ศีล 5 ป้องกันเราจากไสยเวทย์

วันที่ 12 มิย. พ.ศ.2567

12-6-67-b.jpg

จริงหรือไม่ที่ศีล 5 เป็นอาภรณ์แก้วที่สามารถป้องกันเราจากไสยเวทย์ได้
 

พระอาจารย์ตอบ : ขอให้เรามีศีลบริสุทธิ์จริงๆ ตั้งแต่กาย วาจา และใจก็เหมือนกับมีอาภรณ์แก้วสามารถป้องกันเราจากสิ่งชั่วร้ายต่างๆได้


                          โดยปกติศีลจะควบคุมกายและวาจาเป็นหลัก เช่น ศีลข้อ 1 ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต แต่บางคนหงุดหงิดคิดอยากจะฆ่า แต่กลัวผิดศีลเลยไม่ฆ่า ศีลคุมกายกับวาจาเป็นหลัก แต่เมื่อใดที่เราสามารถรักษาศีลโดยควบคุมเข้าไปถึงใจได้ด้วย คือ ไม่คิดจะทําร้ายใคร ไม่คิดจะลักทรัพย์ใคร ไม่คิดที่จะเป็นชู้ใคร ไม่คิดจะโกหกหลอกลวงใคร หรือกล่าววาจาทุจริต ให้ร้าย ยุยงให้ใครแตกแยกกัน และไม่คิดที่จะดื่มสุรายาเสพติด ใจเราเกลี้ยงจริงๆ ก็จะเป็นเกราะแก้วคุ้มครองภัยตนเองได้เป็นอย่างดี ใครจะใช่ไสยเวทย์หวังทำร้ายเราอย่างไรก็ทําไม่ได้


                           ให้เราแผ่เมตตาจิตไปในทิศทั้ง 4 แล้วความปลอดภัยความสุขสวัสดีจะเกิดขึ้นกับเรา เหมือนกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้งหนึ่งพระองค์จะเสด็จไปบิณฑบาต เกิดข่าวลือกระช่อนแล้วว่า บัดนี้พระเทวทัตได้ เจ้าชายอชาติศัตรูให้ฆ่าพ่อ คือ พระเจ้าพิมพ์พิสาร แล้วยึดราชณสมบัติของแคว้นมคธมาได้ โดยอาศัยอ่านาจของพระเจ้าอชาติศัตรู เอาช้างตกมัน คือ ช้างนาฬาคิริงมอมเหล้าแล้วจะปล่อยมาทําร้ายพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตอนบิณฑบาต ให้ช้างวิ่งเข้าใส่แล้วแทงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


                           เนื่องจาก คนทั่วไปไม่กล้าทำเพราะเกรงบารมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต่างก็เคารพและเลื่อมใสพระพุทธองค์จึงใช้ช้างดุร้ายเมาเหล้าแทน


                             ขณะนั้น พระอานนท์เดินตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พอเห็นช้างวิ่งมา ความต้องการที่จะปกป้องพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงเดินขึ้นไปขวางหน้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หมายจะให้ช้างตัวนั้นมาแทงตนเองก่อน


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า


"อานนท์ ไม่ใช่กิจของเธอ จงถอยออกมาเถิด..


                             แล้วพระองค์ก็แผ่เมตตาจิต ปรากฏว่า ช้างนาฬาคิรีกลับเปลี่ยนท่าที พุ่งมาซุกอยู่แทบพระบาทของพระองค์ ท่าทางเหมือนกับมาน้อมกราบอยู่แทบพระบาท


                              ช้างที่ว่าดุมากทั้งตกมันและเมาเหล้า แต่ด้วยอานาจเมตตาจิตของพระพุทธองค์ที่ไม่เคยคิดร้ายต่อใครเลย แม้แต่กับพระเทวทัตและพระอานนท์ก็เสมอเหมือนกัน ถ้าเป็นคนทั่วไปมักจะรักใคร่คนที่ท่าดีใกล้ชิดเรา ส่วนคนที่คิดร้ายกับเรา เราก็มักจะไม่ชอบใจ แต่สําหรับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว พระองค์มีเมตตาเหลือประมาณอย่างไม่แบ่งแยก


                              เพราะฉะนั้น ให้เรารักษาศีลทั้งกาย วาจา ให้ถึงใจ แล้วแผ่เมตตาจิตไปยังทิศทั้ง 4 ไสยเวทย์ก็สู้อำนาจพระพุทธคุณไม่ได้ ใครก็มาทำอันตรายไม่ได้

    
เจริญพร.

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.038300148646037 Mins