์ดี ถูกวิธี ทันที และ สม่เสมอ โดยพ่อแม่พาลูกปฏิบัติตามความจริง ดังนี้

 

                 . พ่อแม่ต้องศึกษาให้รู้จริงในสิ่งแวดล้อม และแบบแผน ควบคุมโรคหนาว-ร้อน ดังได้กล่าวมาแล้ว

 

                 . พ่อแม่ต้องปฏิบัติตามแบบแผนนั้นจนชนาญเป็นแบบอย่าง แก่ลูกได้

 

                 . พ่อแม่สอนลูกให้รู้หลักความจริงว่า สิ่งจเป็นสหรับชีวิต ในการแก้โรคหนาว-ร้อนมีอะไรบ้าง สิ่งจเป็นเหล่านั้นมีหลักตัดสิน อย่างไร ว่าสิ่งใดจเป็น สิ่งใดส่วนเกิน ต้องมีปริมาณเท่าไร คุณภาพ อย่างไร ฝึกลูกเลือกของให้เป็น ตัดสินให้ถูก เพื่อมีแบบแผนตัดสินใจ ที่ถูกต้องต่อไปในภายหน้า

 

                . พ่อแม่เป็นแบบอย่างสอนลูกให้รู้แบบแผนการทำความสะอาด แบบแผนการจัดระเบียบสิ่งจเป็นต่าง

 

                . พาลูกทตามหลักความจริงและแบบแผนที่สอนนั้นให้เป็น นิสัย โดยทอย่างอารมณ์ดี มีความสุข สนุกสนานทั้งครอบครัว

 

 

สัจจะต่อความดี อานุภาพพลิกโลก

พระเผด็จ ทตฺตชีโว

คณะวิพากษ์ คณะจัดทำต้นฉบับและหนังสือ

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0015206654866536 Mins