ชาดก 500 ชาติ รวมนิทานชาดกพร้อมภาพประกอบ คติธรรม ข้อคิดสอนใจ

ชาดก 500 ชาติ : ชาดก 500ชาติรวมชาดก 500 ชาติพร้อมภาพประกอบ  ข้อคิดสอนใจ

ชาดก คือ เรื่องราวหรือชีวประวัติในอดีตชาติของพระโคตมพุทธเจ้า คือ สมัยที่พระองค์เป็นพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีอยู่ พระองค์ทรงนำมาเล่าให้พระสงฆ์ฟังในโอกาสต่าง ๆ เพื่อแสดงหลักธรรมสุภาษิตที่พระองค์ทรงประสงค์ เรียกเรื่องในอดีตของพระองค์นี้ว่า ชาดก ชาดกเป็นเรื่องเล่าคล้ายนิทาน บางครั้งจึงเรียกว่า นิทานชาดก

ชาดก 500 ชาติ :: อรรถกถา ปลาสชาดก ว่าด้วย เหตุที่จะต้องหนีจากไป

อรรถกถา ปลาสชาดก

ว่าด้วย เหตุที่จะต้องหนีจากไป

 

                 ในอดีตกาล ณ เขตเขาจิตตกูฏ สถานที่ลึกลับยังไม่มีมนุษย์คนใดย่างกรายเข้ามาแม้แต่น้อย และแน่นอนระบบนิเวศยังคงสมบรูณ์ ภายในเต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวขจี กว้างสุดลูกหูลูกตา มีสัตว์หลากหลายสายพันธุ์อาศัยอยู่มากมาย ร่วมถึงหงส์สีทอง ที่อาศัยอยู่ถ้ำทอง เขตภูเขาแห่งนี้ ในทุกๆเช้า เจ้าหงส์ทองมักเที่ยวออกหาข้าวสาลี ที่ขึ้นอยู่แถวริมสระน้ำเป็นอาหาร  ขณะที่กำลังบินผ่านต้นทองหลาง "สวัสดีท่านรุกขเทวดาวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง" "สบายดี อ้อมีนกคู่หนึ่งมาสร้างรังที่บ้านของข้าด้วย แล้วท่านจะไปไหนล่ะ" "บึงแถวๆนี้ ข้าไปก่อนนะ"

 

 

                 ทั้งสองมักทักทายกันเช่นนี้เป็นประจำ จนกระทั่งวันหนึ่ง หงส์สีทองได้บินโฉบลงเบื้องล่างก่อนที่จะเข้าไปเกาะที่โขดหินขนาดใหญ่ อยู่ไม่ไกลจากต้นทองหลางมากนัก "วันนี้คงจะเกิดพายุฝนแน่ๆ" "ไม่น่านะท่าน ฟ้าใสขนาดนี้ฝนจะตกได้อย่างไร" เมื่อรุกเทวดาได้ยินคำตอบของหงส์ถึงกลับกลั้นหัวเราะ  "ไม่ใช่ๆ ข้าแซวท่านเฉยๆ เพราะว่าทุกครั้งที่เราเจอกัน ท่านมักจะบินผ่านไปพร้อมกับพูดคุยเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่วันนี้ถึงกับลดตัวลงมาคุยกับข้า เลยอดแปลกใจไม่ได้" " ฮ่าๆเช่นนั้นหรือ ก็ไม่มีอะไรสำคัญหรอกข้าแค่อยากพูดคุยกับท่านเท่านั้น"

 

 

                "อย่างนั้นหรือ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ข้าอยู่ตรงนี้ไม่มีเพื่อนคุยเลย ถ้ามีท่านก็ช่วยให้ข้านั้นชุ่มชื่นหัวใจขึ้นมาเยอะ" "เอาอย่างนี้ไหมข้าจะพยายามแวะมาคุยเป็นเพื่อนท่านบ่อยๆแล้วกัน" "ดีเลย!" แววตาของรุกขเทวดาเปล่งประกายระยิบระยับ ก่อนที่เจ้าตัวจะเอ่ยขึ้น "ท่าน...ข้ามีอะไรจะอวด" "อะไรหรือ" มือใหญ่ชี้ไปทางกล้าไม้ที่งอกอยู่ไม่ไกลจากบ้านของตนนัก  "ท่านรู้ไหมนี้คือต้นอะไร" "โถ...ท่าน ข้าไม่ใช่นักพฤกษศาสตร์นะ จะไปรู้ได้ยังไง" รุกขเทวดาอมยิ้มก่อนตอบ "นี่คือต้นไทร เมื่อสามเดือนที่แล้ว มีแม่นกที่อยู่ไม่ไกลจากแถวนี้กินลูกไทรแก่จากป่าฟากโน้น ก่อนจะบินมาถ่ายมูลที่นี่ และแล้วมูลที่นางถ่าย ก็กลายเป็นต้นกล้าอย่างที่ท่านเห็น"

 

 

%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%871.jpg

 

               

                 หงส์สีทองนิ่งไปชั่วครู่ก่อนที่จะเอ่ยกับรุกเทวดา "ท่านถอนต้นกล้านี้ออกเถิด" "ทำไมล่ะ" "เมื่อต้นไทรโตขึ้นมักจะทำให้ต้นไม้ที่อยู่รอบๆ ค่อยๆตายและพุพังไป เนื่องจากรากของต้นไม้นี้มักจะชอนไชแผ่ขยายออกจนกลืนรากของต้นไม้อื่นๆ ถ้าปล่อยไว้เช่นนี้วิมานของท่านจะพังเอา" เจ้าหงส์ทองเตือนรุกเทวดาอย่างเป็นห่วง "ท่านคิดมากน่าาา.. ข้าอยู่ที่นี่มานานแล้ว ไม่เคยเห็นต้นไม้ที่ร้ายกาจอย่างที่ท่านเอ่ยสักครั้ง" "ถ้าไม่เชื่อก็แล้วแต่ทันเลย" จากนั้นทั้งคู่ก็สนทนาเรื่องต่างๆ จนกระทั้งพระอาทิตย์ขึ้นเกือบกลางหัว  เจ้าหงส์สีทองเงยหน้ามองท้องฟ้า ก่อนที่เจ้าตัวจะอุทาน "โอ้..." "นี่ก็สายมากแล้วข้ามัวแต่คุยกับท่านเสียเพลินเลย งั้นไปก่อนนะ"

 

 

                เมื่อเวลาผ่านไป ต้นไทรที่เคยเป็นกล้าน้อยค่อยๆเติบใหญ่ ภัยพิบัติก็ถือกำเนิดขึ้นกับต้นทองหลางที่เคยเขียวขจีกลับเริ่มเปลี่ยนไป จากใบที่เคยเขียวดำมันเงายามต้องแสงอาทิตย์กลับกลายเป็นสีเหลือง รุกขเทวดายืนมองวิมานของตน "เฮ้อดูซิ ทำไมวิมารของเราเป็นเช่นนี้" ขณะเดียวกันก็หันยังต้นกล้า ที่ตอนนี้กลายเป็นต้นไทรใหญ่ไปเสียแล้ว "มีเพื่อนบ้านก็เป็นเรื่องที่ดีนะช่วยให้ไม่เหงา แต่ทำไมบ้านของข้าถึงเป็นเช่นนี้เล่า"

 

 

%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%872.jpg

         

 

                 รุกขเทวดาต้นทองหลาง ครุ่นคิดหาสาเหตุที่จู่ๆ บ้านของตนค่อยโทรมลง แต่ขณะที่ต้นไทรเพื่อนบ้านงามเอา งามเอา ก่อนความคิดหนึ่งจะแวบเข้ามา เมื่อตอนคุยกับหงส์สีทอง "ถ้ายังปล่อยให้ต้นไม้นี้ไว้ บ้านของท่านยังจะค่อยๆพังลง หรือว่าเจ้าหงส์สีทองนั้นพูดจะเป็นความจริง"

 

 

                 "ไม่น่าเลยพระยาหงส์เห็นภัยในอนาคตข้อนี้จึงเอ่ยเตือน ส่วนเราไม่เชื่อพูดของพระยาหงส์บัดนี้ ต้นไทรนี้ทำให้เราหวาดกลัว ภัยอันใหญ่หลวงได้มาถึงเราแล้ว" เทวดาคร่ำครวญว่า บัดนี้ภัยใหญ่มาถึงเราแล้วฝ่ายต้นไทรก็เจริญเติบโตขึ้นรุกรานต้นทองหลาง จนกระทั้งเหลือแต่ตอ จนในที่สุดวิมานของเทวดาก็หายไปหมดสิ้น


 

%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%873.jpg

 


https://84000.org/tipitaka/atita100/space1.gif             ผู้ใดเมื่อเติบโตขึ้นทำให้ที่พึ่งอาศัยพินาศลง  ผู้มีปัญญาจะไม่ยกย่องย่องคนที่เป็นเช่นนี้ นักปราชญ์ผู้รังเกียจความพินาศ จึงเพียรพยายามตัดกิเลสออกจากชีวิตออกไปเสีย       
https://84000.org/tipitaka/atita100/space1.gif   

 

                ส่วนในชาดกนี้ พระศาสดาตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาแล้วตรัสว่า "ดูก่อนขึ้นชื่อว่ากิเลสควรจะรังเกียจ กิเลสแม้จะมีประมาณน้อยก็ทำให้ถึงความพินาศได้เหมือนหน่อต้นไทร แม้ในอดีตบัณฑิตทั้งหลายก็รังเกียจสิ่งที่ควรรังเกียจมาแล้วเหมือนกัน" 


https://84000.org/tipitaka/atita100/space1.gif

                 พระศาสดา ครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว จึงประกาศสัจจะ แล้วทรงประชุมชาดก ในเวลาจบสัจจะ ภิกษุ ๕๐๐ รูปได้บรรลุพระอรหันต์


https://84000.org/tipitaka/atita100/space1.gifหงส์ทองในครั้งนั้น ได้เป็น เราตถาคต ฉะนี้แล


 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

* * ชาดก 500 ชาติ แนะนำ * *

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล