โลกจะสงบสุข เมื่อคุ้มครองโดยธรรม

วันที่ 21 เมย. พ.ศ.2568

21-4-68-1-b.png

โลกจะสงบสุข เมื่อคุ้มครองโดยธรรม -22 เมษายน วันคุ้มครองโลก (Earth Day) -

คนทั้งโลกให้ความสําคัญกับวันคุ้มครองโลกอย่างไร ...


ประวัติที่มาของวันคุ้มครองโลก


                   เริ่มต้นจากคนชั้นนำของโลก โดยเริ่มต้นจากอเมริกา ซึ่งตอนนั้นถือว่า เทคโนโลยี เศรษฐกิจทุกอย่างก็เป็นผู้นําของโลก

 

                   เริ่มเห็นว่าพอเทคโนโลยีพัฒนาไปมากขึ้น คนมากขึ้น การใช้ทรัพยากรธรรมชาติก็มากขึ้น ป่าไม้ถูกรุกทำลาย น้ำเสีย อากาศเสีย ถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ต้องไม่ดีแน่


                   โลกจะไปไม่รอด และมนุษย์ก็จะอยู่ไม่เป็นสุข จึงได้เริ่มรณรงค์ให้คนเห็นความสําคัญของสิ่งแวดล้อม ว่าเราทุกคนต้องช่วยกัน เราอยู่ร่วมกันบนโลก ต้องช่วยคุ้มกันดูแลโลกด้วย จนกระทั่งคนเห็นความสําคัญมากขึ้นๆ


                   และจุดสำคัญคือ วันที่ 22 เมษายน เขาสามารถปลุกคนอเมริกาให้ลุกขึ้นมาชุมนุมกัน กระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวเรื่องสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่ได้ถึง 20 ล้านคน

21-4-68-2-b.png


                    เกย์ลอร์ด เนลสัน (Gaylord Nelson) สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ริเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505 ต่อมา สมาชิกวุฒิสภาเนลสันได้ตัดสินใจขอให้ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี ยกเรื่องสิ่งแวดล้อมขึ้นเป็นวาระแห่งชาติ


                    จึงถือวันที่ 22 เมษายน ปี 2513 เป็นวันเริ่มต้นของวันคุ้มครองโลกจนกระทั่งรัฐบาลอเมริกาออกกฎหมาย และมีการจัดตั้งสํานักงานสิ่งแวดล้อมแห่งชาติขึ้นมา และขยายไปทั้งโลก จนกระทั่งสหประชาชาติ (UN) ก็ได้กําหนดให้วันที่ 22 เมษายน ของทุกปีเป็นวันคุ้มครองโลก (Earth Day)


                    ที่มาของวันคุ้มครองโลก จึงมาจากสิ่งแวดล้อมโลก เราต้องมาช่วยกันดูแลโลก เราจะได้อยู่ในโลกนี้อย่างเป็นสุข


ความสําคัญของวันคุ้มครองโลก


                     เริ่มต้นวันที่ 22 เมษายน ซึ่งเผอิญตรงกับวันคล้ายวันเกิดของพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย พอดีเลย และก็เริ่มในปี 2513 ซึ่งก็มาพอดีกับปีที่มีการขุดดินก้อนแรกสร้างวัดพระธรรมกาย คือเมื่อมาฆบูชา กุมภาพันธ์ ปี2513 หลังจากนั้น ถัดมาแค่ 2 เดือนก็เกิดวันคุ้มครองโลก มาบรรจบพร้อมก้น


คุ้มครองโลกที่แท้จริงเราหาได้อย่างไร


                      เราจะพบว่า การจะคุ้มครองโลกได้จริงๆ นั้น โลกทางกายภาพมีความสำคัญ นั่นคือที่มาของคำว่า Earth Day ซึ่งจริงๆ แล้วถ้าจะให้คุ้มครองโลก ทางกายภาพได้ มันต้องเริ่มจากใจ สำคัญที่ใจมนุษย์ ถ้าใจมนุษย์เร่าร้อนด้วยความโลภ โกรธ หลง เมื่อไหร่ "ยากที่จะคุ้มครองโลกภายนอกให้เป็นสุข"


การคุ้มครองโลกต้องเริ่มต้นที่ใจคน


                     เมื่อเราจับประเด็นได้อย่างนี้ว่า "การคุ้มครองโลกต้องเริ่มที่ใจคน" จากนั้น  "สิ่งแวดล้อม ดิน อากาศ ฟ้า" ก็จะดีตามใจเราไปหมด รวมทั้งมนุษย์ และสัตว์ทั้งหลายก็จะอยู่ร่วมกันอย่างผาสุก เพราะไม่เบียดเบียนกัน ถ้าแก้ที่ใจได้ ก็จะแก้ไขได้ทุกเรื่อง


                     ดังนั้น พอถึงวันที่ 22 เมษายน หลวงพ่อธัมมชโยจึงเน้นว่าวันที่ 22 เมษายน  เป็นวันคุ้มครองโลก ต้องเป็นวันที่เรามาสร้างบุญกัน คือ ให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา ทุกๆ ปี ของวันที่ 22 เมษายน

21-4-68-4-b.png
                     ทางวัดพระธรรมกายจึงจัดให้มีการสร้างมหาทานบารมี โดยการถวายสังฆทานแด่พระสังฆาธิการ จากทั่วประเทศ ทำมาทุกปี


                      และในปีนี้ 2568 จัดให้มีการบำเพ็ญมหาทานบารมี ถวายมหาสังฆทานแด่  พระสังฆาธิการ สี่หมื่นวัด ในวันเดียวกัน  สามารถที่จะทำบุญได้หลายหมื่นวัด เพราะเราถวายเป็นสังฆทาน ถือว่าเป็นมหาทานบารมีอย่างยิ่งใหญ่ และขอเชิญพุทธศาสนิกชนมาร่วมสร้างประวัติศาสตร์ทางพุทธศาสนาถวายสังฆทาน 4 หมื่นวัดทั่วไทย 22 เมษานี้


                      พร้อมกันนี้ ถือเป็นการกตัญญูบูชา แด่พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย ในวาระอายุวัฒนมงคล 81 ปี ที่ท่านได้ตั้งใจบวชอุทิศชีวิต เพื่อพระพุทธศาสนา ตั้งแต่ 27 ส.ค. 2512 จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ท่านได้ทุ่มเทสร้างวัดสร้างพระ สร้างคนให้เป็นคนดีมากมายและขยายศูนย์สาขาไปทั่วโลก มีคนสวมชุดขาว รักษาศีล และนั่งสมาธิเป็นแสนๆ คน


                      หลวงพ่อธัมมชโย เคยกล่าวไว้ว่า การสร้างวัดขึ้นมา ไม่ใช่เพื่อความอยากเด่นอยากดัง หรืออยากอะไรเลยนอกจาก อยากให้ "มนุษย์ทุกคนในโลกนี้ เกิดมาไม่ตายฟรี" เกิดมาชาตินี้ให้รู้ว่า มีพระรัตนตรัยในตัว เขาสามารถสมหวังในชีวิตได้ ด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด ไม่มีอะไรง่ายไปกว่านี้ คือการทำสมาธิฝึกใจให้หยุดนิ่งภายในที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7


เราจะขยายการคุ้มครองโลกออกไปได้อย่างไร


                     การคุ้มครองโลกต้องแก้ที่ใจคน ให้คนมีศีล มีธรรม ละความโลภ โกรธ หลง ให้เบาบางลงแล้วโลกจะได้รับการคุ้มครอง ถ้าเราฟังก็ย่อมเห็นตามว่าถูกต้อง แต่ประเด็นคือ แล้วเราจะทำอย่างไรให้แนวคิดนี้ขยายไปทั้งโลกได้จริง


                      คนที่เป็นผู้น่าระดับโลกเขาจะมองอย่างนี้ ไม่ใช่แค่พูดหลักการสวยๆ แล้ว  จบแค่บนกระดาษ หรือจบแค่คำพูดในวงสนทนาแล้วก็จบ ถ้ามีแต่พูด แต่ไม่ได้ทําก็จะไม่ได้งาน ทุกวงประชุมของโลกคือ ทำอย่างไรจะได้แนวความคิดที่ถูกต้อง แล้วสามารถน่าแนวคิดนั้นไปสู่มหาชนในสังคมทั้งประเทศและทั้งโลกได้จริงด้วย


โลกจะได้รับการคุ้มครองได้จริงๆ อย่างไร


                      การทําสมาธิคือการเอาใจเราเองมาหยุดมานิ่ง ไม่คิดฟุ้งซ่าน ใจเรามีธรรมชาติคล้ายลิง ใน 1 ชั่วโมง หรือแม้แต่ใน 1 นาที สามารถคิดได้หลายเรื่อง ใจกระโดดไปเรื่อยๆ การทำสมาธิคืออย่าให้ใจเรากระโดด ให้นิ่งๆ อยู่เรื่องเดียว และนิ่งอยู่กับเรื่องที่ดี เป็นสัมมาสมาธิ


                     คือเอาใจมาหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกาย คือให้อยู่ในตัว อย่าเอาใจไปนอกตัว  ตรงฐานที่ตั้งของใจ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 เหนือสะดือขึ้นมา 2 นิ้วมือ  และกําหนดเป็นภาพองค์พระที่เราคุ้นๆ นึกไว้ตรงตําแหน่งนั้น เพื่อให้ใจเรามีที่เกาะเกี่ยว และจะคุ้นกับศูนย์กลางกายมากขึ้น ไม่ชัดสาย เมื่อใจนิ่งดีแล้วก็จะเห็นดวงสว่าง และหลังจากนี้ไปก็จะเห็นของจริง


"นตถิ สนฺติ ปรม สุข ความสุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี "


                    สุขจากสมาธิมันเลิศกว่าความสุขอย่างอื่น เช่น การไปรับประทานอาหารอร่อยๆ การไปดูหนัง ฟังเพลงเพราะๆ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ที่เราเองพึงพอใจ เราจะพบว่าความสุขที่เกิดจากสิ่งเหล่านี้สู่ความสุขที่เกิดจากสมาธิไม่ได้เลย
 

21-4-68-3-b.png
                    สุขจากสมาธิเป็นสุขอิ่ม เย็น สบาย ใจชุ่มเย็น ใจขยายไปทั้งโลก มีความรู้สึกรักเพื่อนมนุษย์ รักชีวิตอื่น รักสิ่งแวดล้อม รักธรรมชาติ ใจอ่อนโยน นุ่มนวล เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับธรรมชาติรอบตัว เป็นความสุขที่ปราณีตกว่าความสุขทางเหนือหนังมังสาภายนอก


                    พอความสุขแบบนี้เกิดขึ้นมาเมื่อไหร่ เราได้รับการคุ้มครองแล้ว โลกก็จะได้รับความคุ้มครอง คนที่มีใจแบบนี้จะไม่เป็นภัยต่อโลก ไม่เป็นภัยกับใคร


                     มีแต่จะนําความสงบร่มเย็นให้เกิดขึ้นกับทุกคน กับสังคม และนำสิ่งดีๆ มาให้กับโลก ใจหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายเมือไหร่ นั่นแหละคือ การคุ้มครองตัวเรา และคุ้มครองโลกที่แท้จริง


เจริญพร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.034010783831278 Mins