ความโหดร้ายของสงคราม

วันที่ 10 มีค. พ.ศ.2556

 

คำถามจากทางบ้าน:

ผมเป็นชาวอิรัก ได้มารู้จัก DMC จากคนไทย เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘ ซึ่งตอนนั้นใจผมที่กำลังห่อเหี่ยว หมดหวัง มีแต่ความทุกข์กังวล แต่ครั้งแรกที่ผมได้เห็นคุณครูไม่ใหญ่นั้น แม้ผมยังไม่รู้ว่าท่านคือใคร ยังไม่เข้าใจความหมายที่ท่านพูด แต่เพียงแค่เห็นใบหน้าของท่าน ผมกลับรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก คลายความโศกเศร้าอย่างอัศจรรย์

ครอบครัวของผม พ่อแม่มีลูก ๑๕ คน แต่เสียชีวิตไป ๗ เหลือ ๘ คน หญิง ๔ คน ชาย ๔ คน ผมเป็นลูกคนที่ ๕

คุณพ่อของผมเป็นคนนิสัยดี มีน้ำใจช่วยเหลือคนอื่น ท่านนับถือศาสนาอิสลามเคร่งครัดมาก ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ละหมาดวันละ ๕ เวลา และก่อนละหมาดนั้น ท่านจะต้องทำความสะอาดล้างมือล้างหน้าก่อนทุกครั้ง ถ้าไปมัสยิดก็ต้องอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายก่อน

คุณพ่อเป็นต้นแบบปฏิบัติพิธีทางศาสนาให้แก่ลูกๆ ดูเป็นตัวอย่าง และสอนให้ลูกๆ ทุกคนเป็นคนดีด้วย นอกจากนี้ คุณพ่อก็ยังเป็นหลักในการทำมาหากินเลี้ยงครอบครัว ท่านมีอาชีพขุดเจาะบ่อน้ำมัน ซึ่งก็มีรายได้ดีมากในช่วงนั้น ทำให้ฐานะของครอบครัวไม่อดอยาก

จนปี ๒๕๒๓ ทางรัฐบาลทำสงครามในประเทศ ซึ่งเมื่อสงครามเกิดขึ้นอย่างนี้หากครอบครัวไหนไม่เห็นด้วยกับศาสนาของรัฐบาล กับท่านผู้นำรัฐบาล หัวหน้าครอบครัวจะถูกตัดคอ ปีนั้นก็มีคนตาย ๒ ล้านคน ๑ ในนั้นก็คือคุณพ่อของผม

คุณแม่ของผม เป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณพ่อ ซึ่งทางศาสนาบังคับให้ญาติแต่งงานกันเอง คุณแม่ถูกญาติผู้ใหญ่ให้หมั้นกับคุณพ่อตั้งแต่คุณแม่ยังเด็กๆ แม้โตขึ้นทั้งสองจะรักหรือไม่รักกัน อย่างไรก็ต้องแต่งงานกัน ซึ่งมีเหตุการณ์ที่บางครอบครัว ลูกสาวไปรักกับคนที่ไม่ได้หมั้นหมาย หรือไปแต่งงานกับศาสนาอื่นหรือศาสนาเดียวกัน แต่คนละนิกาย โทษของเธอก็คือ ถูกฆ่าทิ้ง เพราะถือว่าเธอทำให้ครอบครัวสกปรก การฆ่าเธอทิ้งจึงถือว่าเป็นเพียงการทำให้บ้านสะอาด

คุณแม่เป็นคนเคร่งศาสนา เชื่อฟังพ่อแม่ เมื่อท่านอายุได้ ๑๘ ปี ก็เข้าพิธีแต่งงานกับคุณพ่อ ซึ่งขณะนั้นคุณพ่อมีอายุ ๒๖ ปี ห่างกันถึง ๘ ปี แต่พออยู่กินด้วยกันแล้ว ท่านทั้งสองก็รักกันมาก เลี้ยงดูลูกๆ ทุกคนไม่ให้อดอยาก คุณพ่อมีความรับผิดชอบต่อครอบครัวสูง ให้คุณแม่เป็นแม่ศรีเรือน คอยดูแลลูกๆ เพียงอย่างเดียว

แต่พอเกิดสงคราม คุณพ่อก็ถูกทางการจับไปตัดคอ ทำให้ลูกตัวเล็กๆ หลายคนรวมถึงคุณแม่ ต้องถูกทางการสั่งให้เวียนกันเข้าออกคุกทุก ๓ เดือน พวกเราอยู่กินกันอย่างอดๆ อยากๆ ลูกบางคนก็ตายไปในที่สุด

ซึ่งเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆ ได้ถาโถมเข้าไปในจิตใจของคุณแม่ นับตั้งแต่สามี และลูก ๗ คน รวมทั้งญาติหลายคนต้องมาตายจากไป ซ้ำร้ายประเทศชาติบ้านเมือง ก็ระส่ำระสายประชาชนอยู่ไม่เป็นสุข ทหารถือปืนเดินกันเกลื่อนกลาด จับผู้คนไปทำร้ายและขังคุกเป็นว่าเล่น

บุพกรรมใดทำให้คุณพ่อจึงมาเกิดในอิรักและนับถือศาสนาอิสลาม
กรรมใดทำให้ถูกตัดคอ ท่านตายแล้วไปไหน มีสภาพเป็นอย่างไรผมจะช่วยท่านได้อย่างไร

กรรมใดคุณแม่จึงมาเกิดในอิรัก และนับถือศาสนาอิสลาม ทำไมจึงต้องแต่งงานกับคุณพ่อซึ่งเป็นญาติ ทำไมในภาวะสงครามคุณแม่ถูกขังคุก จนต้องเป็นโรคซึมเศร้า

 


ที่นี่มีคำตอบ:

พ่อมาเกิดในอิรักและนับถือศาสนาอิสลามเพราะ ในอดีตหลายๆ ชาติ ท่านได้นับถือศาสนาเทวนิยมคล้ายชาตินี้ แต่ว่ามีชื่อไปอีกอย่างหนึ่ง บางชาติเมื่อไปเกิดแล้วก็ได้มีส่วนในการทำสงครามต่างเผ่าที่มีความเชื่อต่างกัน ด้วยเหตุนี้จึงได้มาเกิดในประเทศที่นับถือศาสนาเทวนิยม และมีสงครามรบพุ่งกันในประเทศ

ท่านถูกตัดคอ เพราะ ในอดีตเคยตัดศีรษะของสัตว์มากมาย เพื่อบูชายัญเทพเจ้าที่ตนนับถือ วิบากกรรมนี้มาส่งผล

ในความเชื่อเหล่านี้ที่นับถือเทวนิยมจะมีทุกกัปเลย แปลกเหมือนกันนะ ถ้าไม่ใช่สุญญกัปก็จะมีพระพุทธศาสนา กัป ก็คือช่วงระยะเวลาโลกเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็เสื่อมสลายไปครั้งหนึ่ง ซึ่งระยะเวลายาวนานมาก

ก่อนจะถูกตัดคอ ท่านกลัวมาก ได้พยายามนึกถึงพระเจ้าเมื่อผ่านความทุกข์ทรมานจากการถูกตัดคอแล้ว วิบากกรรมที่เคย ฆ่าสัตว์ตัดคอ บูชายัญหลายๆ ชาติ ก็ยังส่งผลให้กายละเอียดของท่านคอก็ยังขาดอยู่

เราเคยฟังมาหลายเคสว่า คนขาด้วนแต่ตายแล้วกายละเอียดขาไม่ด้วน ดีใจว่าขาหาย นั่นประเภทวิบากกรรมเบาบาง แต่นี่วิบากกรรมมันเยอะมารวมส่งผล แม้เป็นกายละเอียดคอก็ยังขาดอยู่ แล้วท่านเอามือ ๒ มือประคองหัวที่ขาดโดยอัตโนมัติ วิ่งหนีอย่างสุดชีวิต แล้วกรรมดังกล่าวก็ดึงดูดให้ไปรวมกับพวกที่มีกรรมเสมอกับท่าน ที่ถูกตัดหัวก็ไปรวมกัน ตัดหลายคนนะ ไม่ได้โดนตัดแค่คนเดียว ที่มีกรรมเสมอกันก็ไปรวมกัน

ส่วนพวกที่ตายพร้อมกับท่าน หลังจากที่ถูกตัดคอไปแล้ว ต่างก็ไปตามวิบากกรรมของตน บ้างก็ไปสู่สุคติก็มี คือ พวกที่ตอนเป็นมนุษย์เคยสงเคราะห์เพื่อนมนุษย์ไว้ พวกนี้ก็จะไปสู่สุคติ อยู่ในระดับของ ภุมเทวา รุกขเทวา อากาสเทวา แถวๆ นั้น อย่างมากก็ไปสวรรค์ชั้นจาตุฯ ป่าหิมพานต์อะไรอย่างนั้น บ้างก็ไปสู่ทุคติ คือ พวกที่ตอนเป็นมนุษย์ทำ บาปไว้โดยไม่รู้ว่าบาป บางคนก็ไปเกิดเป็นสัตว์ ทันทีที่คอขาด กายละเอียดก็ไปเข้าท้องสัตว์ที่ตัวไปตัดคอไว้ก็มี บ้างก็ไปเกิดเป็นมนุษย์ เป็นต้น

ตอนนี้ท่านก็ยังเป็นกายละเอียดถือหัวอยู่ มีความหิวโหยทุกข์ทรมาน ท่านและผู้มีกรรมเสมอท่านที่ถือหัวอยู่ ได้อยู่ในความดูแลของยักษ์ที่เป็นเจ้าหน้าที่เขตในบริเวณที่กำหนดไว้เป็นเจ้าหน้าที่เขตแถวๆ นั้น หัวหน้าเขตเขาสั่งมา พอตายปุ๊บก็เอาไปรวมในบริเวณที่เขากำหนดเอาไว้ว่า ต้องอยู่ตรงนี้ โดยก็ยังมีความเชื่อเดิมฝังอยู่ในใจว่า สักวันพระเจ้าก็จะต้องมาโปรด แต่ก็ยังไม่มาสักที

ดังนั้น ระหว่างที่พระเจ้าท่านยังไม่มา ลูกก็จะต้องทำบุญในพระพุทธศาสนา ทั้งทาน ศีลภาวนา เป็นต้น แล้วอุทิศบุญดังกล่าวไปให้ท่านบ่อยๆ ก็จะค่อยๆ ดีขึ้น ที่ถือหัวก็จะได้มีหัววื้ดขึ้นมา และอะไรทุกอย่างก็จะดีขึ้น

เพราะฉะนั้น อย่ารอคอยให้พระเจ้ามาโปรดเลย เราโปรดท่านก่อนดีกว่า เราอย่าอยู่ว่างๆ เลย ระหว่างที่ท่านรอคอย เราทำบุญในพระพุทธศาสนาแล้วอุทิศส่งไปให้ท่าน แต่อย่าไปฆ่าสัตว์เพื่อไปบริจาคนะ อย่างนั้นโปรดสัตว์ได้บาป คือ คนอื่นที่เขาไม่ได้ฆ่าเขากิน เขาก็ไม่มีบาป แต่เราฆ่า เราก็จะมีบุญปนบาป คือ ทำทานปนบาป อานิสงส์มีกินแต่ถูกตัดคอ อย่างนี้เอาไหมล่ะ

คุณแม่เกิดมาในอิรักและนับถือศาสนาอิสลาม เพราะเคยนับถือศาสนาเทวนิยมแบบพ่อมาหลายชาติ และได้มีความยินดีในการทำสงครามระหว่างเผ่าที่มีความเชื่อต่างกันเช่นเดียวกับพ่อ แต่คนละยุค แต่มีกรรมเสมอกันก็ดูดเข้าหากันต้องแต่งงานกับคุณพ่อซึ่งเป็นญาติ เพราะในอดีตหลายๆ ชาติ ท่านทั้งสองได้อยู่ในเผ่าที่นับถือเทวนิยม แล้วก็เข่นฆ่ากันระหว่างเผ่าในยุคนั้นจึงไม่นิยมให้ไปแต่งงานระหว่างเผ่าอื่นเพื่อป้องกันความลับรั่วไหล ด้วยความคุ้นนี้จึงถูกดึงดูดให้มาอยู่ในหมู่ความเชื่อดังนี้ แต่ว่าระบบใหญ่ขึ้นเป็นประเทศ ไม่ใช่เป็นเผ่า

ในภาวะสงคราม คุณแม่ถูกขังคุกจนเป็นโรคซึมเศร้า เพราะเป็นผลพวงจากวิบากกรรมดังกล่าวนั่นแหละ ที่ฆ่ากันระหว่างเผ่าที่เคยยินดีอนุโมทนาบาป สนับสนุนในการทำสงครามระหว่างเผ่าที่มีความเชื่อต่างกันมาส่งผล เพราะเผ่าอื่นเมื่อถูกรุกรานหรือทำสงครามก็จะมีการพลัดพรากจากคนรัก ของรัก ถูกจับขังบ้าง และก็ซึมเศร้าอย่างนี้ ตัวก็เลยมาโดนบ้าง แค่ยินดีอนุโมทนาสนับสนุน

เพราะฉะนั้น ความเชื่อต่างกันเป็นเหตุให้ทะเลาะกัน พุทธมีความเชื่อต่างกันก็ทะเลาะกัน คริสต์มีความเชื่อต่างกันก็ทะเลาะกัน อิสลามมีความเชื่อต่างกันก็ทะเลาะกัน แม้ความเชื่อเดียวกันแต่ความคิดต่างกันก็ทะเลาะกัน อยู่ในบ้านเดียวกันนี่แหละคนเคยรักกันระหว่างสามีภรรยา พอความคิดต่างกันก็ทะเลาะกันอีกแล้ว อะไรอยู่เบื้องหลังตรงนี้ น่าคิดนะ



 

ที่นี่มีคำตอบ ฉบับมินิ เล่ม ๑ เรื่องแปลกแต่จริง
โดย คุณครูไม่ใหญ่
๒๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.021725682417552 Mins