คุณธรรมของหลวงพ่อทัตตชีโว
19 ตุลาคม 2531
.....จนคุณยายท่านยังชมว่า "หลวงพ่อไม่เคยเถียงยายเลย" และด้วยคุณธรรมข้อนี้เอง ที่ไม่เคยเถียงใคร บวกกับความอ่อนน้อม ถ่อมตน ไม่ว่าหลวงพ่อจะไปที่ใดก็ตาม ก็จะมีแต่คนรักและเมตตา ถ่ายทอดความรู้ให้อย่างเต็มที่
.....ด้วยความที่หลวงพ่อรู้ตัวว่า หลวงพ่อมิใช่คนเก่ง มิใช่คนฉลาด คนที่เก่งและฉลาด กว่าหลวงพ่อยังมีอีกมาก หลวงพ่อจึงต้องมาสำรวจตัวเอง และหาความรู้เพิ่มด้วยการ
๑. ต้องมีความเคารพ (โดยไม่เคยเถียงครู) และมีความอ่อนน้อม ถ่อมตน
๒. ต้องมีความอดทน ต่อการกระทบกระทั่ง หลวงพ่อจะไม่แสดง ความไม่พอใจใคร ใด ๆ ออกนอกหน้า จึงได้รับหน้าที่ ประสานกลุ่มต่าง ๆ มาตลอด แม้จะผิดพลาดบ้าง เขา (ทุกคน) ก็ยังรักหลวงพ่อ และพร้อมจะให้อภัยเสมอ
.....หลวงพ่อธัมมะ และหลวงพ่อเอง ทำงานร่วมกันมากว่า ๒๐ ปี ถามว่า มีการกระทบกระทั่ง กันบ้างไหม? มี แต่ไม่เคยทะเลาะกันเลย เพราะท่านเป็นครูของหลวงพ่อ ท่านย่อมอยู่เหนือคำวิจารณ์ใด ๆ เหนือความน้อยใจทั้งมวล จึงอดได้ ยิ้มได้ และพร้อมรับความรู้ จากท่านได้เสมอ
๓. ต้องมีความอดทน ต่อการยั่วเย้า เย้ายวน ทั้งหลาย (๓ ส.) ในละเอียด ๆ ก็คือ ความอยาก อยากสบาย อยากเพลิดเพลิน …ฯลฯ
.....ซึ่งสิ่งเหล่านี้หลวงพ่อไม่มี ส่วนรวมให้อะไรมา หลวงพ่อก็พอใจเช่นนั้น ไม่ฟุ้งเฟ้อ หรือแสวงหาให้แปลกจากคนอื่น หลวงพ่อเลยไม่เคยถูกอิจฉา หรือหมั่นไส้เลย
.....เวลาไปไหน หลวงพ่อไม่ค่อย อยากจะให้ใครรู้จัก จะทำตัวให้ลีบเล็กที่สุด ให้เหมาะแก่ การเป็นนักปฏิบัติธรรม (ไม่โอ้อวด คุยโม้) หลวงพ่อจึงมีตำแหน่งเดียว คือ รองเจ้าอาวาส วัดพระธรรมกาย และสิ่งที่วัดอื่น ๆ ไม่มีคือ พระในวัดไม่เคยคิด แย่งตำแหน่งเจ้าอาวาสกันเลย และก็ไม่มีใครอยากดัง
.....แม้กระทั่งคุณยายเอง พอถูกถามว่า วัดพระธรรมกายดีอย่างไร? ทำอย่างไรวัดจึงดัง? คุณยายท่านจะตอบว่า “พระยายเก่ง พระบริหารงานดี ยายเป็นศิษย์วัด ได้แต่ทำตามท่าน”
.....ครั้นถามพระ พระก็จะตอบว่า “เพราะยายอบรมมาดี” ทั้งนี้เพราะ เราเกี่ยงกันรับความดี วัดเราจึงเจริญและขยายในเวลาอันรวดเร็ว เพราะไม่มีใครอวดตัวว่า ข้าเก่ง แม้แต่คนเดียว วัดจึงเจริญ