วิบากกรรมอะไร ทำให้ผิดหวัง เรื่องหน้าที่การงาน
โยมถาม : วิบากกรรมอะไรที่ทำให้ผิดหวังเรื่องหน้าที่การงานมาโดยตลอด
พระอาจารย์ตอบ : ทุกอย่างที่เราเจอล้วนเกิดจากเหตุ 2 ประการ คือ วิบากกรรมในอดีต และกรรมในปัจจุบันที่เราได้ประพฤติปฏิบัติในชาตินี้จากเหตุทั้ง 2 ประการ จะส่งผลผสมผสานกัน
คนที่มีวิบากกรรมในอดีต เช่น เคยกลั่นแกล้งผู้อื่น เคยทำผิดศีลผิดธรรม วิบากกรรมนั้นจะส่งผลให้มีอุปสรรคปัญหา ต้องใช้ความพยายามทุ่มเท มากกว่าคนทั่วไปจึงจะประสบความสำเร็จได้ ส่วนคนที่ทํากรรมดีมาในอดีตชาติ หยิบจับอะไรก็ง่ายไปหมด คนจีนเรียกว่า ดวงเฮง ดวงดี ซึ่งความจริงแล้วความเฮงนั้นไม่ได้เกิดขึ้นมาลอยๆ แต่เกิดจากการกระทําของเราในอดีตที่มาส่งผลในชาตินี้ ถ้าในอดีตประพฤติดี ทำบุญมามาก บุญนั้นก็ส่งผลให้เราทำอะไรก็ดีไปหมด
พอรู้หลักอย่างนี้แล้วสิ่งที่เราควรทำ คือ ให้ความสำคัญกับปัจจุบันมากที่สุด อย่าไปมัวพะวงกับเรื่องราวในอดีตมากเกินไป ให้ความสําคัญกับปัจจุบัน แล้วตั้งใจปฏิบัติดีโดยยึดหลัก “อิทธิบาท 4” ได้แก่
(1) ฉันทะ คือ มีใจรักในงานที่ทำ
(2) วิริยะ คือ ตั้งใจทำอย่างไม่ย่อท้อ ถ้าเป็นนักเรียน ก็ต้องตั้งใจเรียน ถ้าเป็นคนวัยทํางาน ก็ทํางานอย่างจริงจัง ขยันขันแข็ง คนที่ประสบความ
สําเร็จ ก็เพราะเขาทุ่มเทมากกว่าคนอื่น ยกตัวอย่าง นักกีฬาโอลิมปิก เขาต้องฝึกซ้อมอย่างหนักกว่าจะได้แชมป์ ส่วนนักธุรกิจ ก็ทุ่มเทมากกว่าคนอื่นถึงจะประสบความสำเร็จ เช่น แจ็ก หม่า เขาทุ่มเทท่างานอย่างหนักจนแทบจะลืมกินลืมนอน
หรือแม้แต่ดารานักร้องนักแสดงต่างก็ต้องทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างหนัก ไม่ได้มีชีวิตที่เรียบง่ายสบายๆ นักร้องนักเต้นคนไทยที่ไปเกาหลี เขาประสบความสําเร็จได้ก็เพราะซ้อมในขณะที่คนอื่นเข้านอน
(3) จิตตะ คือ รับรู้สิ่งที่ทำด้วยจิตฝักใฝ่ ไม่ปล่อยใจฟุ้งซ่านเลื่อนลอย ไม่ใช่ว่าขยันหางานให้มาก แต่ท่าขอแค่ให้งานเสร็จ เราต้องขยันอย่างมีใจจดจ่อ คือ เอาใจใส่ในงานที่ท่าและมีความตั้งใจจริงด้วย
(4) วิมังสา คือ มีใจรักในงานที่ท่า และทําให้ถูกหลัก เรียนรู้จนเกิดความเข้าใจ พัฒนางานจนกระทั่งสำเร็จลุล่วงด้วยดี
เราอาจจะมีวิบากกรรมในอดีตอยู่บ้าง แต่ถ้าทุ่มเททำงานโดยยึดหลัก “อิทธิบาท 4” ก็จะประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน แล้วให้หมั่นสร้างบุญ ให้บุญใหม่หนุนส่งเป็นกำลังเสริมภายใน แล้วเราจะสำเร็จสมความปรารถนาได้ในไม่ช้า
เจริญพร.