กรณีตัวอย่างการทำหน้าที่กัลยาณมิตร

วันที่ 02 เมย. พ.ศ.2558

กรณีตัวอย่างการทำหน้าที่กัลยาณมิตร

เรื่องเล่าจากคุณเล็ก แปดริ้ว

     ” ดิฉันทำงานเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง และในระหว่างปี 2540 ถึง 2541 ที่ผ่านมานั้น ก็จะมีข่าว เกี่ยวกับวัดพระธรรมกายตามสื่อต่างๆทำให้เป็นหัวข้อวิพากษ์วิจารณ์ของเพื่อนๆที่ทำงานอยู่ด้วยกันโดยเฉพาะเวลาหัวหน้าแผนกไม่อยู่ในห้องทำงานแต่ว่าดิฉันก็ได้แต่รับฟังพร้อมทั้งเก็บข้อมูลที่เพื่อนๆพูดกันมาเรื่อยๆ และก็ไม่ได้ไปตอบโต้อะไรด้วย เพราะว่าปกติดิฉันเป็นคนไม่ชอบคุยกับใครหรือชอบนินทาใครๆ และโดยส่วนตัวก็เป็นคนชอบเดินทางแสวงหาที่ปฎิบัติธรรมตามสถานที่ต่างๆซึ่งเพื่อนๆในที่ทำงานก็รู้จักดี

เรื่องที่เพื่อนๆเอามาพูดกัน

   ยกตัวอย่าง เช่น วัดนี้รวยแล้ว จ้างคน จ้างพระภิกษุมาวัด หลวงพ่อเจ้าอาวาสก็หล่อมาก ผิวพรรณก็งาม เพราะว่าท่านอาบน้ำแร่แช่น้ำนมมา หรือจะฉันอาหารก็ต้องสั่งจากภัตตาคารหรูๆ หรือบางคนก็บอกว่า พระในวัดนี้จะต้องมีการศึกษาสูงต้องผิวพรรณวรรณะดีถึงจะมาบวชได้เพราะว่าท่านจะใช้ความงามใช้สติปัญญาที่เรียนมาเข้าทำนองว่ามาเกลี้ยกล่อมหลอกลวงมาชักชวนให้ประชาชนทำบุญ หรือหลงเคลิ้มจนตามท่านมาที่วัด

  ในที่ทำงานก็มีเพื่อนที่สนิทอีกคนหนึ่งที่ชอบการปฎิบัติธรรมเหมือนกันแต่ว่าไปวัดพระธรรมกายเคยมาชวนเหมือนกันก็มาบอกว่าวัดดีอย่างนั้นดีอย่างนี้สารพัดพอได้ฟังก็หัวเราะใส่เขาแบบไม่เกรงใจพร้อมทั้งบอกเพื่อนคนนั้นไปว่า “เธอจะไปไหนก็ไปเถอะหัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ไปหรอกวัดนี้” แล้วก็ถามเชิงดูถูกไปว่า “วัดนี้ให้ค่าจ้างเธอไปวัดเท่าไหร่ล่ะ” ซึ่งคำถามนี้ทำให้เขาโกรธมากจนเขาพูดสวนกลับมาว่า “เสียดายนะที่มึงเป็นผู้หญิงถ้าเป็นผู้ชายซะหน่อย กูต่อยปากมึงแน่”  แล้วก็เดินจากไปหลังจากนั้นดิฉันก็ยังเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่ต่างๆเช่นเดิมŽ 

พบกัลยาณมิตร

     หมู่บ้านที่ดิฉันอยู่นั้นมีผู้ใหญ่บ้านท่านหนึ่งยังอยู่วัยหนุ่มเป็นคนดีมีน้ำใจงามเป็นคนใจบุญ ชอบช่วยเหลือลูกบ้านทุกครอบครัว เช่น กลางดึกคืนหนึ่งมีคนในหมู่บ้านไม่สบายแล้วรถในหมู่บ้านก็หายาก เพราะว่าไม่ค่อยจะมีใครใช้กันแต่พอพาคนป่วยไปหาผู้ใหญ่บ้านท่านก็ให้ช่วยเหลือรีบขับรถพาไปหาหมอ ทันทีเลยโดยที่ไม่ถามเลยว่ามีค่าจ้างหรือค่ารถให้เขาหรือไม่ก็รู้สึกประทับผู้ใหญ่บ้านคนนี้มาก

  มีอยู่วันหนึ่งซึ่งเป็นวันอาทิตย์ในเวลาเช้าเห็นผู้ใหญ่บ้านเดินมาเรียกดิฉันที่ประตูรั้วบ้านว่าบอกว่าจะชวนไปเที่ยวแต่ดิฉันก็ไม่ได้คุยอะไรด้วย เพราะกำลัง ซักผ้าอยู่พอซักผ้าเสร็จน้องสาวรีบเข้ามาหาพร้อมกับพูดเสียงดังใส่ดิฉันว่ารู้ไหมเขาจะชวนไปไหนŽข้าพเจ้าก็ตอบเสียงดังกลับไปว่า รู้เขาจะพาไปวัดพระธรรมกายŽแล้วน้องก็บอกอีกว่า ระวังนะไปที่นี่หลงทุกคนหมดตัว และถ้าจะไปต้องเอาน้ำติดตัวไปกินด้วยนะ เพราะมีคนเขาว่า กินน้ำที่วัดแล้วจะหลงŽ

เดินทางมาวัดพระธรรมกายครั้งแรก

     เมื่อเดินทางมาวัดก็เอาขวดใส่น้ำมาจากบ้านแล้วพกติดตัวตลอด และไม่ดื่มน้ำของวัด แม้จะมีคนมาชวนก็ตามแม้แต่ข้าวที่วัดจัดให้ก็ไม่กิน เพราะยังไม่ไว้ใจใครแต่ก็อดทึ่งกับศาลาที่กว้างขวางใหญ่โต เพราะ ตลอดชีวิตไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน และก็คิดอีกว่าคนที่มานั่งเต็มศาลานี้คงถูกจ้างมาแน่นอน

     พอถึงช่วงนั่งสมาธิก็หลับตาไปได้สักครู่ก็รู้สึกสงสัยทั้งๆที่หลับตาอยู่ว่าคนไปไหนกันหมดแล้ว ทิ้งเราไว้แล้วแน่เลย เพราะว่าเงียบมากก็เลยหรี่ตาดูทั้งซ้ายขวา ก็เห็นคนนั่งสมาธิอยู่ก็สงสัยว่าทำไมเขาไม่พูดกัน เพราะว่าคุ้นเคยเวลาที่ไปเคยทำบุญ ไปปฎิบัติธรรมที่ต่างๆคนจะชอบคุยกัน แม้แต่เวลาพระเทศน์ก็จะคุยแข่งกับพระด้วยก็ทำให้อดทึ่งไม่ได้ว่าวัดนี้ฝึกคนให้เงียบได้ขนาดนี้เชียวหรือแต่ก็ไม่กล้าดื่มน้ำของวัดเช่นกัน เพราะว่ากลัวหลงวัด

  พอช่วงพักเที่ยงก็เดินไปท้ายสภาธรรมกายสากลก็ไปยืนมองไปรอบๆทำให้อดทึ่งอีกไม่ได้ว่าทำไมที่นี่สะอาดจังเลย แล้วก็ไม่เห็นมีคนทำความสะอาด ด้วยแล้วพอดีเหลือบไปเห็นหลอดดูดน้ำหล่นที่พื้นก็ก้มไปเก็บขึ้นมาจังหวะนั้นมีผู้หญิงหน้าตารูปร่างดีสวมชุดอุบาสิกาเดินผ่านมาพอเห็นชุดที่เขาสวมนั้นก็รู้สึกชอบมาก เพราะว่าดูแล้วสวยสะอาด เหมือนเป็นชุดนางฟ้าทีเดียว แล้วอุบาสิกาคนนั้นก็เดินมาหาแล้ว บอกว่า ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะŽพร้อมส่งสายตามาที่ดิฉันแล้วดิฉันก็ส่งสายตาตอบซึ่งเขาก็คงจะรู้ว่าดิฉันกำลังเยาะเย้ยเขา เพราะตอนนั้นคิดในใจว่าหน้าตาของบุญวัดนี้ยาวอย่างกับหลอดดูดน้ำหรือนี่จนคิดว่าอุบาสิกาคนนั้นจับความรู้สึกเราได้จึงพูดแบบยิ้มๆกับดิฉันว่าที่ดิฉันช่วยทำสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ให้สะอาดก็จะได้รับบุญตรงนี้เขากล่าว อนุโมทนาบุญก็จะได้มีส่วนในบุญนั้นด้วยพอได้ฟังอย่างนั้นก็รู้สึกประทับใจยืนยิ้มมองตามหลังอุบาสิกาคนนั้นที่เดินห่างออกไปคิดในใจอีกว่าขนาดลูกศิษย์ยังขนาดนี้แล้วครูบาอาจารย์ของเขาจะขนาดไหนนี่

ประทับใจในการสอนธรรมะของวัดพระธรรมกาย

     หลังจากนั้นดิฉันก็เริ่มติดวัด แล้วก็เดินทางมาร่วมงานทุกอาทิตย์ต่อเนื่องกันมาก็ทำให้เข้าใจว่าข่าวที่ได้ฟังมาจากนอกวัดอีกอย่างหนึ่ง แต่มาที่วัดก็เห็นเป็นอีกแบบหนึ่ง เช่น มีคนมาบอกว่าหลวงพ่อยักยอกทรัพย์ แล้วพระที่นี่หลอกลวง แต่จริงๆท่านไม่ได้หลอกลวงท่านก็ไม่ได้ตำหนิว่าคุณถวายเท่านั้นเท่านี้ แต่ ว่าท่านกลับบอกว่า คุณทำบุญอย่างนี้แล้วจะได้บุญตามมาอย่างไร แล้วเราก็ใช้ปัญญาตรองตามคำที่ท่านบอกมาซึ่งปัญญานี้ก็ได้จากการนั่งสมาธิตามที่วัดนี้สอนมา แล้วก็มีความสุขด้วย

     ธรรมะที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านนำมาสอนก็ดีมากซึ่งดิฉันไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน เช่น เรื่อง ศีล 5 บางวัดที่เคยไปทำบุญเคยถามว่าทำไมไม่เทศนาเรื่องการรักษาศีล 5 บ้าง พระท่านก็ตอบว่า ถ้าอาตมาเทศน์ให้เขาทราบว่าการทำผิดศีลข้อไหนจะได้ผลของบาปอย่างไรก็เกรงว่าจะไม่มีคนมาทำบุญที่วัด แต่ว่าที่วัดพระธรรมกาย พระเดชพระคุณหลวงพ่อเทศน์ให้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่าคุณทำผิดศีลข้อนี้ แล้วคุณจะได้รับผลอย่างไรในอนาคตจะตกนรกขุมไหนทะลุปรุโปร่งหมดแต่ถ้าเราอยากมีชีวิตดีขึ้น สบายขึ้น และมีความสุขมากขึ้น ท่านก็จะสอนให้เราตั้งเป้าหมายชีวิตให้เรากำหนดรูปแบบชีวิตของเราเองด้วยการทำ ทาน การรักษาศีล การเจริญภาวนา ซึ่งดิฉันรู้สึกประทับใจและศรัทธาวัด และพยายามที่จะปฏิบัติตามคำสอน ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเสมอมา

เริ่มทำหน้าที่กัลยาณมิตรอยากให้คนรอบข้างมีความสุขเหมือนตน

     หลังจากที่แน่ใจว่าดิฉันชอบในคำสอนของวัดนี้ และไม่ได้หลงเพราะดื่มน้ำอย่างที่คนเขาพูดกันมา ดิฉันจึงมาวัดอยู่เสมอๆมีความรู้สึกว่าวัดนี้เหมือนวิมานของดิฉัน เพราะเดินอยู่ในวัดนี้เจอแต่คนที่มีรอยยิ้มแม้จะไม่เคยรู้จักกันเขาก็ยกมือไหว้เรา ทักทายเรา ยิ้มให้เรา ทำให้ดิฉันมีความสุขมากๆ แล้วจากจุดตรงนี้ทำให้ดิฉันเริ่มคิดถึงอีกหลายๆคนที่หน้าตาหม่นหมองอยากให้เขายิ้มเป็นอยากให้เขามีความสุขใจเหมือนเวลาที่ดิฉันมีความสุขอยู่ที่นี่ ก็เลยเริ่มไปชวนคนมาที่วัดพระธรรมกาย

     พอดิฉันสนทนากับใครก็ตามแค่เอ่ยคำว่า วัดพระธรรมกายพวกเขาจะไม่สนทนากับดิฉันบางคนเห็นหน้าดิฉันแล้วหลบเลย ดิฉันก็เลยเปลี่ยนจากสนทนาจากเรื่องวัดมาเป็นเรื่องตัวเอง เล่าเรื่องตัวเองให้เขาฟัง เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้เขาไว้คิด เล่าเรื่องความสุขที่ดิฉันได้รับจากวัด และเวลาพูดถึงความสุขก็จะทำให้ดิฉันมีหน้าตาที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ดวงตาก็เป็นประกายออกมาทำให้คนที่รับฟังก็พลอยยิ้มไปด้วย และดิฉันได้รับคำสอนอะไรจากวัด จะนำคำสอนจากวัดไปใช้ในชีวิตประจำวัน

     ยกตัวอย่างเช่น พระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชี โว ท่านเทศน์เรื่องทานอาหารแล้วมักง่ายไม่ล้างจาน ปล่อยทิ้งไว้ให้มดขึ้น พอจะไปเอาไปล้างต้องค่อยๆเอาสองนิ้วคีบจานโยนใส่กะละมังล้างน้ำ มดก็เลยแหงนหน้ามองเรา แล้วเกิดอาฆาตใจมดก็เศร้าหมองก็ตายไปตกนรกต่อ แล้วยังผูกพยาบาทกับเราด้วย และทำให้เราทำกรรมเพิ่มอีกซึ่งเราไม่มีวันฆ่ามดให้หมดไปจากโลกได้ เพราะว่ามีบางคนทำกรรมหนัก ตายแล้วต้องมาเกิดเป็นสัตว์เล็กๆอย่างนี้ ซึ่งมันเป็นการแก้ปัญหาที่ ปลายเหตุ ท่านก็บอกว่าต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยให้ถุงพลาสติกมาใส่กระป๋อง แล้วเอาเศษอาหารทิ้งลงไป พอเต็มก็มัดปากถุงให้ดีแล้วเอาไปทิ้ง ทำให้ไม่มีมดมารบกวน หรือเมื่อก่อนดิฉันก็เคยโดนกับดักหนูที่วางไว้หนีบหัวแม่โป้งจนต้องช่วยกันงัดออก แต่ว่าตอนนี้ไม่มีแล้ว เราก็ช่วยกันทำบ้านให้สะอาด

ชวนพี่ชาย ยอดนักดื่มไปปฏิบัติธรรม

     พี่ชายดิฉันมีครอบครัวแล้ว ช่วงหลังนี้มีปัญหาในครอบครัวก็จะดื่มเหล้ามากถึงขนาดตื่นนอนมาตีสี่ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ คว้าขวดเหล้ามาดื่มก่อนเลย เวลาคุยกันนี่ได้กลิ่นเหล้าตลอด ดิฉันก็คิดหาวิธีจะชวนพี่ชายไป ปฏิบัติธรรมให้ได้ก็ลองไปชวนพี่ชายก็อ้างว่าอดเหล้าไม่ได้ กลัวท้องเสีย และต้องรักษาศีล 8 ด้วย ดิฉันก็บอกพี่ว่าให้ลองอดเหล้าสัก 2-3 วันก่อนไปปฏิบัติธรรม และปกติพี่ชายก็ไม่ได้ทานอาหารมื้อเย็นอยู่แล้ว เห็นดื่มแต่เหล้าทุกวัน แล้วก็ให้พี่ชายชวนเพื่อนที่ดื่มด้วยกันไปเป็นเพื่อนด้วย และได้ขอร้องผู้ใหญ่บ้านและคุณ ไพลินช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้ในคราวนั้นด้วย

   วันแรกที่พี่ชายกลับมาจากการปฏิบัติธรรมก็มากอดดิฉันแล้วก็ร้องไห้ ดิฉันก็ร้องตามด้วยเขาบอกว่า พี่เกิดใหม่แล้วŽ เพราะเขาบอกว่าที่ไปปฏิบัติธรรมเป็นเหมือนที่เขาคุ้นเคย แล้วคนที่นั่นแม้ไม่รู้จักกันก็เหมือนเป็นพี่เป็นน้องกันและทำให้เขารู้ดีรู้ชั่วเข้าใจชีวิต ก็เลยประกาศหักดิบไม่ดื่มเหล้าอีกเลย เพราะพระอาจารย์ที่นั่นเทศน์ให้ข้อมูลเต็มที่ หลังจากนั้นเวลาดิฉันไปสวดมนต์ที่ไหนพี่ชายเขาก็จะตามไปสวดมนต์ด้วย

เป็นกัลยาณมิตรให้ครอบครัวพี่เขย

     พี่เขยของดิฉัน ถ้าไม่ดื่มเหล้าก็จะเป็นคนดี ขยัน เอาใจใส่ดูแลบ้าน นิสัยโอบอ้อมอารีมากแต่พอดื่มเหล้าเข้าปากนี่เปลี่ยนนิสัยเลย จะเกเรหาเรื่องคนอื่นไม่ได้ก็จะหาเรื่องกับพี่น้อง โดยเฉพาะภรรยาของเขา ทั้งด่าและตบตีภรรยาเป็นประจำ

     วันหนึ่งที่ดิฉันรู้สึกสะเทือนใจมาก ที่เห็นพี่เขยกับพี่สาวทะเลาะกันรุนแรงมาก และมีการทำลายข้าวของในบ้านด้วย วันนั้นฝนก็ตกหนักพายุก็แรง ได้ยินเสียงหลานมาเรียกดิฉันก็วิ่งลงจากบ้านไปบ้านพี่เขย พอไปถึงก็เอาโต๊ะฟาดพี่เขยก่อนเลย แต่พี่เขยก็เอามือกันไว้และก็บอกว่า มึงมาตีกูทำไมพี่เขยถูกพี่สาวเอามีดแทงตรงไหปลาร้าแล้วหลบไปอยู่ห้อง

   หลังจากวันนั้นไม่นาน พี่สาวดื่มเหล้าแล้วก็กินยาฆ่าแมลงฆ่าตัวตายต่อหน้า โดยที่พี่เขยก็ไม่ได้ห้าม แต่ลูกชายของพี่สาวกระโดดปัดขวดออกก็ไม่ทัน แล้วนำแม่ของเขามาล้างท้องที่โรงพยาบาล แต่ก็อยู่ได้แค่ 2 คืน พี่สาวก็เสียชีวิต 

       บรรยากาศในงานศพค่อนข้างเคร่งเครียด เพราะลูกและเพื่อนบ้านต่างลงความเห็นว่าพ่อผิด ทำให้แม่ ตาย ดิฉันจึงเรียกหลานๆมาคุยปลอบใจ ก็บอกเขาไปว่าแม่ดื่มเหล้าไปก็เลยกล้าทำอย่างนี้ถ้าไม่ดื่มเหล้าคงไม่ทำเช่นนี้ และสอนเขาไปว่าหนูก็อย่าดื่มเหล้า และก็ไปคุยกับพี่เขยด้วย แต่พี่เขยก็ไม่สะทกสะท้านอะไรก็กลับไปดื่มเหล้าและทำตัวเจ้าชู้ต่อไปอีก

      อยู่มาวันหนึ่ง ดิฉันก็ชวนพี่เขยไปเที่ยวเชียงใหม่ไปปฏิบัติธรรมโดยบอกว่าไปแล้วสามารถพักผ่อนทั้งร่างกายและจิตใจ แต่พี่เขยก็อึ้งไปแม้เขาจะต่อต้านวัดพระธรรมกาย พี่เขยก็ถามจะไปเมื่อไหร่ ดิฉันก็บอกว่าวันอาทิตย์หน้า เขาก็นิ่งไป พอถึงวันอาทิตย์พี่เขยก็ได้ไปปฏิบัติธรรม ดิฉันดีใจมากไม่คิดว่าเขาจะไปได้

พี่เขยหักดิบเลิกเหล้า

     หลังจากที่พี่เขยได้ไปปฎิบัติธรรมที่นั่นก็จะมีการประชุมกลุ่มกัน เขาก็ร้องไห้ใหญ่เลยและบอกในกลุ่มว่าจะหยุดดื่มเหล้า มีคนถามเขาว่าคิดอย่างไรถึงจะหยุดเหล้า เขาบอกว่าพอได้นั่งสมาธิแล้วก็คิดทบทวนดูว่าเขาปกครองลูกไม่ได้ เพราะว่าเขาเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีดื่มเหล้า จึงจะตัดสินใจเลิก ดิฉันรู้สึกดีใจมากที่สามารถชวนพี่เขยมา แล้วเขาก็ตัดสินใจเลิกเหล้าได้อย่างเด็ดขาด

     พอกลับมาถึงบ้านตื่นตอนเช้าพี่เขยก็มาใส่บาตรด้วยกันซึ่งแต่ก่อนไม่เคยตื่นมาใส่บาตรเลยเพราะว่าเมาตั้งแต่เช้าเลยก็ทำให้บรรดาญาติๆ และครอบครัวของพี่เขยดีขึ้นมาก เพราะก่อนหน้านี้พี่เขยทะเลาะกับคนอื่นๆ ตลอดเวลา ขนาดว่าจะไม่นับญาติกันแล้วระหว่างพี่น้องหลานก็มาขอบคุณดิฉันที่ทำให้พ่อเขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีได้ และก็แนะนำให้หลานไปบอกพ่อให้เอาจานดาวธรรมมาติด เพื่อจะให้พ่อได้เห็นหลวงพ่อได้ฟังเทศน์ ซึ่งจะทำให้พ่ออยู่ในบุญห่างจากเพื่อนขี้เหล้าที่คุ้นเคยได้Ž

   จากเรื่องที่นำมาเป็นกรณีศึกษา อาจกล่าวได้ว่าผู้ทำหน้าที่กัลยาณมิตรนั้นมีหน้าที่สำคัญที่ส่งผลให้คนรู้จักการพัฒนาตนเองเพื่อให้เป็นคนดีของสังคมแม้จะประสบปัญหาหรือความทุกข์ก็สามารถเผชิญหน้ากับความทุกข์ได้อย่างมีสติให้พิจารณาสิ่งต่างๆโดยใช้เหตุผลด้วยสติปัญญาและมีความหวังกับชีวิตว่าจะต้องดีขึ้นถ้าหากกระทำความดี มีศรัทธามั่นคงในการทำบุญและให้ทานตลอดจนการรักษาศีล และการเจริญ ภาวนา เพื่อสั่งสมบุญบารมีไว้ในภายภาคหน้าและยังนำไปสู่การมีจิตใจโอบอ้อมอารีให้อภัยเพื่อนมนุษย์ไม่ผูกพยาบาทเชื่อฟังเคารพนับถือบุคคลตามลำดับอาวุโส และยึดมั่นในความกตัญญูต่อผู้มีอุปการคุณมีความสงบเสงี่ยมนอบน้อม สำรวม เกรงใจผู้อื่น และมีความระมัดระวัง รอบคอบ ฯลฯ และในที่สุดนอกจากจะสามารถเป็นกัลยาณมิตรให้กับตนเองแล้วยังสามารถเป็นกัลยาณมิตรให้กับคนอื่นต่อไปอีกได้

 

 

จากหนังสือ DOU
วิชา DF 202 ทักษะการทำหน้าที่กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0011783997217814 Mins