คำถาม.. ปัจจุบัน การพนันกำลังระบาดอยู่ในหมู่คนไทย ตั้งแต่ผู้ใหญ่ไปจนกระทั่งถึงเด็กๆ อยากขอความเมตตาหลวงพ่อ ช่วยชี้ถึงโทษภัยของการพนันว่ามีอย่างไรบ้าง เพื่อไม่ให้คนไทยหลงไปติดการพนันเพิ่มขึ้นเจ้าค่ะ ?
คำตอบ.. เรื่องของการพนันนั้น ไม่ว่าจะเป็นนักพนันมืออาชีพ หรือว่าพนันแบบเล่นๆ นิดๆ หน่อยๆ เช่น ว่างๆ ก็มานั่งเล่นการพนันกันในกลุ่มพรรคพวกเพื่อนฝูง ไม่ได้คิดจะเอาร่ำเอารวยอะไรก็ตาม
.....การพนันทั้ง ๒ อย่างนี้ ล้วนมีความเป็นโทษภัยอันมหันต์อยู่ในตัวทั้งนั้น ยกตัวอย่างโทษภัยที่เกิดจากการพนันของนักพนันมืออาชีพก่อนก็แล้วกัน
.....นักพนันทุกคน เมื่อลงมือเล่นการพนันแล้ว ไม่มีใครคิดหรอกว่าตนจะเล่นเสีย ทุกคนคิดแต่ว่าจะต้องเป็นผู้ที่เล่นได้ และจะเล่นได้ด้วยวิธีสกปรกอย่างไรก็ยอม ขอเพียงให้ได้เท่านั้น
.....ส่วนอีกมุมหนึ่ง ก็คิดจะให้คนอื่นฉิบหายให้หมด เพราะเมื่อมีคนได้ก็ต้องมีคนเสีย แล้วใครล่ะที่จะเป็นคนเสีย ก็ทุกคนที่มาเล่นในวงนั้นนั่นเองต้องเสีย เขาจึงจะเป็นคนได้ คนที่คิดให้คนอื่นฉิบหายอยู่ตลอดเวลาอย่างนี้ จะเรียกว่าคนอะไร ก็ต้องเรียกว่าคนฉิบหาย เพราะในใจของคน ๆ นั้น คิดแต่จะให้ความฉิบหายเกิดขึ้นกับทุกคนที่มาร่วมวงพนันกับเขา ความคิดที่จะให้คนอื่นฉิบหายอยู่ตลอดเวลา จะคอยบีบคั้นให้ตัวเองเกิดความเครียด แล้วกลายเป็นความฉิบหายต่อสุขภาพ แถมสติปัญญาที่จะคิดในเรื่องดี ๆ ก็จะพลอยฉิบหายตามไปด้วย เพราะว่าในใจของเขา เรื่องที่ดี ๆ เข้าไม่ได้เสียแล้ว เข้าได้แต่เรื่องร้าย ๆ เพราะฉะนั้น ในวงการพนัน จึงไม่มีใครเลยที่จะมีหน้าตาที่ผ่องใส หรือว่ามีใจที่ใส ๆ
.....สิ่งที่หลวงพ่ออยากจะเตือนนักการพนันทั้งหลายก็คือ เมื่อในใจของคุณมีแต่ความคิดที่จะให้คนอื่นเขาฉิบหายอย่างนี้ ก็ให้รู้ไว้ด้วยว่า ใจของคุณจะขุ่นอยู่เป็นประจำ และพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ไปทรงค้นพบมาอีกว่า พวกที่เล่นการพนันเป็นอาจิณ ละโลกแล้วต้องไปตกนรกขุมที่ ๖ ซึ่งลึกและมีโทษหนักกว่าพวกที่ผิดศีล ๕ เสียอีก คุณอาจจะไม่เชื่อ แต่ถึงจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ควรรับฟังเอาไว้ เพราะว่าคนที่ดื่มเหล้ายังมีเวลาสร่าง แต่คนที่เล่นการพนันไม่มีเวลาสร่าง มีแต่จะนึกให้คนอื่นฉิบหายอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้น อย่าได้ดูเบากันเป็นอันขาด แล้วถ้าอยากจะรู้ว่า คนฉิบหายในโลกนี้อยู่ที่ไหน ไม่ว่าจะเป็นนักพนันบอล หรือว่าเป็นนักพนันอะไรก็ตาม ก็ให้ไปดูหน้าตัวเองในกระจก คนฉิบหายเหล่านี้นี่แหละ เมื่อไปตั้งวงพนันที่ไหน ก็เป็นตัวนำความฉิบหาย ให้เกิดแก่เศรษฐกิจของบ้านนั้น เมืองนั้น ประเทศนั้น
.....เพราะฉะนั้น ผู้ที่คิดจะเอาคาสิโนเข้ามาในเมืองไทย ขอให้รู้ไว้ด้วยว่า แม้ความคิดนั้นก็เป็นความคิดฉิบหาย คนที่คิดก็เป็นคนฉิบหาย ถ้าใครทำตามก็เป็นคนฉิบหายตามเขาไปด้วย และทั้งหมดนี้ก็จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศชาติ ต้องฉิบหายตามไปหมดเลย
.....มองภาพตรงนี้ให้ชัดๆ แล้วจะรู้ว่า นรกกำลังรอคุณอยู่นะ พ่อนักการพนันทั้งหลาย โทษภัยที่เกิดจากการเล่นการพนันของนักพนันมือสมัครเล่น
.....อยากจะฝากไว้สำหรับผู้ที่อยู่ว่างๆ ไม่รู้จะทำอะไร มาเล่นไพ่กันเถอะ ไม่ต้องมาก แค่กินข้าวกันคนละมื้อเท่านั้นเอง หลวงพ่อเคยเห็นมาเยอะแล้ว ทีแรกใครแพ้ก็แค่เลี้ยงข้าวกัน หนักเข้าก็ลงท้ายด้วยการเป็นนักพนันมืออาชีพกันไปไม่น้อย หรือถึงแม้ว่าคุณจะสามารถห้ามตัวเองได้ ว่าจะไม่เป็นนักการพนันมืออาชีพแน่นอน แต่รู้ไว้ด้วยว่าทุกครั้งที่เล่นการพนันนั้น
๑.คุณได้เพาะนิสัยความมีเหลี่ยมมีคูให้เกิดขึ้นมาแล้ว ความซื่อสัตย์ที่เคยมีอยู่ในตัว ที่พ่อแม่ ปู่ย่า ตาทวด อบรมให้ เริ่มตุปัดตุเป๋ไปแล้ว ความไม่ซื่อ ความมีเหลี่ยมมีคู จะเกิดขึ้นมาแทนที่
๒.พร้อมกันนั้นวาจาเพ้อเจ้อก็ตามมา เพราะถ้าไม่พูดเพ้อเจ้อ ไปแหย่ ไปยั่วยุ ให้เขาโกรธ ให้เขาเสียอารมณ์ เขาก็ไม่ทิ้งไพ่ใบที่คุณกำลังรออยู่มาให้หรอก เพราะฉะนั้น คุณจึงกลายเป็นคนที่มีเหลี่ยมมีคู ไม่ซื่อตรง มีวาจาเพ้อเจ้อ ไม่อยู่กับร่องกับรอย โดยที่ตัวคุณเองไม่ได้เฉลียวใจเลย
๓.ปัญญาของคุณก็จะเริ่มเป็นปัญญาที่ไม่บริสุทธิ์ เพราะเป็นปัญญาที่มีเหลี่ยมมีคูเสียแล้ว
๔.คุณต้องเสียเวลา เวลาที่จะเอาไปทำความดี คุณก็ไม่ได้ทำ แต่กลับเอาเวลานั้นไปเล่นการพนัน เพราะฉะนั้น ความดีใหม่ก็ไม่งอกเงย ความดีเก่าก็มีแต่จะสูญไป ๆ
๕.ไม่ว่าจะเป็นวงการพนันสมัครเล่น หรือว่าอาชีพ ลองได้ลงมือเล่น โดยเฉพาะในวงไพ่ ย่อมทำให้สุขภาพเสียทั้งนั้น เช่น เวลารอเอาชนะกัน รอน็อกกัน ก็ต้องรอให้เขาทิ้งไพ่ใบสำคัญมาให้ จึงต้องอั้นปัสสาวะ อั้นอุจจาระกันอยู่นั่นแล้ว ทำให้ทั้งกระเพาะ ทั้งลำไส้ พังจนกระทั่งไม่รู้จะพังอย่างไร
.....สุขภาพกายเสียยังพอว่า สุขภาพจิตก็เป็นอย่างที่ว่ามาตลอดนั่นแหละ แถมยังมีนรกรอท่าอยู่อีก ยมบาลกวักมือเรียกแล้วนะ เพราะฉะนั้น ทั้งนักพนันมืออาชีพ นักพนันมือสมัครเล่น เลิกกันเสียเถอะ