คราวนี้นอกจากฝึกให้เป็นคนอดทนต่อการกระทบกระทั่งแล้ว ยังต้องฝึกให้เป็นคนอดทนต่อการยั่วเย้า เย้ายวน หลวงพ่อเห็นอันตรายที่จะเกิดกับเด็กไทยในยุคนี้มากเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กเล็กระดับอนุบาล ระดับประถม คนที่นำอันตรายมาให้ไม่ใช่ใคร แม่ของเด็กนั้นเอง ขอยกตัวอย่าง
เขาทำอย่างไร เนื่องจากเขาเองมีอาชีพเป็นช่างเสริมสวยขายพวกเครื่องเมคอัพต่างๆ ลูกของเขากำลังจะเข้าอนุบาล เป็นเด็กผู้หญิง แม่เขาเขียนคิ้ว ทาปาก ทาเล็บ แต่งหน้าให้ลูกมาเต็มที่เลย เด็กยังไม่เข้าอนุบาลแต่งให้แกถึงขนาดนี้ ดูก็สวยน่ารักหรอก แต่ว่าเขาทำให้ลูกของเขาเป็นสาวเร็วกว่าปกติ เด็กที่คิดว่าตัวกำลังจะเป็นสาว ใจที่จะห่วงเรื่องการเรียนการทำงานจะหมดไป จะห่วงแต่เรื่องดัดจริต ทีนี้ละก็..ตาย! ปัญญาไม่เกิด จะเอาแต่กรี๊ดๆ กร๊าดๆ ไปดีไม่ดีลูกชายก็จะเป็นตุ๊ด ลูกสาวก็จะเป็นอะไรต่ออะไรให้กลุ้มกลัดไปหมด ไม่ได้ อย่าไปฝึกไปสอนแกอย่างนั้น ฆ่าลูกชัดๆ ฆ่าแบบเลือดเย็นโดยที่แม่เองก็ไม่รู้ตัว
ทีนี้มาดูสิ่งที่ยั่วเย้าเย้ายวนมนุษย์มีอะไรบ้าง
๑. เรื่องเพศนี่ยั่วเย้าเย้ายวนกันมาก จะต้องตัดไฟแต่ต้นลมเสียก่อน ตัดอย่างไร ก็เครื่องประดับประดาทั้งหลายแกยังเด็กอยู่ อย่าให้แกใช้เรื่องเขียนคิ้วทาปาก อย่าไปสอน ไม่เอา ถ้าจะสอนเรื่องสวยงามให้สอนว่าทำอย่างไรจึงจะสะอาด ทำอย่างไรจึงจะเรียบร้อย ไม่ใช่ทำอย่างไรจึงจะสวยเช้งวับคนมองจนเหลียวหลัง ของพรรค์นี้อย่าสอน เดี๋ยวมันเป็นหนุ่มเป็นสาวเร็วเกินกำหนดละก็ ไม่เอาหรอกเรื่องเรียนเรื่องงาน มันรู้จักแต่จะสวยอย่างเดียว ทีนี้คุณแม่นั่นแหละจะกลายเป็นขี้ข้าลูกตลอดชาติเพราะลูกทำงานไม่เป็น
๒. เรื่องอบายมุข เรื่องไพ่ เรื่องบุหรี่ เรื่องเหล้า อย่าให้ลูกไปแตะต้อง ขืนปล่อยให้แตะต้องนิสัยจะเสีย ความเห็นแก่ตัวจะมาก คนเราลองเล่นไพ่ที่ไหนก็ต้องมีการโกงที่นั่น เล่นไพ่ที่ไหนก็ต้องมีเหลี่ยมคูกันที่นั่น แล้วคำพูดเพ้อเจ้อ คำพูดประเภทเอาเปรียบ คำพูดประเภทเสียดสีมันจะไหลออกมาจากปากเองโดยอัตโนมัติ เพราะฉะนั้นอย่าให้ลูกไปแตะต้องเรื่องเหล่านี้