รวมนิทานชาดกพร้อมภาพประกอบสีสดใส ข้อคิดจากชาดก นิทานชาดกภาษาอังกฤษ วีดีโอนิทาน

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

นิทานชาดก : มังคลชาดก ว่าด้วยถือมงคลตื่นข่าว

mong%20kol%20cha%20dok-14-6-63-b.jpg

มังคลชาดก ว่าด้วยถือมงคลตื่นข่าว


               ได้ยินว่า พราหมณ์ชาวพระนครราชคฤห์ผู้หนึ่งเป็นผู้ถือมงคลตื่นข่าว ไม่เลื่อมใสในพระรัตนตรัย เป็นมิจฉาทิฏฐิ มั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มีโภคะมาก. หนูกัดคู่แห่งผ้าสาฎกที่เขาเก็บไว้ในหีบ ครั้นถึงเวลาที่เขาสนานเกล้า กล่าวว่า จงนำผ้าสาฎกมา คนทั้งหลายจึงบอกการที่หนูกัดผ้าแก่เขา เขาคิดว่า ด้วยผ้าสาฎกทั้งคู่ที่หนูกัดนี้ จักคงมีในเรือนนี้ละ ก็ความพินาศอย่างใหญ่หลวงจักมี เพราะผ้าคู่นี้เป็นอวมงคล เช่นกับตัวกาฬกรรณี ทั้งไม่อาจให้แก่บุตรธิดาหรือทาสกรรมกร เพราะความพินาศอย่างใหญ่หลวงจักต้องมีแก่ผู้ที่รับผ้านี้ไป ทุกคนต้องให้ทิ้งมันเสียที่ป่าช้าผีดิบ แต่ไม่กล้าให้ในมือพวกทาสเป็นต้น เพราะพวกนั้นน่าจะเกิดโลภในผ้าคู่นี้ ถือเอาไปแล้วถึงความพินาศไปตามๆ กันได้ เราจักให้ลูกถือผ้าคู่นั้นไป เขาเรียกบุตรมาบอกเรื่องราวนั้น แล้วใช้ไปด้วยคำว่า พ่อคุณ ถึงตัวเจ้าเองก็ต้องไม่เอามือจับมัน จงเอาท่อนไม้คอนไปทิ้งเสียที่ป่าช้าผีดิบ อาบน้ำดำเกล้าแล้วมาเถิด.


               แม้พระบรมศาสดาเล่า ในวันนั้นเวลาใกล้รุ่ง ทรงตรวจพวกเวไนยสัตว์ เห็นอุปนิสัยแห่งโสดาปัตติผลของพ่อลูกคู่นี้ ก็เสด็จไปเหมือนพรานเนื้อตามรอยเนื้อ ฉะนั้น ได้ประทับยืน ณ ประตูป่าช้าผีดิบ ทรงเปล่งพระพุทธรังษี ๖ ประการอยู่. แม้มาณพรับคำบิดาแล้ว คอนผ้าคู่นั้นด้วยปลายไม้เท้า เหมือนคอนงูเขียว เดินไปถึงประตูป่าช้าผีดิบ. ลำดับนั้น พระศาสดารับสั่งกะเขาว่า มาณพ เจ้าทำอะไร? มาณพกราบทูลว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ผ้าคู่นี้ถูกหนูกัด เป็นเช่นเดียวกับตัวกาฬกรรณี เปรียบด้วยยาพิษที่ร้ายแรง บิดาของข้าพระองค์เกรงว่า เมื่อผู้ทิ้งมันเป็นคนอื่น น่าจะเกิดความโลภขึ้นถือเอาเสีย จึงใช้ข้าพระองค์ ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ข้าพเจ้าเองก็มาด้วยหวังว่า จักทิ้งมันเสีย. พระศาสดาตรัสว่า ถ้าเช่นนั้น ก็จงทิ้งเถิด. มาณพจึงทิ้งเสีย.


               พระศาสดาตรัสว่า คราวนี้สมควรแก่เราตถาคต ดังนี้แล้ว ทรงถือเอาต่อหน้ามาณพนั้นทีเดียว ทั้งๆ ที่มาณพนั้นห้ามอยู่ว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ นั่นเป็นอวมงคลเหมือนตัวกาฬกรรณี อย่าจับ อย่าจับเลย พระศาสดาก็ทรงถือเอาผ้าคู่นั้น เสด็จผันพระพักตร์มุ่งหน้าตรงไปพระเวฬุวัน.


               มาณพรีบไปบอกแก่พราหมณ์ผู้บิดาว่า คุณพ่อครับ คู่ผ้าสาฎกที่ผมเอาไปทิ้งที่ป่าช้าผีดิบนั้น พระสมณโคดมตรัสว่า ควรแก่เรา ทั้งๆ ที่ผมห้ามปราม ก็ทรงถือเอาแล้วเสด็จไปสู่พระเวฬุวัน ถึงพระสมณโคดมทรงใช้สอยมัน ก็ต้องย่อยยับ แม้พระวิหารก็จักพินาศ ทีนั้น พวกเราจักต้องถูกครหา เราต้องถวายผ้าสาฎกอื่นๆ มากผืนแด่พระสมณโคดม ให้พระองค์ทรงทิ้งผ้านั้นเสีย เขาให้คนถือผ้าสาฎกหลายผืน ไปสู่พระวิหารเวฬุวันกับบุตร ถวายบังคมพระศาสดา แล้วยืนอยู่ ณ ส่วนข้างหนึ่ง กราบทูลอย่างนี้ว่า ข้าแต่พระสมณโคดม ได้ยินว่า พระองค์ทรงถือเอาคู่ผ้าสาฎกในป่าช้าผีดิบ จริงหรือ พระเจ้าข้า? ตรัสว่า จริง พราหมณ์. กราบทูลว่า ข้าแต่พระสมณโคดม คู่ผ้าสาฎกนั้นเป็นอวมงคล เมื่อพระองค์ทรงใช้สอยมัน จะต้องย่อยยับ ถึงพระวิหารทั้งสิ้นก็จักต้องทำลาย ถ้าผ้านุ่งผ้าห่มของพระองค์มีไม่พอ พระองค์โปรดรับผ้าสาฎกเหล่านี้ไว้ ทิ้งคู่ผ้าสาฎกนั้นเสียเถิด.


               ครั้งนั้น พระศาสดาตรัสกะเขาว่า พราหมณ์ พวกเรามีนามว่าบรรพชิต ผ้าเก่าๆ ที่เขาทิ้ง หรือตกอยู่ในที่เช่นนั้น คือที่ป่าช้าผีดิบ ที่ท้องถนน ที่กองขยะ ที่ท่าอาบน้ำ ที่หนทางหลวง ย่อมควรแก่พวกเรา ส่วนท่านเองมิใช่แต่จะเพิ่งเป็นคนมีลัทธิอย่างนี้ในบัดนี้เท่านั้น แม้ในครั้งก่อน ก็เคยมีลัทธิอย่างนี้เหมือนกัน.


               เขากราบทูลอาราธนา ทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้ :-


               ในอดีตกาล พระเจ้ามคธราชผู้ทรงธรรม เสวยราชสมบัติในพระนครราชคฤห์ แคว้นมคธ. ครั้งนั้น พระโพธิสัตว์เกิดในสกุลอุทิจจพราหมณ์สกุลหนึ่ง ถึงความเป็นผู้รู้เดียงสาแล้ว บวชเป็นฤๅษี ยังอภิญญาและสมาบัติให้เกิดแล้ว พำนักอยู่ในป่าหิมพานต์.


               ในกาลครั้งหนึ่ง ออกจากป่าหิมพานต์มาถึงพระราชอุทยานในพระนครราชคฤห์ พำนักอยู่ที่นั้น วันที่สองเข้าสู่พระนครเพื่อต้องการภิกขาจาร พระราชาทอดพระเนตรเห็นท่านแล้ว รับสั่งให้นิมนต์มา อาราธนาให้นั่งในปราสาท ให้ฉันโภชนาหารแล้ว ทรงถือเอาปฏิญญาเพื่อการอยู่ในพระอุทยานตลอดไป. พระโพธิสัตว์ฉันในพระราชนิเวศน์ พักอยู่ในพระราชอุทยาน.

 

               กาลครั้งนั้น ในพระนครราชคฤห์ ได้มีพราหมณ์ชื่อว่าทุสสลักขณพราหมณ์ (พราหมณ์ผู้รู้ลักษณะผ้า).


               เรื่องทั้งปวงตั้งแต่ เขาเก็บคู่ผ้าสาฎกไว้ในหีบเป็นต้นไปเช่นเดียวกันกับเรื่องก่อน นั่นแหละ (แปลกแต่ตอนหนึ่ง) เมื่อมาณพไปถึงป่าช้า พระโพธิสัตว์ไปคอยอยู่ก่อนแล้ว นั่งอยู่ที่ประตูป่าช้า เก็บเอาคู่ผ้าที่เขาทิ้งแล้วไปสู่อุทยาน มาณพไปบอกแก่บิดา. บิดาคิดว่า ดาบสผู้ใกล้ชิดราชสกุล จะพึงฉิบหาย จึงไปสำนักพระโพธิสัตว์ กล่าวว่า ข้าแต่พระดาบส ท่านจงทิ้งผ้าสาฎกที่ท่านถือเอาแล้วเสียเถิด จงอย่าฉิบหายเสียเลย.


               พระดาบสแสดงธรรมแก่พราหมณ์ว่า ผ้าเก่าๆ ที่เขาทิ้งไว้ในป่าช้า ควรแก่พวกเรา พวกเรามิใช่พวกถือมงคลตื่นข่าว ขึ้นชื่อว่าการถือมงคลตื่นข่าวนี้ พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ไม่สรรเสริญเลย เหตุนั้น บัณฑิตต้องไม่เป็นคนถือมงคลตื่นข่าว.


               พราหมณ์ฟังธรรมแล้วทำลายทิฏฐิเสีย ถึงพระโพธิสัตว์เป็นสรณะแล้ว แม้พระโพธิสัตว์ก็มีฌานมิได้เสื่อม ได้เป็นผู้มีพรหมโลกเป็นที่ไปในเบื้องหน้า แม้พระบรมศาสดาทรงนำเรื่องอดีตนี้มาแล้ว ครั้นตรัสรู้พระสัมโพธิญาณแล้ว เมื่อจะทรงแสดงธรรมแก่พราหมณ์ 

               ผู้ใดไม่ถือมงคลตื่นข่าว ไม่ถืออุกกาบาต ไม่ถือความฝัน ไม่ถือลักษณะดีหรือชั่ว ผู้นั้นชื่อว่า ล่วงพ้นโทษแห่งการถือมงคลตื่นข่าว ครอบงำกิเลสเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพที่เป็นคูกั้น ย่อมไม่กลับมาเกิดอีก ดังนี้.
        
               ท่านผู้ใดถอนได้หมดแล้ว คือไม่เชื่อถือเอาเป็นมงคล หรืออวมงคลแก่ตน ด้วยเรื่องอุปบาตเป็นต้นเหล่านี้.  ท่านผู้นั้นเป็นภิกษุผู้ขีณาสพ ล่วงพ้น ก้าวผ่าน ละเสียได้ซึ่งโทษแห่งมงคลทุกอย่าง.


               กิเลสที่มารวมกันเป็นคู่ๆ โดยนัยมีอาทิว่า โกธะความโกรธ และอุปนาหะความผูกโกรธ มักขะความลบหลู่ และปลาสะความตีเสมอ ดังนี้ ชื่อว่ายุคะ. กิเลส ๔ อย่างเหล่านี้ คือ กามโยคะ ภวโยคะ ทิฏฐิโยคะ อวิชชาโยคะ ชื่อว่าโยคะ เพราะเป็นเหตุประกอบสัตว์ไว้ในสงสาร ภิกษุผู้เป็นพระขีณาสพ บรรลุแล้วคือ ครอบงำไว้ได้แล้ว ล่วงพ้นแล้ว ได้แก่ผ่านไปแล้วด้วยดี ซึ่งยุคและโยคะ คือทั้งยุคและโยคะเหล่านั้น.


               พระบรมศาสดาทรงแสดงธรรมแก่พราหมณ์ ด้วยพระคาถานี้ ด้วยประการฉะนี้ แล้วทรงประกาศสัจธรรม เมื่อจบสัจจะ พราหมณ์กับบุตรดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล.


               พระศาสดาทรงประชุมชาดกว่า


                         บิดาและบุตรในครั้งนั้น ได้มาเป็นบิดาและบุตรคู่นี้แหละ
                         ส่วนดาบสได้มาเป็น เราตถาคต ฉะนี้แล.

นิทานชาดก เรื่องเดียวกันหน้าอื่นๆ
รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

ทุพพจชาดก-ชาดกว่าด้วยผู้ดื้อรั้นว่ายาก

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

กโปตกชาดก-ชาดกว่าด้วยความเป็นผู้มีใจโลเล

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

สุวรรณหังสชาดก-โลภมากลาภหาย

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

มิตจินติชาดก ว่าด้วย ปลาช่วยปลาให้พ้นข่าย

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

 มูสิกาชาดก หนูกับสุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

สมุคคชาดก ฤๅษีกับยักษ์  เปรียบหญิงมีอาการคล้ายก้นเหว

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

สสปัณฑิตชาดก ว่าด้วยผู้สละชีวิตเป็นทาน

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

มังคลชาดก ว่าด้วยถือมงคลตื่นข่าว

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

มหาสุบินชาดก  ว่าด้วย ความฝันของพระเจ้าปเสนทิโกศล ๑๖ ข้อ

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

ขันธปริตตชาดก ว่าด้วย พระปริตต์ป้องกันสัตว์ร้ายต่างๆ

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

พันธนาคารชาดก ว่าด้วย เครื่องผูก

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

ติตติรชาดก ว่าด้วย บาปเกิดจากความจงใจ

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

ราธชาดก ว่าด้วย เรื่องจริงเก่าไม่ดีไม่ควรพูด

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

พยัคฆชาดก ว่าด้วย เรื่องของมิตร

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

ชวสกุณชาดก ว่าด้วย ผู้ไม่มีกตัญญูไม่ควรคบ

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

สาลิตตกชาดก ว่าด้วยคนมีศิลปะ

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

หริตจชาดก ว่าด้วย กิเลสที่มีกำลังกล้า

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

อันตชาดก ว่าด้วย ที่สุด ๓ ประเภท คนชั่วสรรเสริญกันเอง 

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

อาทิจจุปัฏฐานชาดก ว่าด้วย ลิงไหว้พระอาทิตย์

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

นามสิทธิชาดก ว่าด้วย ชื่อไม่เป็นของสำคัญ

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

วิสสาสโภชนชาดก ว่าด้วย การไว้วางใจ

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

สีลวีมังสชาดก ว่าด้วย ความลับไม่มีในโลก

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

สัญชีวชาดก ว่าด้วย โทษที่ยกย่องอสัตบุรุษ

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

อนุสาสิกชาดก ว่าด้วย ดีแต่สอนผู้อื่น

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

สุราปานชาดก ว่าด้วย โทษของการดื่มสุรา

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

สมุททชาดก ว่าด้วย กากินน้ำทะเล

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

สาลิยชาดก ว่าด้วย ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

ตักกชาดก ว่าด้วยเลห์เหลี่ยมของหญิงเจ้าชู้

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

อสาตมันตชาดก ว่าด้วย วิสัยของหญิงส่วนมาก

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

อัณฑภูตชาดก ชาดกว่าด้วยหญิงที่เลี้ยงไว้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

สุงสุมารชาดกว่าด้วย ผู้มีปัญญาไม่สมกับตัว

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

ทัพพปุบผาชาดก ว่าด้วย แบ่งกันไม่ลงตัว

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

คหปติชาดก ว่าด้วย การทวงในเวลายังไม่ถึงกำหนด

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

สีลวนาคชาดก ว่าด้วย คนอกตัญญูมองคนในแง่ร้าย

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

ราธชาดก ว่าด้วย พูดเพ้อเจ้อเพราะความเขลา

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

สตธรรมชาดก ว่าด้วย สตธรรมมาณพ

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

มังสชาดก ว่าด้วย วาทศิลป์ของคนขอ

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

ราโชวาทชาดก ว่าด้วย คุณสมบัติของผู้นำ

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

รุหกชาดก ชาดกว่าด้วย รุหกะปุโรหิต

รูปนิทานชาดกอรรถกถาชาดก

อัฏฐสัททชาดก ว่าด้วย สดับเสียง ๘ อย่าง

คำค้น :: นิทานชาดก มิใช่เรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อสอนคุณธรรม แต่นิทานชาดก คือ เรื่องในอดีตชาติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นิทานธรรมะที่พระองค์ทรงแสดงไว้แล้วอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังมีนิทานภาษาอังกฤษ วีดีโอนิทาน คลิปนิทาน การ์ตูนสุภาษิต ให้ศึกษา เพื่อให้เป็น นิทานเยาวชน นิทานเด็ก นิทานสอนใจ นิทานคุณธรรมเพื่อจรรโลงจิตใจ ผู้ศึกษาให้รักในคุณงามความดี นิทา,นิทานชาดก,นิทานชาดกพร้อมรูปภาพประกอบ,นิทาน, นิทานชาดก, นิทานไทย, นิทานธรรมะ, นิทานธรรมะไทย, นิทานเด็ก, คุณธรรม, การ์ตูนธรรมะ, การ์ตูนไทย, การ์ตูนภาพ, การ์ตูนช่อง, การ์ตูนนิทาน, การ์ตูนเด็ก, การ์ตูนสีขาว, นิทานธรรมะออนไลน์, นิทานธรรมะสอนคุณธรรม พระโพธิสัตว์,นิทานชาดกออนไลน์,นิทานชาดกเรื่องสั้น,นิทานชาดก หมายถึง,นิทานชาดกและคติสอนใจ,นิทานสองภาษา,นิทานสำหรับเด็ก,นิทานก่อนนอน
บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล