มุทิตา 85 ปี พระพุทธิวงศมุนี

วันที่ 16 มีค. พ.ศ.2549

มุทิตา 85 ปี พระพุทธิวงศมุนี

 

      เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2549 ณ วัดจักรวรรดิราชาวาส วรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร คณะศิษยานุศิษย์ได้จัดงานถวายสักการะเนื่องในวันคล้ายวันเกิด พระเดชพระคุณ พระพุทธิวงศมุนี (บุญมา ทีปธมฺโม) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 12 เจ้าอาวาสวัดจักรวรรดิราชาวาส วรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร

พระเดชพระคุณพระพุทธิวงศมุนี (บุญมา ทีปธมฺโม) มีนามเดิมว่า บุญมา สุดสุข เกิดเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2464 ตรงกับวันพฤหัสขึ้น 12 ค่ำเดือน 4 ปีระกา โยมบิดาชื่อ หนู สุดสุข โยมมารดาชื่อ หอม สุดสุข มีภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านชาดฮี ตำบลไร่ใต้ อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี บรรพชา ณ วัดโพธิ์ตาก ตำบลพิบูล อำเภอพิบูลมังสาหาร เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2481 โดยมีพระอธิการคำ สุวโจ ต่อมาเป็นพระครูพิศาลโพธิวัฒน์ วัดโพธิ์ตากเป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่ออยู่วัดโพธิ์ตาก 2 ปี และสอบได้นักธรรมตรีได้ที่วัดนี้

ครั้งต่อมาได้ย้ายมาอยู่วัดสมุหประดิษฐ์ จังหวัดสระบุรี เมื่อปี 2483 เป็นเวลา 1 ปี สอบได้นักธรรมโท แล้วจึงย้ายมาอยู่วัดอนงคาราม เมื่อปี 2484 และสอบได้นักธรรมเอก ต่อมา พ.ศ. 2485 ย้ายมาอยู่วัดจักรวรรดิราชาวาส ได้เพียง 10 วันก็เข้าอุปสมบท ณ อุโบสถวัดจักรวรรดิราชาวาส เมื่อวันที่ 10 กรกฎคม 2485 โดยมีพระคุณาจารวัตร (ใช้ สุวณฺโณ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระวินัยกิจโกศล (เมื่อยังเป็นพระมหาเส็ง ธมฺมธโร ป.ธ.7) เป็นพระกรรมวาจารย์ และสมเด็จพระธีรญาณมุนี (ธีร์ ปุณฺณกมหาเถร ป.ธ.9) เมื่อดำรงสมณศักดิ์ที่ พระสุธีวรคุณ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลวงพ่อสอบบาลีได้ ป.ธ. 3-4-5 โดยลำดับแล้วสอบ ป.ธ.6 ได้เมื่อ พ.ธ.2494 ที่สำนักเรียนวัดจักรวรรดิราชาวาสนี้

ในด้านการปกครองหลวงพ่อเป็นพระเลขานุการเจ้าคณะตรวจการภาค 3 (ของสมเด็จพระธีรญาณมุนี) ระหว่าง 2493 – 2505 เป็นเวลา 13 ปี เป็นเลขานุการเจ้าอาวาสวัดจักรวรรดิราชาวาส ระหว่าง 2497 – 2524 เป็นเวลา 8 ปี เป็นรองประธานกรรมการรักษาการแทนเจ้าอาวาส ระหว่าง 2502 -2505 เป็นเวลา 3 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่สมเด็จพระธีรญาณมุนี เมื่อดำรงสมณศักดิ์ที่ พระธรรมธีรราชมหามุนี ไปเป็นเจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยาประเทศอินเดีย และเป็นประธานรักษาการแทนเจ้าอาวาสได้แก่ พระราชปัญญามุนี (อิน ติสฺสสโร)

ต่อมาหลวงพ่อได้รับพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะภาค 12 (สมัยนั้น พระธรรมวรนายก (สมบูรณ์ จนฺทโก) วัดอุดมธานี จังหวัดนครนายก เป็นเจ้าคณะ 12) เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2526 และได้รับพระบัญชาแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์วิสามัญในเขต 12 เมื่อวันที่18 มิถุนายน 2526

เมื่อสมเด็จพระธีรญาณมุนี (ธีร์ ปุณฺณกมหาเถร ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดจักรวรรดิราชาวาส มรณภาพแล้ว หลวงพ่อได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2527 และต่อมาได้รับบัญชาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดจักรวรรดิราชาวาส เมื่อวันที่ 28 กุมพาพันธ์ 2528 สืบต่อมาจนบัดนี้

อนึ่งเมื่อพระธรรมวรนายกเจ้าคณะภาค 12 มรณภาพแล้งหลวงพ่อได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าคณะภาค 12 เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2529 และได้รับพระบัญชาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะภาค 12 เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2530 ต่อมาได้รับพระบัญชาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 12 เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2542 สืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน

 

สมณศักดิ์

วันที่ 5 ธันวาคม 2501 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระปัญญามุนี

วันที่ 5 ธันวาคม 2507 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชธรรมเมธี

วันที่ 5 ธันวาคม 2530 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพรัตนโมลี

วันที่ 5 ธันวาคม 2535 เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมรัตนวิสุทธิ์

วันที่ 5 ธันวาคม 2540 เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฎที่ พระพุทธิวงศมุนี

 

เกียรติคุณพิเศษ

พระเดชพระคุณพระพุทธิวงศมุนี ได้ปฎิบัติศาสนกิจเป็นประโยชน์เกื้อกูล แก่ประเทศชาติศาสนามาอเนกนานัปการด้วยเหตุนี้สภาสถาบันราชภัฎอุบลราชธานี จึงมีมติเป็นเอกฉันท์มอบถวายปริญาครุศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาบริหารการศึกษาแด่หลวงพ่อ โดยมีพิธีมอบถวายปริญญาบัตร ณ พระอุโบสถวัดจักรวรรดิชาวาส ในวันที่ 24 เมษายน 2545 และในวันที่ 10 มิถุนายน พ. ศ.2546 มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรราชวิทยาลัย ได้มีมติถวายปริญญาพุทธศาสตรฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขารัฐศาสตร์แด่หลวงพ่อซึ่งเป็นพระสงฆ์รูปแรกของมหาวิทยาลัยนี้ โดยจัดพิธีการมอบถวายที่ศาลาเฉลิมพระเกียรติวัดจักรวรรดิราชาวาส

หลวงพ่อเป็นพระมหาเถรรัตตัญญู มีภูมิรู้ภูมิธรรมเป็นพระสงฆ์ผู้กล้าคิดกล้าทำ เป็นนักพัฒนาในด้านปกครอง การศึกษา การเผยแผ่ และการสาธารณูปการ ตามลักษณะรูปแบบของการจัดการปกครองของคณะสงฆ์ไทย ชีวิตส่วนตัวของหลวงพ่อเป็นไปอย่างราบเรียบง่าย ไม่สะสม แต่ในแง่ด้านการบริหารท่านกล้าคิด กล้าทำ ฉลาด องอาจกล้าหาญ เป็นสง่าราศีน่าเคารพยำเกรง แต่ในส่วนลึกของหัวใจแล้วหลวงพ่อท่านเป็นคนยุติธรรมมีเมตตาปรานี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่สอดส่องดูแลความเป็นอยู่ของพระภิกษุสามเณรผู้อยู่ใต้การปกครองทั่วถึงและสม่ำเสมอมา จึงเป็นที่รักเคารพบูชาในฐานะเป็นบุพพการีของศิษยานุศิษย์ และสาธุชนทั่วไปอย่างแท้จริง

 

วุฑฒิวงศ์

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.024804917971293 Mins