จากสมมติสู่วิมุตติ

วันที่ 01 มีค. พ.ศ.2567

1-3-67--4.jpg

จากสมมติสู่วิมุตติ
ให้ตัดความรู้สึกที่กายเนื้อ ไม่ต้องไปสนใจกายหยาบ
เรากำลังเปลี่ยนจากสมมติไปสู่วิมุตติ ในระดับสมมติ
เราจะนึกอะไรก็ได้แล้วแต่เรา
แต่ขอให้เบาสบายและนึกที่กลางกายจะดีกว่านึกข้างนอก
ให้มองข้างในเพราะเรามีเป้าหมายหลักอยู่ภายในกลางกาย
ทบทวนโอวาทคุณครูไม่ใหญ่

จากหนังสือ มุทิตา อายุ ๖๐ ปี พระครูสมุห์วิษณุ ปญฺญาทีโป

 

1-3-67--3.jpg

เหนื่อยแต่คุ้ม
ถามว่า “เหนื่อยไหม”
ในการที่เราจะไปชวนเขามาทำความดี
ตอบว่า “เหนื่อย”
แต่ไม่ว่าจะทำมาค้าขายก็เหนื่อย
จะออกกำลังกายเพื่อจะให้ความแข็งแรงกับตัวเราก็เหนื่อย
แปลว่า จะทำอะไรก็เหนื่อย แต่เหนื่อยแล้วมันสุดคุ้ม
เหนื่อยแต่มีความสุข
มีหลายคนถามหลวงพ่อว่า “เหนื่อยไหม”
ก็เหนื่อยนะ แต่มีความสุขในการที่จะน่าธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
มาถ่ายทอดให้ทุกคนได้ฟัง หรือให้ทุกคนได้ทำความดี
เพราะฉะนั้นเราเกิดมา เราก็ต้องเหนื่อย
และก็ต้องเหนื่อยกันทุกวันด้วย เราหาวิธีเหนื่อยที่มันคุ้ม
ทบทวนโอวาทคุณครูไม่ใหญ่

จากหนังสือ ไม่รู้จะอ่านอะไร เล่ม 3

1-3-67--2.jpg

ไม่มีใครหนีพ้น
ทุกคนในโลก
ไม่อาจจะเลี่ยงกฎแห่งกรรมได้เลย
ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ ศาสนา และเผ่าพันธุ์ใด
จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม
ทุกชีวิตในโลกนี้จะต้องตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมทั้งสิ้น
แม้แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลาย
ซึ่งมีฤทธิ์ มีเดช สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้
ทํากิเลสอาสวะให้หมดสิ้นไปได้
แม้ภพสุดท้ายพระองค์ก็ยังต้องเผชิญกับกฎแห่งกรรม
ทบทวนโอวาทคุณครูไม่ใหญ่

จากหนังสือ ไม่รู้จะอ่านอะไร เล่ม 3

1-3-67--1.jpg

สุขในชีวิตสมณะ
ชีวิตสมณะ ถ้าใช้ชีวิตด้วยการหยุดกับนิ่ง
คือทำอย่างที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านสอน
ให้ระวังรักษาจิตดวงเดียว
ไม่ต้องไปคิดเรื่องคน สัตว์ สิ่งของ
เอาใจหยุดนิ่ง ๆ สบาย ๆ ภายใน มันมีความสุขนะ
แล้วมีเรื่องที่น่าศึกษา ทุกขั้นตอนที่ผ่านไปมันมีความสุข
มีทั้งความรู้ มีทั้งความสุข ใจก็เบิกบานอย่างบอกไม่ถูก
เหมือนเอาปิ่นโตที่ใส่อาหารมา
เราเปิดฝาชั้นแรกว่าอร่อยแล้ว
พอยกไปชั้นที่ ๒ อร่อยกว่านั้นเข้าไปอีก
ชั้น ๓ ชั้น ๔ ชั้น ๕ เป็นเถา ๆ ยาวเหยียดไปเลย
วันนี้หยุดได้แค่นี้ว่าอร่อยแล้ว
หยุดหนักเข้าไปอีก หยุดในหยุด
อร่อยกว่าเดิมเข้าไปอีกเรื่อย ๆ เลย
ทบทวนโอวาทคุณครูไม่ใหญ่

จากหนังสือ ไม่รู้จะอ่านอะไร เล่ม 3

 

1-3-67--5.jpg
ชีวิตหลังความตายมีจริง
อย่าเข้าใจเพียงว่า สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ
หรือเอาสวรรค์มาล่อ เอานรกมาขู่ อะไรทำนองนี้
นั่นเป็นเรื่องราวของผู้ที่ไม่เคยรู้เหตุ
คือ ตัวทำไม่ได้ ไม่เคยเห็นใครทำได้ ก็เลยสรุปอย่างนั้น
หรือถ้าคิดว่า นรกสวรรค์มีจริง
แล้วจะทำโน่นทำนี่ที่ตัวอยากทำ มันไม่ได้ มันจะกลัว
แล้วความจริงรู้ได้อย่างไร
ก็รู้จากคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
แล้วท่าไมต้องเชื่อ เพราะท่านเป็นบุคคลที่ควรเชื่อ
เพราะท่านหมดกิเลสอาสวะแล้ว
รู้แจ้งเห็นแจ้งแทงตลอดในสรรพสัตว์สรรพสิ่งทั้งหลาย
ชีวิตในสังสารวัฏ ภพภูมิต่าง ๆ อยู่ในคลองแห่งธรรมจักษุ
ในญาณทัศนะอันบริสุทธิ์ของท่าน ไม่มีอะไรกำบังได้
ท่านไปรู้ไปเห็นมา อาศัยมหากรุณา สงสารสัตวโลกทั้งหลาย
จึงนำมาถ่ายทอด มาอบรมสั่งสอน
ทบทวนโอวาทคุณครูไม่ใหญ่

จากหนังสือ ไม่รู้จะอ่านอะไร เล่ม 3

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.019370452562968 Mins