การวางแผนชีวิตอย่างมีเป้าหมาย

วันที่ 08 สค. พ.ศ.2567

 

 

2567_08_08_b%20%282%29.jpg

 

 

การวางแผนชีวิตอย่างมีเป้าหมาย

 


                     วารสารบริหารธุรกิจ : คำถามสุดท้าย ขอถามว่าศาสนาพุทธสอนการวางแผนไว้อย่างไรบ้าง?


                พระเผด็จ : การวางแผนในที่นี้ ขออธิบายในเชิงการวางแผนชีวิตก็แล้วกันเพราะการวางแผนการบริหารองค์กรของพระพุทธศาสนานั้นอาตมาได้อธิบายไปแล้วในการวางแผนอะไรก็ตามจะต้องมีเป้าที่แน่นอนเสียก่อนการวางแผนชีวิตก็ต้องมีเป้าหมายเช่นกันซึ่งในศาสนาพุทธได้แบ่งเป้าหมายชีวิตออกเป็น ๓ ระดับ คือ



                      ๑. เป้าหมายชีวิตขั้นต้น เพื่อประโยชน์ในชาตินี้ เป็นการตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะต้องตั้งตัวตั้งฐานะให้ได้ คือ มีบ้านตนเองไว้อยู่ มีอู่ไว้นอนมีอุปกรณ์ไว้ใช้ทำมาหากินด้วยการวางแผนประกอบอาชีพที่สุจริตไม่ผิดกฎหมายไม่ผิดศีลธรรมจะเป็นอาชีพอะไรก็แล้วแต่ความถนัดของแต่ละบุคคลขอแต่เพียงให้เป็นสัมมาอาชีวะก็แล้วกัน

 


                    ๒. เป้าหมายชีวิตชั้นกลาง เพื่อประโยชน์ในชาติหน้า เป็นการตั้งเป้าหมายไว้ว่านอกจากจะพยายามตั้งฐานะของตนให้ได้แล้วก็จะตั้งใจสร้างบุญกุศลอย่างเต็มที่ในทุกๆโอกาสที่อำนวยให้เป็นการวางแผนที่จะสะสมทุนและเสบียงเพื่อใช้ในภพชาติต่อไปเพราะว่าสัตว์โลกทั้งหลายตายแล้วไม่สูญตราบใดที่ยังไม่หมดกิเลสก็ยังต้องเกิดใหม่อีกอยู่ร่ำไป



                      คนบางคนคิดแต่จะหาประโยชน์เฉพาะในชาตินี้โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ชาติหน้าเลยคิดแต่จะหาทรัพยจะตั้งฐานะให้ได้โดยไม่ประกอบการบุญการกุศลขอให้ลองคิดดูว่าชีวิตของคนประเภทนี้จะมีคุณค่าสักเพียงไรกันตั้งแต่เกิดก็อาศัยพ่อแม่เลี้ยงดูมาพอโตขึ้นหน่อยก็เรียนหนังสือหาความรู้ครั้นโตขึ้นก็ทำงานมีครอบครัวเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานดิ้นรนหาสิ่งต่างๆมาบำรุงบำเรอตนแล้วก็แก่เฒ่าตายไปถ้าเรามีชีวิตอยู่เพียงเท่านี้ก็มีคุณค่าไม่ต่างอะไรกับนกกา

 


                         แต่นี่เราเป็นคน ซึ่งมีโครงร่างที่เหมาะแก่การใช้ทำความดีมากที่สุด ดังนั้นนอกจากความพยายามตั้งฐานะในชาตินี้ให้ได้แล้ว เราทุกคนจึงควรที่จะรู้จักสร้างคุณค่าแก่ชีวิตด้วยการตั้งใจทำความดีอุทิศตนเข้ารับใช้ส่วนรวมจะเป็นการสงเคราะห์สังคมให้สังคมได้ประโยชน์จากเราส่วนตัวเราเองก็ได้บุญเต็มที่เพื่อไว้เป็นเสบียงในการเดินทางข้ามภพข้ามชาติ และเป็นปัจจัยในการบรรลุถึงเป้าหมายชีวิตขั้นสูงสุด

 


                        ๓. เป้าหมายชีวิตขั้นสูงสุด คือ เป้าหมายเพื่อประโยชน์อย่างยิ่งได้แก่การตั้งใจปฏิบัติธรรมทุกรูปแบบเพื่อปราบกิเลสให้หมดสิ้นแล้วเข้าพระนิพพานตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและเหล่าพระอรหันต์ทั้งหลายจะได้มีแต่ความสุขอันเป็นอมตะตลอดไปไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดให้เป็นทุกข์ต่อไปอีก

 


                         คนบางคนเริ่มแรก ก็ตั้งเป้าหมายชีวิตดีอยู่ เช่น ตั้งใจจะทำมาหากินโดยสุจริต แต่กำลังใจไม่เข้มแข็งพอ พอทำไปๆ แล้วชักจะรู้สึกว่ารวยช้าไม่ทันใจเป้าหมายชีวิตชักเขวลงท้ายเลยไปคดโกงคนอื่นเขาต้องติดคุกติดตะรางไปหรือบางคนตั้งใจจะให้ทานรักษาศีลเจริญสมาธิภาวนาแต่พอถูกคนอื่นเย้าแหย่บ้างล้อเลียนบ้าง เจอสิ่งยั่วยุมากเข้าๆเลยเลิกปฏิบัติธรรม ปล่อยชีวิตให้เป็นไปตามอำนาจของกิเลส
 


                         เพราะฉะนั้นเราจะต้องรักษาเป้าหมายชีวิตให้มั่นคง โดยฝึกตนเองให้เป็นคนมีศรัทธา คือ เชื่ออย่างมีเหตุผลไม่งมงาย อยู่ในศีลในธรรม หมั่นศึกษาหาความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม เลือกคบแต่กัลยาณมิตร รู้จักเสียสละเพื่อกำจัดความตระหนี่ออกจากใจ และหมั่นฝึกสมาธิภาวนา เพื่อให้ใจผ่องใส หนักแน่น มั่นคงและเกิดปัญญาไม่ช้ามรรคมีองค์ ๘ ก็จะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สามารถบรรลุธรรมกายและเป้าหมายชีวิต ได้โดยสมบูรณ์ทุกขั้นตอน

 

 

2567_08_08.jpg

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.026253732045492 Mins