มีผู้ใจดีซื้อส้มชั้นดีคัดพิเศษ ๙ ลูก ราคา ๔๕ บาท แล้วจากนั้นเขาก็แจกให้กับคนกลุ่มหนึ่ง
ส้มผลแรก อยู่กับขอทาน
ขอทานผู้นั้นแกะทานแค่ครึ่งหนึ่ง แล้วอีกครึ่งหนึ่งก็ขว้างทิ้งไปอย่างไม่แยแส...และก็บ่นว่า "ทุเรศจัง ให้มาได้แค่ส้มผลเดียว"
ส้มผลที่สอง อยู่กับลูกของผู้ใจดี
ลูกของผู้ใจดีนั้นก็แกะทานทันที เมื่อทานหมดผลแล้ว ก็พูดว่า "ส้มนี อร่อยดีนะ"
ส้มผลที่สาม อยู่กับแม่ของผู้ใจดี
แม่ของผู้ใจดีนี้ นำส้มที่ได้ไปคั้นเป็นน้ำส้ม แล้วแช่ตู้เย็นไว้ เมื่อกระหาย จึงนำมาดื่ม และพูดว่า "แหม น้ำส้มนี้ชื่นใจดีจริง"
ส้มผลที่สี่ อยู่กับร้านขายของชำ
เจ้าของร้านขายของชำก็นำส้มผลนี้ไปคั้นเป็นน้ำส้ม เหยาะเกลือนิด เติมน้ำตาลหน่อย ปรุงได้ที่แล้วก็นำไปใส่แก้ว แช่ไว้ในตู้แช่ เมื่อมีคนเดินผ่านมาเปิดตู้แช่แล้วหยิบน้ำส้มแก้วนั้นมาดื่ม
เมื่อดื่มเสร็จ ก็นำแก้วเปล่านั้นวางไว้ที่ตู้แช่ และถามเจ้าของร้านขายของชำว่า "เท่าไหร่ครับ"
"๑๐ บาท ครับ" เจ้าของร้านขายของชำตอบ
ส้มผลที่ห้า อยู่กับพ่อค้าน้ำผลไม้
พ่อค้าน้ำผลไม้ก็นำส้มผลนี้ไปคั้นเป็นน้ำส้ม เหยาะเกลือนิด เติมน้ำตาลหน่อย ปรุงได้ที่แล้วก็นำไปใส่ขวดพลาสติก แช่ไว้ในตู้น้ำแข็งบนรถเข็น แล้วเดินเข็นจำหน่ายไปเรื่อยๆ มีคนหนึ่งเดินสวนมา เรียกให้หยุด เสร็จแล้วก็เปิดตู้น้ำแข็ง ก็ชี้เอาน้ำส้มขวดนั้น
คนขายหยิบน้ำส้มขวดนั้น เปิดหยิบหลอดพลาสติกเสียบให้หนึ่งหลอด แล้วส่งให้คนๆนั้น เขาถามว่า "เท่าไหร่ครับ"
"๒๐ บาท ครับ" พ่อค้าน้ำผลไม้ตอบ
คนๆ นั้นจ่ายเงินให้กับพ่อค้าน้ำผลไม้และก็ถือขวดพลาสติกบรรจุน้ำส้มนั้นเดินจากไป
ส้มผลที่หก อยู่กับร้านอาหารแห่งหนึ่งบนห้างสรรพสินค้าชั้นนำย่านลาดพร้าว
เจ้าของร้านอาหารแห่งนี้ก็นำส้มผลนี้ ไปคั้นเป็นน้ำส้ม เหยาะเกลือนิด เติมน้ำตาลหน่อย ปรุงได้ที่แล้วก็นำไปใส่แก้วแล้วแช่ไว้ในตู้เย็น วันนั้น มีหนุ่มสาวคู่หนึ่งเดินเข้ามา เจ้าของร้านจึงเชื้อเชิญและหาที่นั่งให้
ฝ่ายหญิง "น้ำส้มแก้วหนึ่งค่ะ"
ฝ่ายชาย "กาแฟร้อนครับ"
เจ้าของร้านจึงนำน้ำส้มที่คั้นไว้ นำมาใส่แก้วใบใหม่ แก้วใบนี้มีลักษณะทรงสูง รอบๆแก้ว มีรูปหัวใจ ดวงเล็กๆ น่ารักสีแดงติดอยู่ ภายในแก้วใบนั้นมีหลอดพลาสติกเสียบอยู่ ตรงปลายหลอดนั้นงอได้ แต่เจ้าของร้านไม่ได้มาเสริฟเอง แต่มีเด็กเสริฟใส่เสื้อเชิ๊ตสีขาว กระโปรงสีดำมาเสริฟแทน เมื่อทานเสร็จ เช็คบิล น้ำส้มแก้วนี้ ๕๐ บาท
ส้มผลที่เจ็ด อยู่กับภัตตาคารแห่งหนึ่งแถวริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ครั้งนี้ส้มผลนี้ถูกปรุงแต่งโดยบาร์เทนเดอร์มือหนึ่งของร้าน น้ำส้มคั้นที่ได้นั้นถูกปรุงแต่งและเก็บรักษาไว้ในตู้แช่อย่างดี และในวันนั้น มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในภัตตาคารนั้น และมีความประสงค์ที่จะลงเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อชมทิวทัศน์ในยามค่ำคืนด้วย
ในจำนวนรายการที่สั่งนั้น
ฝ่ายหญิง "น้ำส้มคั้นแก้วหนึ่งค่ะ" และแล้ว...น้ำส้มคั้นแก้วที่วางอยู่ตรงหน้าหญิงสาวผู้นั้น ถูกเสริฟโดยบริกรในชุดประจำร้านที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านนั้น แก้วที่ใช้เป็นทรงสูง มีก้านสำหรับจับ หลอดเป็นหลอดพลาสติกใสตรงปลายหลอดงอได้
สิ่งที่โดดเด่นอยู่ตรงที่บริเวณขอบปากแก้ว มีส้มที่ถูกฝานเป็นวงกลมเสียบอยู่ เมื่อเรือจะเข้าเทียบฝั่ง สิ่งที่ปรากฎในบิลนั้น ๑๐๐ บาท เป็นราคาของน้ำส้มแก้วนี้
ส้มผลที่แปด อยู่กับคลับเฮาซ์สุดหรูย่านปทุมธานี
และเช่นเดียวกัน ส้มผลนี้ก็ถูกทำเป็นน้ำส้มคั้นเหมือนกัน ถูกปรุงแต่งโดยบาร์เทนเดอร์มือหนึ่ง น้ำส้มคั้นที่ได้นั้นถูกปรุงแต่งและเก็บรักษาไว้ในตู้แช่อย่างดีเช่นเดียวกัน
ในค่ำคืนนั้นมีงานราตรีของกลุ่มสาวไฮโซกลุ่มหนึ่ง และหนึ่งในนั้นก็สั่ง..."น้ำส้มคั้นหนึ่งแก้วค่ะ" น้ำส้มคั้นแก้วนี้ ถูกเสริฟโดยบริกรหนุ่มหน้าตาคมสันคนหนึ่ง มาในชุดทักซิโดที่ตัดด้วยผ้ามูนอย่างดี สิ่งที่อยู่บนฝ่ามือของบริกรหนุ่มคนนั้น คือถาดสีเงิน
บนถาดนั้นมีแก้วน้ำส้มคั้นตั้งอยู่ แก้วที่บรรจุน้ำส้มคั้นใบนี้ เป็นแก้วคริสตัลทรงสูงเจียรนัยอย่างดี เป็นแก้วที่สั่งทำเป็นพิเศษ ตรงขอบปากแก้วมีส้มกลีบหนึ่งที่ถูกแกะสลักเป็นรูปนกเกาะอยู่ที่ปากแก้วนั้นหลอดที่ใช้เป็นหลอดแก้วใส
บนถาดใบนั้นที่มาพร้อมกับแก้วคริสตัล มีสลิปบัตรสมาชิกคลับเฮาซ์แนบมาด้วย.... ๓๐๐ บาท ...ก่อนที่หญิงผู้นั้นจะจรดปากกาเซ็นลงไป
ส้มผลที่เก้า อยู่กับโรงแรมแห่งหนึ่งย่านริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
และเช่นเดียวกัน ส้มผลนี้ถูกทำเป็นน้ำส้มคั้นเหมือนกัน และถูกปรุงแต่งโดยบาร์เทนเดอร์มือหนึ่ง น้ำส้มคั้นที่ได้นั้นถูกเก็บรักษาไว้ในตู้แช่อย่างดี ค่ำคืนนี้ ห้องอาหารชั้น Sky Top มีโอกาสต้อนรับ หนุ่มสาวชาวต่างประเทศคู่หนึ่ง ที่เลือกสถานที่แห่งนี้เป็นที่ดินเนอร์ เนื่องในโอกาสฉลองสมรส และเลือกเมืองไทยเป็นที่ฮันนีมูน
เมื่อหาที่นั่งในห้องอาหารแห่งนี้ได้แล้ว ณ มุมมองตรงนั้น สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเกาะรัตนโกสินทร์อย่างชัดเจน ตลอดจนสายน้ำที่ทอดยาวของลำน้ำเจ้าพระยา เมื่อทอดสายตามองยาวออกไป จะมองเห็นสะพานแขวนที่ถูกประดับประดาไปด้วยแสงไฟอย่างสวยงาม หลังจากพักผ่อนอิริยาบทสักพักหนึ่งแล้ว
ฝ่ายหญิงจึงกล่าวกับบริกรว่า.." Orangeade"
และฝ่ายชายว่า "American Expresso"
สักพักบริกรที่อยู่ในชุดไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นท่านนั้น กลับมาพร้อมกับกาแฟร้อนและ น้ำส้มคั้นแก้วหนึ่ง แก้วนั้นเป็นแก้วคริสตัลอย่างดี ตรงฐานแก้วและขอบปากแก้วเคลือบด้วยทอง ๑๘ เค ถัดจากฐานรองแก้วตรงขอบที่เคลือบทองขึ้นมา และถัดจากขอบที่เคลือบทองที่ปากแก้วลงมา ถูกเจียรนัยตกแต่งอย่างดี เมื่อแสงไฟตกกระทบถูกแก้วเจียรนัยใบนี้ จะเป็นประกายแวววับ ยิ่งภายในใช้บรรจุน้ำส้มคั้นด้วยแล้ว ยิ่งทำให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
ตรงกลางของแก้วใบนี้ มีตราสัญลักษณ์ของโรงแรมแห่งนี้ติดอยู่เป็นเคลือบทอง ๑๘ เค เช่นเดียวกัน หลอดที่ใช้เป็นหลอดแก้วใส ตรงปลายได้ขดเป็นเกลียว ตรงขอบปากแก้วมีดอกกล้วยไม้ที่มีชื่อว่า "ช้างเผือก" เสียบอยู่ เมื่อแสงไฟที่เป็นหลอด Black Light ส่องมากระทบกับ ช้างเผือก ดอกนี้ จะเกิดเป็นสีขาวเรืองๆ ขึ้นมาอย่างสวยงาม บริกรโค้งคำนับก่อนที่จะเสริฟ และโค้งคำนับเมื่อเสริฟเสร็จแล้ว
หลังจากที่หนุ่มสาวคู่นี้ดื่มด่ำกับบรรยากาศในค่ำคืนนี้พอสมควรแล้ว ฝ่ายชายจึงกล่าวกับบริกรขึ้นว่า " Cash Please" บริกรโค้งคำนับ ก่อนที่จะเดินไปที่แคชเชียร์ ...Ticket ที่ออกมานับ .... Orangeade ๕๐๐ Baht
ส้มเหมือนกัน ราคาโดยเฉลี่ยแล้วผลละ ๕ บาทเท่ากัน อาจจะเป็นพันธุ์เดียวกัน ต้นเดียวกัน อยู่กิ่งก้านเดียวกัน หรืออาจจะอยู่ช่อเดียวกันด้วยซ้ำไป แต่ทำไมมูลค่าของส้มถึงต่างกันมากมาย หรือว่าเป็นเพราะเวลาและสถานที่ต่างกัน
ช่วงเวลาและสถานการณ์ รวมถึงสถานที่ที่ต่างกันนั่นแหละ เป็นตัวกำหนดมูลค่าของส้ม และ....ของตัวคุณเอง..!!!!
บ่อยครั้งที่เราเคยท้อแท้กับงาน คนรอบข้าง ครอบครัว หรือแม้กระทั่ง กับตัวเราเอง แต่อยากจะบอกว่า... ขอให้อดทนเพราะช่วงเวลานี้...มันไม่ใช่ของเรา
ส้มนั้น ถูกคนเป็นผู้กำหนดจนทำให้มีมูลค่าแบบนั้น แล้วทำไม เราจึงไม่กำหนดมูลค่าของตัวเราขึ้นมาบ้างล่ะ
ณ วันนี้เราอาจจะมีมูลค่าไม่ถึงครึ่งของส้มที่ขอทานกินแล้วโยนทิ้งไป แต่เชื่อแน่ว่า หากเราได้ตัดสินใจแล้วว่า บนทางเดินเส้นนี้ เราได้ตัดสินใจที่จะเลือกเดินแล้ว จงตั้งมั่นและก้าวต่อไป อดทนเพื่อรอเวลาของเรา
ไม่แน่นะว่า.....มูลค่าของเราอาจจะมากมายเกินกว่าที่เราจะคาดคิดก็เป็นไปได้ ...............ใครจะไปรู้ล่ะ
เรื่องสั้น / รวมเรื่องสั้นประทับใจ